ตลาดบ้านหรูมาแรง แอสเซทไฟว์ บุกโซนตะวันออก
Loading

ตลาดบ้านหรูมาแรง แอสเซทไฟว์ บุกโซนตะวันออก

วันที่ : 10 ตุลาคม 2561
แอทเซท ไฟว์ ดีเวลลอปเม้นท์ เจาะย่านกรุงเทพกรีฑา ตัดใหม่ เปิดโครงการ วนา เรสซิเดนซ์ มูลค่า 1,800 ล้านบาท
          อรวรรณ จารุวัฒนะถาวร

          แอทเซทไฟว์ลุยบ้านหรู

          แอทเซท ไฟว์ ดีเวลลอปเม้นท์ เจาะย่านกรุงเทพกรีฑา ตัดใหม่ เปิดโครงการ วนา เรสซิเดนซ์ มูลค่า 1,800 ล้านบาท

          ทำเลกรุงเทพฯ โซนฝั่งตะวันออก โดยเฉพาะ "ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า" เป็นอีกหนึ่งทำเลที่กำลังถูกจับตามองจากการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัยระดับบน

          จากข้อมูลของบริษัท ซีบีอาร์อี ประเทศไทย ระบุว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีการเปิดขายโครงการบ้านเดี่ยวในจำนวนที่ใกล้เคียงกันคือ ปีละกว่า 1 หมื่นยูนิต ซึ่งในครึ่งปีแรกของปี 2561 มีการเปิดขายโครงการแล้วกว่า 7,000 ยูนิต ซึ่งเป็นจำนวนที่เทียบเท่ากับช่วงไตรมาส 3 ของปีก่อนๆ ที่ได้มีการเปิดตัวการขาย

          สำหรับตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ซัพพลายของแนวราบกลับมามีบทบาทในตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มจะเติบโตมากขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากโซนดังกล่าวมีแผนการขยายการคมนาคมที่จะมีขึ้นในอนาคต เช่น รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีนบุรี) เป็นต้น ทำให้เป็นทำเลที่ได้รับความนิยมสูง

          ในช่วงที่ผ่านมามีดีเวลอปเปอร์หลายรายไม่ว่าจะบริษัทในและนอกตลาดหลักทรัพย์ต่างๆ หันมาพัฒนาโครงการเพื่อรองรับการขยายตัวของผู้อยู่อาศัยในแถบนี้มากขึ้น ซึ่งจากจำนวนการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินสำหรับบ้านเดี่ยวในกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ต้นปีจนถึงไตรมาส 2 ของปี 2561 พบว่าทั้งหมดมีจำนวนการออกใบอนุญาตถึง 433 ราย โดยการออกใบอนุญาตดังกล่าวในโซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกมีมากถึง 271 ราย ซึ่งคิดเป็น 63% ของทั้งหมด

          ศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอทเซท ไฟว์ ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดเผยว่า ด้วยศักยภาพและทำเลถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ พระราม 9-ศรีนครินทร์ ที่มีการเติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เป็นทำเลใหม่ที่ได้รับความสนใจทำให้บริษัทมองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจโดยเฉพาะโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ ซึ่งพบว่าแม้ซัพพลายจะมีเข้ามาต่อเนื่องแต่ระดับ 20 ล้านบาทขึ้นไปยังมีไม่มากเมื่อเทียบกับเรียลดีมานด์ในตลาดที่มีมาก เพราะในย่านนี้มีโครงการระดับนี้เพียง 3-4 โครงการแต่มีการดูดซับในตลาดราว 5% ต่อเดือนคาดการณ์ว่าซัพพลายเหล่านี้จะหมดภายใน 1 ปี

          สำหรับบริษัทได้มีการซื้อที่ดินในย่านนี้เมื่อปี 2559 ซึ่งขณะนั้นราคาที่ดินขายทั่วไปที่ 7 หมื่นบาท/ตารางวา (ตร.ว.) ปัจจุบันราคาที่ดินขายอยู่ที่ 1-1.5 แสนบาท/ตร.ว. โดยล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวโครงการ วนา เรสซิเดนซ์ มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท ถือว่าเป็นบ้านเดี่ยวแบบโมเดิร์นระดับลักซ์ชัวรี่โครงการแรกๆ ในโซนพระราม 9-ศรีนครินทร์ ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเฉพาะระดับบน ซึ่งโครงการอยู่ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ โรงพยาบาล โรงเรียนนานาชาติ ศูนย์การค้า ในส่วนของตัวบ้านออกแบบโดยให้ความสำคัญกับแสงธรรมชาติ ภายในเน้นความโปร่งของเพดาน 3.1 เมตร โดยหลังจากการเปิดจองรอบพรีเซลในช่วงต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา สามารถสร้างยอดขายรวมมูลค่ากว่า 500 ล้านบาทหรือราว 20 ยูนิต

          "ในครึ่งแรกของปีนี้โซนตะวันออกของกรุงเทพฯ มีโครงการแนวราบเปิดตัวประมาณกว่า 7,000 ยูนิต ส่วนทำเลถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า มีโครงการแนวราบเปิดตัวประมาณ 4 โครงการ แต่ละโครงการมีจำนวนยูนิตไม่มากนัก ดังนั้นจึงถือว่าการแข่งขันยังไม่สูงมาก อีกทั้งราคาขายก็ใกล้เคียงกัน ในส่วนของวนา เรสซิเดนซ์ จะเน้นบ้านขนาดใหญ่ พื้นที่ใช้สอยมากสามารถอยู่อาศัยได้ถึง 3 เจเนอเรชั่น" ศุภโชค กล่าว

          ทั้งนี้ โครงการ วนา เรสซิเดนซ์ มีพื้นที่โครงการประมาณ 20 ไร่ จำนวน 69 หลัง ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 400-492 ตารางเมตร (ตร.ม.) กับการวางบ้านด้วยรูปแบบคลัสเตอร์ โดยแต่ละคลัสเตอร์มีเพียง 4 หลัง พร้อมที่จอดรถ 4 คัน  รวมมูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท หลังเปิดพรีเซลเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะนี้มียอดขายแล้วกว่า 500 ล้านบาท หรือประมาณ 30% และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 13-14 ต.ค.นี้ คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ในปี 2562

          นอกจากนี้ แผนการดำเนินงานในปี 2562  บริษัทเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เนื่องจากธุรกิจอสังหาฯ ต้องใช้เม็ดเงินในการลงทุนเป็นจำนวนมาก ดังนั้นทางออกที่จะทำให้อยู่รอดได้ คือ การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งสามารถระดมเงินทุนได้หลายรูปแบบ ขณะนี้ได้ที่ปรึกษาทางการเงินแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

          ด้านแผนการลงทุนของบริษัทนั้นจะดำเนินการไปตามทิศทางของตลาด โดยปัจจุบันอุปทานคอนโดมีสูง ผู้ประกอบการหลายรายหันมาพัฒนาโครงการแนวราบมากขึ้น รวมไปถึงบริษัทด้วย แม้ว่าที่ดินใกล้เมืองจะหายาก แต่ก็ยังพอมีเหลือในการพัฒนา เพราะมีทำเลใหม่จากถนนตัดใหม่ใกล้ใจกลางเมืองตัดผ่านอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องมีการสำรวจว่าซัพพลายในแต่ละพื้นที่เป็นอย่างไร โดยหลักการซื้อที่ดินนั้นขึ้นอยู่กับการวางแผนของแต่ละราย โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่นั้นไปพัฒนาทำเลไหนส่วนใหญ่จะขายหมด ส่วนรายกลาง-เล็กต้องมีความแม่นยำในทำเลที่จะพัฒนาให้มาก

          ศุภโชค กล่าวอีกว่า ปีหน้าบริษัทจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่อย่างน้อย 2 โครงการ คือ การนำที่ดินพื้นที่ 16 ไร่ บริเวณถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ (ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า) เยื้องกับโครงการ วนา เรสซิเดนซ์ มาพัฒนาโครงการแนวราบต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบและศึกษาข้อมูลว่าจะพัฒนาภายใต้แบรนด์ "วนา เรสซิเดนซ์" หรือแบรนด์ใหม่ หากเป็นแบรนด์วนาฯ จะสามารถพัฒนาได้ประมาณ 51 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 1,600 ล้านบาท ส่วนอีกแปลงมีแผนจะพัฒนาย่านใจกลางเมือง อยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายปัจจุบัน

          ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจาซื้อที่ดิน หากมีการพัฒนาก็จะเป็นอาคารสูงกว่า 20 ชั้น แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ นอกจากนี้ทางครอบครัวยังมีที่ดินสะสมในย่านรัชดาภิเษกเหลืออีกประมาณกว่า 10 ไร่ แต่ยังไม่มีแผนนำออกมาพัฒนา ซึ่งต้องรอจังหวะและโอกาสอีกครั้งหนึ่ง

          อย่างไรก็ตาม ในปี 2561 นี้ คาดว่าแอสเซท ไฟว์ฯ และบริษัทในเครือจะสามารถทำยอดขายได้ 1,000 ล้านบาท และตัวเลขดังกล่าวจะไปรับรู้รายได้ในปี  2562
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ