ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง
Loading

เรียลเอสเตทชู ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งเจาะผู้ซื้อ

วันที่ : 6 ธันวาคม 2561
นับถอยหลังโค้งสุดท้ายของปี 2561 ซึ่งจากการแจงผลประกอบการไตรมาส 3 ของปีนี้ก็มีทั้งรายได้ที่เพิ่มขึ้นและลดลง แต่ส่วนใหญ่ล้วนกำไรจะมากน้อยก็ขึ้นกับการเร่งโอนกรรมสิทธิ์จากโครงการคอนโดมิเนียมที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ ทั้งนี้ส่วนหนึ่งที่ทำให้บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีอัตราการเติบโตก็คงเป็นสินค้าประเภทแนวราบที่มีรอบหมุนเร็วปิดการขายก่อสร้างและโอนได้ภายใน 1 ปี
          อรวรรณ จารุวัฒนะถาวร

          ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งเจาะผู้ซื้อ

          ภาคอสังหาฯ เร่งปรับตัวรับผู้ซื้อบนโลกออนไลน์ เผยบิ๊กเนมส่งแคมเปญแข่งเดือดชิงเค้กโค้งสุดท้ายปี

          นับถอยหลังโค้งสุดท้ายของปี 2561 ซึ่งจากการแจงผลประกอบการไตรมาส 3 ของปีนี้ก็มีทั้งรายได้ที่เพิ่มขึ้นและลดลง แต่ส่วนใหญ่ล้วนกำไรจะมากน้อยก็ขึ้นกับการเร่งโอนกรรมสิทธิ์จากโครงการคอนโดมิเนียมที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ ทั้งนี้ส่วนหนึ่งที่ทำให้บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีอัตราการเติบโตก็คงเป็นสินค้าประเภทแนวราบที่มีรอบหมุนเร็วปิดการขายก่อสร้างและโอนได้ภายใน 1 ปี

          สำหรับช่วงเวลาที่เหลือของปีแน่นอนว่าบรรดาดีเวลอป เปอร์ไม่ว่าจะบิ๊กเนมในตลาด หลักทรัพย์รวมทั้งผู้ประกอบการรายเล็กต่างต้องทำการบ้านอย่างหนักเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ให้ได้ ขณะที่มาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ออกหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยใหม่นั้นดูเหมือนจะเป็นการผลักดันให้ผู้ประกอบการต่างเร่งขายเร่งโอนสต๊อกสินค้าที่มีอยู่ในมือก่อนวันที่ 1 เม.ย. 2562

          อย่างไรก็ดี ภาพที่เห็นจากนี้คือการแข่งขันส่งเสริมการขายในตลาดที่รุนแรงมากขึ้นก่อนจะหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่และกลับมาคึกคักอีกครั้งในไตรมาสแรกปี 2562 และด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคอีกทั้งเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าการใช้งานโซเซียลมีเดียแต่ละแพลตฟอร์มมีความสำคัญต่อการทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งในวันนี้

          กิตติพงศ์ กิตติถาวรกุล กรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท แบ็คยาร์ด เปิดเผยถึงผลการศึกษาพฤติกรรมผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์บนโลกโซเชียลว่า ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ทั้งแนวราบ และสูงได้มีการพูดถึงและค้นหาใน ปีนี้เพิ่มขึ้นราว 31.77% หรือกว่า 1.09 แสนครั้ง จากปี 2560 อยู่ที่กว่า 8.3 หมื่นครั้ง โดยคอนโดมิเนียมเป็นตลาดที่ ต้องจับตามองเพราะมีสัดส่วนการพูดถึงมากสุดถึง 82.83% และคอนโด ประเภทโลว์ไรส์มีการพูดถึงมากในสัดส่วน 50.37%

          ทั้งนี้ จากแนวโน้มทางการตลาดพบโปรโมชั่นเกี่ยวกับ "พร้อมอยู่" ในโพสต์รีวิวคอนโดจากเพจรีวิวต่างๆมากสุด โดยโปรโมชั่นที่ลูกค้าให้ความสนใจมากที่สุด คือ โปรโมชั่นพร้อมอยู่ มีสัดส่วนถึง 60.64% โดยกลุ่มนี้บริษัทพัฒนาโครงการจะมีโปรโมชั่นในเรื่องพร้อมอยู่ไม่ว่าจะเป็น ห้องตกแต่งพร้อมอยู่ ห้องตัวอย่าง เฟอร์นิเจอร์ฟรี แถมฟรี เป็นต้น ซึ่งบิ๊กเนมในตลาดต่างๆ หันมาใช้กลยุทธ์นี้มากขึ้น

          ขณะที่รองลงมาที่มีการพูดถึงบนออนไลน์คือ การพรีเซล มีสัดส่วนถึง 23.20% ไม่ว่าจะเป็นราคาพรีเซล ลงทะเบียนรับส่วนลด ลดเพิ่ม จองยูนิตในงาน ผ่อนสบาย ส่วนลดเงินสด Cash Back ผ่อน 0% พิเศษเฉพาะในงาน จอง 0 บาท อยู่ก่อนผ่อนทีหลัง เป็นต้น สำหรับโปรโมชั่น Special Price มีสัดส่วนอยู่ที่ 11.93% เช่น ราคาพิเศษ ราคาดี อยู่ฟรี เป็นต้น ส่วนโปร After Sale มีสัดส่วนที่ 4.22% เช่น ฟรีโอน ฟรีค่าส่วนกลาง เป็นต้น

          สำหรับ 10 อันดับดีเวลอปเปอร์ ที่มีการพูดถึงพร้อมกับโปรโมชั่นพร้อมอยู่ มากที่สุดในปี 2560-2561 ได้แก่ บริษัท แสนสิริ 1,289 ครั้ง บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ 956 ครั้ง บริษัท ชีวาทัย 888 ครั้ง บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ 392 ครั้ง บริษัท ศุภาลัย 378 ครั้ง บริษัท แอสเซทไวส์ 333 ครั้ง บริษัท เจ้าพระยามหานคร (ซีเอ็มซี) 235 ครั้ง บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น 165 ครั้ง บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ 161 ครั้ง และบริษัท ณุศาศิริ 146 ครั้ง

          อย่างไรก็ดี ลูกค้าผู้ซื้อคอนโดยังมีความต้องการในเรื่องของความสะดวกสบายในการเดินทาง ดูแลง่าย และยังสนใจคอนโดที่อยู่ใจกลางเมืองหรือใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งโซนสุขุมวิท สาทร พระราม 9 เป็นย่านที่ถูกพูดถึงบนโลกออนไลน์มากที่สุด

          "ผลสำรวจดังกล่าว ทำให้ทราบถึงความต้องการของผู้บริโภคหรือผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งดีเวลอปเปอร์ทั้งหลายสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้พัฒนาพร้อมวางกลยุทธ์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ที่สำคัญคือการฟังเสียงของลูกค้าว่าต้องการอะไร ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น สินค้ามีหลากหลาย ดังนั้นต้องปรับตัวเข้าหาผู้บริโภค" กิตติพงศ์ กล่าว

          ด้าน พรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป จะมีการค้นหาข้อมูลก่อนที่จะมีการไปดูตามบูธในงานมหกรรมต่างๆ เพื่อเปรียบสิทธิพิเศษที่ทางโครงการจะมอบให้ ทั้งนี้ดีเวลอปเปอร์ต้องปรับตัวในทุกเรื่อง ซึ่งต่อไปการเจรจาจะเกิดขึ้นบนออนไลน์จากทั้ง 3 ฝ่ายคือ ผู้ซื้อ ผู้ขาย และแบงก์ที่ปล่อยกู้

          ทิวา ยอร์ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ดีเอฟ มาร์เก็ตเพลส กล่าวว่า 2 ปีที่ผ่านมา พฤติกรรมของผู้บริโภค ส่วนใหญ่จะมองหาเพียงคอนโดและบ้านพักอาศัย แต่ปัจจุบันมองหาอสังหาฯ ประเภทอื่นๆ อีกด้วยทั้งนี้เชื่อว่าอีกไม่ กี่ปีข้างหน้าผู้คนจะหันมาใช้ช่องทางออนไลน์มากขึ้น ฉะนั้นบิ๊กดาต้าจึงมี ความสำคัญอย่างมากในการนำมาวิเคราะห์ เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภคสร้างแต้มต่อในการทำธุรกิจในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ