ไพโรจน์ ปั้นแบรนด์ใหม่ แมทซ์ไทม์ รุกบริหารโครงการครบวงจร-ร่วมทุน
Loading

ไพโรจน์ ปั้นแบรนด์ใหม่ แมทซ์ไทม์ รุกบริหารโครงการครบวงจร-ร่วมทุน

วันที่ : 8 ตุลาคม 2561
นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท แมทซ์ไทม์ พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแทนท์ (MATCH TIME PROPERTY CONSULTANTS CO.,LTD.) กล่าวว่า บริษัทแมทซ์ไทม์ฯ มีทีมงานที่มีประสบการณ์ด้านอสังหาริมทรัพย์มากกว่า 25 ปี บริหารโครงการแบบครบวงจรมากกว่า 100 โครงการ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และต่างจังหวัด
          นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท แมทซ์ไทม์ พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแทนท์ (MATCH TIME PROPERTY CONSULTANTS CO.,LTD.)  กล่าวว่า บริษัทแมทซ์ไทม์ฯ มีทีมงานที่มีประสบการณ์ด้านอสังหาริมทรัพย์มากกว่า 25 ปี บริหารโครงการแบบครบวงจรมากกว่า 100 โครงการ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และต่างจังหวัด ทีมงานมาจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ ระดับ TOP 5 ของประเทศ ซึ่งเรามีเจตนารมณ์มุ่งมั่น แน่วแน่ ที่จะพัฒนา และยกระดับมาตรฐานในการบริการและการบริหารงาน ให้แก่ลูกค้าและท่านผู้ประกอบการ ได้รับคุณภาพเทียบเท่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ จึงได้ร่วมตั้งบริษัทแมทซ์ไทม์ฯ เพื่อให้การบริการและบริหารงานด้านอสังหาฯตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำแบบครบวงจร โดยวางเป้าหมายรับบริหาร 10 โครงการต่อปี และมีแผนพัฒนาโครงการของบริษัทฯเอง ปีละ 2 โครงการ มูลค่าการลงทุนโครงการละ 100 ล้านบาท เป้าหมายเติบโตกว่า 10% ต่อปี

          "เหตุที่เราตั้งบริษัทแมทซ์ไทม์ฯ เพราะทีมงานเราลงตัว และเรามีความเชี่ยวชาญในการทำโครงการอสังหาฯ ขาย และโอน จึงขยับออกมาจากบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ และปัจจุบัน มีผู้ประกอบการธุรกิจอื่น มีที่ดินสะสมปลอดหนี้ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท และยังมีเงิน ต้องการขยายไลน์ธุรกิจใหม่ ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีเช่น อสังหาฯ แต่เจ้าของธุรกิจเหล่านี้ เข้าไม่ถึงดีเวลลอปเปอร์ ขณะที่แบงก์ก็เชียร์ให้ทำอสังหาฯ คำถามคือ วิธีการต่างหากที่เจ้าของที่ดินต้องการ โดยแมทซ์ไทม์ฯ ตอบโจทย์ให้กับลูกค้าได้ เราจะทำทั้งการบริหารจัดการ การวิเคราะห์พื้นที่ ความเป็นไปได้ของการลงทุน การพัฒนาโครงการจนถึงการบริการหลังการขาย เน้นโครงการขนาดเล็ก ปิดการขายได้ภายใน 1 ปีหรือปีครึ่ง" นายไพโรจน์ กล่าวในบทบาทเจ้าของธุรกิจ หลังจากเป็นนักบริหารมืออาชีพให้กับบริษัทอสังหาฯรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์มาหลายแห่ง

          อย่างไรก็ดี จากการเปิดตัวบริษัทเมื่อปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา รับบริหารงานแล้ว 4 ราย และอยู่ระหว่างเจรจาอีก 5 ราย โดยปี 2562 จะเปิดตัวโครงการใหม่ เป็นบ้านเดี่ยวขนาด 50 ตารางวา (ตร.ว.) ใกล้นิคมเกตเวย์ จ.ฉะเชิงเทรา พื้นที่ 30 ไร่ จำนวน 120 ยูนิต มูลค่า 240 ล้านบาท ราคาขาย 2-2.5 ล้านบาท เจาะกลุ่มในนิคมอุตสาหกรรม และมีการก่อสร้างบ้านพร้อมโอน(สต๊อก)ให้ลูกค้าได้ชมบ้านตัวอย่าง โดยที่ดินนี้ เป็นของผู้ประกอบการบริษัทดูระบบบริหารงานให้กับศูนย์การค้า

          นอกจากนี้ ยังมีที่ดินของบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถยนต์(ดีลเลอร์)ค่ายฮอนด้าที่มียอดขายต่อปี 7,000 ล้านบาท และทำธุรกิจโรงงานหล่อยาง มีที่ดินในเมืองโคราชกว่า 30 แปลงรวมกว่า 400 ไร่ โดยเบื้องต้นจะพัฒนาก่อน 63 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยว 50 ตร.ว. 225 ยูนิต มูลค่า 400 ล้านบาท ราคาขาย 1.6-2 ล้านบาท แบ่งพัฒนาเป็น 2 เฟส

          ขณะที่ตระกูลนันทิรุจ ได้นำเสนอที่ดิน 4 แปลงจากทั้งหมด 30 แปลงพัฒนาก่อนโครงการแรกจะเป็นคอนโดฯ ที่ซอยลาซาลพื้นที่ 3 ไร่ จำนวน 2-3 อาคาร 200-250 ยูนิต มูลค่า 800-1,000 ล้านบาท ราคาขายราว 2 ล้านบาทขึ้น ส่วนอีก 3 แปลงทำเลติวานนท์ แพรกษา และจังหวัดสมุทรปราการ พื้นที่ 10-15 ไร่จะทำทาวน์เฮาส์ 80-100 ยูนิต มูลค่ารวม 200-500 ล้านบาท ทั้งหมดจะเปิดตัวไตรมาส 3 และ 4 ปี 2562

          อีกทั้งยังมีแผนพัฒนาโครงการภายใต้บริษัทแมทซ์ไทม์ฯ ลักษณะร่วมทุนกับกลุ่มทุนที่หลาก หลาย พัฒนาโครงการแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮาส์ ในปี 62 จะเปิด 2 โครงการ ใหม่ และวางเป้าทุกปีต้องมีโครงการของบริษัทเบื้องต้น 2 โครงการ มูลค่ารวม 200 ล้านบาท โครง การไม่ใหญ่ และแผนลงทุนแวร์เฮาส์ พื้นที่ 5-10 ไร่ มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท/โครงการ

          ด้านกลยุทธ์ในการทำธุรกิจนั้นจะเร่งสร้างแบรนด์แมทซ์ไทม์ ผ่านการพัฒนาโครงการ ซึ่งจะนำมาปรับแพลตฟอร์มการพัฒนาในแต่ละพื้นที่ให้ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เราจะเปิดโครงการปลายปีเพื่อให้ผู้ซื้อได้เห็นของจริง จะเน้นเป็นบ้านสร้างเสร็จพร้อมขายพร้อมโอน รวมทั้งการเปิดหลักสูตรอบรมในแต่ละเดือน ซึ่งเป็นโมเดลใหม่โดยผู้สมัครต้องมีที่ดิน ซึ่งคาดว่าจะเกิดการพัฒนาหลังผ่านการอบรม

          "บริษัทไม่ใช่โบรกเกอร์แต่เป็นดีเวลอปเปอร์เรียลเอสเตทแบบครบวงจร ทั้งนี้เตรียมตั้งบริษัทลูกเพื่อบริการหลังการขาย รวมทั้งจะเป็นโค้ชให้กับเจ้าของที่ดินที่สนใจเป็นผู้พัฒนาอสังหาฯ มีจุดแข็งทั้งทีมงานและเป็นซัปพลายเชนด้านวัสดุก่อสร้างรวมไปถึงสถาบันการเงินที่พร้อมสนับสนุน บริษัทตั้งเป้ารายได้การบริหารที่ 30-50 ล้านบาท/ปี เฉลี่ยโครงการละ 3-5 ล้านบาท" นายไพโรจน์ กล่าว
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ