ยูนิตี้กรุ๊ป ลุยบริหารงานขายโครงการอสังหาฯ ภาคตะวันออกรับอีอีซี ระบุโซนศรีราชาฮอตทั้งคอนโดและแนวราบ ผลตอบแทนเช่า 5-7%

          น.ส.สุชารัตน์ แก้วประเสริฐ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยูนิตี้ กรุ๊ป เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหา ริมทรัพย์ในโซนภาคตะวันออกมีกำลังซื้อต่อเนื่อง โดยเฉพาะในศรีราชา ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ตามนโยบายระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่ปัจจุบันพบว่าตลาดบ้านเดี่ยวระดับราคา 2.59-3.5 ล้านบาท เป็นกลุ่มที่มีการดูดซับที่ดี ขณะที่คอนโดระดับ 1-3 ล้านบาท เริ่มชะลอตัว

          ทั้งนี้ บริษัทจะเน้นการทำตลาด เชิงรุกทั้งในตัวแทนบริหารงานขาย การพัฒนาโครงการและดูแลหลังการขาย โดยจะเน้นพื้นที่ กทม. ศรีราชา และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น นครราชสีมา ขอนแก่น เป็นต้น ซึ่งแต่ละปีจะรับ บริหารงานขายให้กับโครงการไม่เกิน 7 โปรเจกต์ มูลค่ารวมกว่าหมื่นล้านบาท

          น.ส.สุชารัตน์ กล่าวว่า ส่วนการพัฒนาโครงการจะเน้นแนวราบปีละ 2 โครงการในพื้นที่ศรีราชา ชลบุรี ระยอง โดยเป็นโครงการขนาดกลาง 30-40 ยูนิต ทั้งนี้มีแผนจะเปิดบ้านเดี่ยวหรือบ้านแฝดชั้นเดียวในต้นปี 2562

          ด้าน นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯ ในศรีราชาร้อนแรงไม่แพ้เมืองพัทยา แม้ว่าในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาลดความร้อนแรงลงบ้าง แต่ภาพรวม ก็ถือว่ายังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะการให้ผลตอบแทนจากการเช่าที่ค่อนข้างดีประมาณ 5-7% และยังเป็นทำเลที่มีความต้องการที่อยู่อาศัย ทั้งจากผู้ที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรม ท่าเรือแหลมฉบัง รวมถึงชาวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มญี่ปุ่น ที่สนใจตลาดที่อยู่อาศัยในศรีราชาเป็นจำนวนมาก

          สำหรับไตรมาส 3 ปีที่ผ่านมา ในพื้นที่ศรีราชามีโครงการเซอร์วิส อพาร์ต เมนต์ มากถึงเกือบ 30 โครงการ คอนโดอีกราว 23 โครงการ 9,390 ยูนิต มูลค่าการลงทุนราวกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท ขายแล้วกว่า 6,900 ยูนิต หรือ 73.5% จากอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด ซึ่งเหลือเพียงแค่ประมาณ 2,490 ยูนิตเท่านั้น

          ด้านบ้านจัดสรร มีอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายมากถึง 88 โครงการ 10,564 ยูนิต มูลค่าการลงทุนราวกว่า 3.1 หมื่นล้านบาท ขายไปแล้วราว 6,940 ยูนิต หรือ 65.7% เหลือขาย 3,624 ยูนิต และส่วนใหญ่เป็นทาวน์เฮาส์ถึงกว่า 5,120 ยูนิต หรือ 48.5% ของบ้านจัดสรรที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด รองมาคือบ้านเดี่ยวที่ 1,722 ยูนิต หรือ 16.3%

          ขณะที่อสังหาฯ ในอีอีซีไตรมาส 4 ปีนี้ และแนวโน้มปีหน้าคาด หลังผังเมืองอีอีซีมีความชัดเจนมากขึ้นจะยิ่งผลักดันให้ตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่อีอีซีมีแนวโน้มจะเติบโตมากยิ่งขึ้น เนื่องจากคาดการณ์ว่าแรงงานระดับหัวหน้างานอีกกว่า 5 แสนคน จะเข้าไปในพื้นที่ ซึ่งแน่นอนว่าบุคคลเหล่านั้นย่อมต้องการที่อยู่อาศัยในแหล่งงานและ พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเพิ่มอัตราโควตาของต่างชาติเป็น 100% ในโครงการคอนโด รวมทั้งสามารถถือครองที่ดิน ได้ ก็ยิ่งเป็นแรงกระตุ้นให้ที่อยู่อาศัยในอีอีซีร้อนแรง