ชายแดนคึกสวนไฟใต้ทิ้งปั๊มรุกอสังหา28ราย
Loading

ชายแดนคึกสวนไฟใต้ทิ้งปั๊มรุกอสังหา28ราย

วันที่ : 23 กันยายน 2561
ชายแดนคึกสวนไฟใต้ทิ้งปั๊มรุกอสังหา28ราย

5 จังหวัดชายแดนใต้ ยังคึกคักข่าวรุนแรงไม่มีผล หลังมูลค่าที่ดิน-ดีมานด์สูง ทหาร-แรงงานย้ายถิ่นหนุน ขณะคนพื้นที่ส่วนใหญ่ซื้อเงินสด พบเจ้าของปั๊มทิ้งธุรกิจ หันมาทำบ้าน-คอนโดฯ 28 ราย

นางสาวพรพรรณ วีระปรียากูร ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ศูนย์วิจัยข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ เซ็นจูรี่ 21 โพล เปิดเผยถึงผลการสำรวจศึกษาตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศในเบื้องต้น ว่าปัจจุบันคนในพื้นที่ดังกล่าว ยังคงมีความต้องการด้านที่อยู่อาศัยค่อนข้างมาก ไม่ได้แตกต่างจากคนในภูมิภาคอื่นๆ โดยเฉพาะในโซน 5 จังหวัด หรือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ยะลา และสตูล  ที่มีการเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามถิ่นเข้าไปในพื้นที่จำนวนมาก รวมถึงดีมานด์กำลังพลทหารที่เข้ามาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนปฏิบัติหน้าที่ด้วย  ขณะเดียวกันพบคนในพื้นที่เอง ยังคงมีความการแข่งขันและเกิดบริษัทประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหม่ๆเป็นจำนวนมาก ซึ่งพบส่วนใหญ่มักเป็นการพัฒนาโครงการแนวราบขนาดเล็ก ไม่เกิน 9 หน่วยต่อ 1 โครงการ ก่อนขายออกและทยอยสร้างใหม่ ไม่ใช้รูปแบบบ้านจัดสรรขนาดใหญ่เหมือนในทำเลอื่นๆ ส่งผลทำให้เกิดการซื้อ-ขาย บ้านในพื้นที่ดังกล่าว ในอัตราที่ค่อนข้างถี่และต่อเนื่อง

"ความน่าสนใจ คือเราสำรวจพบมีผู้ประกอบการที่ยอมทิ้งธุรกิจปั๊มน้ำมัน ผันตัวมาทำอสังหาฯ มากถึง 28 บริษัทในช่วงไม่กี่ปี และยังมีสถาบันการเงินอีกหลายแห่งที่คอยให้การสนับสนุน ทั้งนี้ก็เพื่อตอบรับดีมานด์ด้านที่มีอยู่เยอะ ส่วนหนึ่งนั้นมาจากคนที่เข้ามาทำงานในพื้นที่ดังกล่าว เช่น ทหาร ที่ไม่อยากอยู่บ้านพัก หรือบ้านเช่า และดีมานด์อีกส่วน ยังมาจากกลุ่มคนถิ่นเดิมที่แยกออกมาสร้างครอบครัวใหม่ ประกอบกับครองชีพที่ไม่สูง แปลงที่ดินที่สวย บ้านราคาไม่แพง ยิ่งเพิ่มดีมานด์"

นางสาวพรพรรณ ยังระบุว่า ปัจจุบันใน 5 จังหวัดชายแดนใต้ มีตลาดบ้านเช่าหรือหอพักในอัตราที่สูง แต่ที่น่าสังเกตคือพบเมื่อเป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตต่อเนื่องกับสถาบันการศึกษา มักจะมีการเกิดขึ้นของโครงการคอนโดมิเนียมเป็นจำนวนไม่น้อย และส่วนใหญ่เป็นลักษณะการซื้อด้วยเงินสดให้บุตรหลานโดยผู้ปกครองที่เป็นคนมุสลิม ขณะที่ศักยภาพของทำเลภาคใต้ ที่สามารถเชื่อมต่อกับมาเลเซีย อินโดนีเซียได้ ประกอบกับยังมีทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงาม สมบูรณ์มาก นักท่องเที่ยวยังเข้ามา จึงมีความน่าสนใจในการลงทุนในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม ต้องการเสนอให้ภาครัฐเข้าไปช่วยดูแล เรื่องการคำนวณตัวเลขภาษีให้เหมาะสมต่อผู้ประกอบการ เพื่อส่งเสริมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขณะเดียวกัน สถาบันการเงิน นอกจากจะเอื้อผู้ประกอบการแล้ว ควรกำหนดอัตราดอกเบี้ยในการปล่อยกู้สินเชื่อบ้านในพื้นที่ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมด้วย ซึ่งคาดจะช่วยส่งเสริมให้คนมีบ้าน และผลักดันให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เติบโตขึ้นอีก

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ