ชี้อสังหาฯ ประเภท ที่อยู่อาศัยไม่น่าห่วง หลังมิกซ์ยูสแข่งเปิด แนะดีเวลอปเปอร์หาจุดแข็งสู้ศึก

          นายอิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์นอกเหนือจากโครงการที่อยู่อาศัยแล้ว อสังหาฯ ประเภทอาคารสำนักงาน โรงแรมและศูนย์การค้า เริ่มมีการลงทุนมากขึ้นผ่านโครงการมิกซ์ยูส โดยในส่วนของที่อยู่อาศัยไม่ได้กังวลกับการเปิดตัวโครงการใหม่ เพราะในแต่ละปีมีความระมัดระวัง รวมทั้งที่อยู่ในโครงการเมกะโปรเจกต์จะแล้วเสร็จในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่ง ดีเวลอปเปอร์ทั้งใหญ่หรือเล็ก ต่างปรับตัวและจะเปิดโครงการใหม่ที่เห็นว่าเหมาะสม กับสถานการณ์ในขณะนั้น

          ด้านประเภทอาคารสำนักงานมองว่า เติบโตแบบก้าวกระโดดคาด 2-3 ปี จะมีพื้นที่เข้าสู่ตลาดหลายแสนตารางเมตร ซึ่งจะทำให้พื้นที่โดยรอบโครงการเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งจากการพัฒนาโครงการและระบบคมนาคมขนส่งที่จะเข้ามารองรับ หลายพื้นที่จะกลายเป็น แม่เหล็กหรือแมกเน็ตสำคัญดึงการลงทุน เช่น พระราม 4 เจริญนคร เป็นต้น

          อย่างไรก็ดี โครงการมิกซ์ขนาดใหญ่ยังใช้เวลาในการก่อสร้างพอสมควร ดังนั้นนักพัฒนายังมีเวลาปรับตัวและมองว่าในตลาดยังคงการมีการแข่งขันกันสูง แม้ตลาดจะมีหลายกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งมีทั้งซื้อหรือเช่า

          ทั้งนี้ จะเห็นว่าโครงการเมกะโปรเจกต์ ส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินลีสโฮลด์ ซึ่งเป็นการครอบครองอสังหาฯ แบบให้สิทธิการเช่าระยะยาว 30 ปี โดยกลุ่มเป้าหมายมีทั้งคนไทยและต่างชาติ ขณะที่ลูกค้าคนไทยเองจะเลือกซื้ออสังหาฯ ฟรีโฮลด์ เพื่อถือเป็นทรัพย์สินมากกว่าหากราคาต่างกันไม่มาก และอยู่ในทำเลใกล้กัน

          "มิกซ์ยูสเป็นทางเลือกของนักพัฒนาโครงการ แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกพื้นที่ ดังนั้นดีเวลอปเปอร์จะต้องใช้จุดแข็งของตนเองและหาช่องว่างในการทำตลาดเพื่อสร้างการแข่งขันจากนี้" นายอิสระ กล่าว