อีสานพิมานกรุ๊ป ทุนขอนแก่นโต30%ทุ่ม650ล.ผุด6โครงการบ้านเดี่ยว-คอนโดฯ
Loading

อีสานพิมานกรุ๊ป ทุนขอนแก่นโต30%ทุ่ม650ล.ผุด6โครงการบ้านเดี่ยว-คอนโดฯ

วันที่ : 20 กันยายน 2561
อีสานพิมานกรุ๊ป ทุนขอนแก่นโต30%ทุ่ม650ล.ผุด6โครงการบ้านเดี่ยว-คอนโดฯ

อีสานพิมานกรุ๊ป ขอนแก่น ทุ่มเงิน 650 ล้าน ผุด "คอนโดฯ-บ้านเดี่ยว" ใจกลางเมืองรับแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้น-ดีมานด์โต เจาะกลุ่มนักศึกษา-ข้าราชการ-คนเริ่ม ทำงานใหม่ พร้อมรุก "ทาวน์เฮาส์" ชั้นเดียวเอาใจผู้สูงวัย-ผู้มีรายได้น้อย ตั้งเป้าทั้งปี 2561 เติบโต 30% ชี้เริ่มเห็นสัญญาณการลงทุนฟื้นตัว

นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสานพิมานกรุ๊ป จำกัด กลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จังหวัดขอนแก่น เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า อีสานพิมานกรุ๊ปมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องตลอด 35 ปี ซึ่งมีโครงการที่ดำเนินการไปแล้วกว่า 50 โครงการ ทั้งในจังหวัดขอนแก่นและต่างจังหวัด เช่น อุดรธานี ร้อยเอ็ด และลำพูน ซึ่งมีทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียม ทั้งนี้ ตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2561 อีสานพิมานกรุ๊ปเตรียมเงินลงทุนกว่า 650 ล้านบาท ลงทุนโครงการใหม่อีก 6 โครงการ แยกเป็นคอนโดมิเนียม 2 โครงการ และแนวราบ 4 โครงการ กระจายอยู่ในเขตตัวเมืองขอนแก่น

โดยโครงการคอนโดมิเนียมที่จะลงทุนเพิ่ม 2 แห่ง งบประมาณ 300 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการนอร์ธ พาร์ค คอนโด ที่เตรียมเปิดเพิ่มอีก 220 ยูนิต ขนาด 31 ตารางเมตร ราคา 2.2-2.5 ล้านบาท เป็นโครงการขยายต่อจากโครงการเดิมที่ดำเนินการขายเรียบร้อยแล้ว โดยตั้งอยู่ที่บ้านโนนม่วง หลังมหาวิทยาลัยขอนแก่น และ 2.โครงการซิตี้พาร์คคอนโดทั้งหมด 200 ยูนิต ขนาด 31 ตารางเมตร ราคา 1-1.2 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ถนนชาตะผดุง หลังศูนย์อนามัยแม่และเด็ก ใกล้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น และมหาวิทยาลัยศรีปทุม ขอนแก่น โดยทั้ง 2 โครงการเจาะกลุ่มนักศึกษา คนเริ่มทำงานใหม่ และคนทำงานในตัวเมืองขอนแก่น ระดับเงินเดือนประมาณ 15,000-20,000 บาท

ขณะที่การลงทุนแนวราบมีทั้งหมด 4 โครงการ งบประมาณ 350 ล้านบาท มุ่งเน้นโซนชุมชนและโครงการเก่าของอีสานพิมานกรุ๊ป ในเขตอำเภอเมืองขอนแก่น ได้แก่ 1.โครงการคานารี่ หนองไผ่ เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวประมาณ 70 ยูนิต ราคา 2.7-3 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น 2.โครงการบ้านเดี่ยวทั้งหมด 100 ยูนิต ตั้งอยู่ที่บ้านโนนทัน อ.เมืองขอนแก่น ซึ่งแยกเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ราคา 2.7 ล้านบาท และบ้านเดี่ยวสองชั้น ราคา 3.5 ล้านบาท เจาะกลุ่มข้าราชการเป็นส่วนใหญ่

3.โครงการพิมานชล เป็นทาวน์เฮาส์ ชั้นเดียวและบ้านเดี่ยวชั้นเดียวทั้งหมด 70 ยูนิต ราคาตั้งแต่ 1.99-3.5 ล้านบาท ตั้งอยู่ริมบึงแก่นนคร อ.เมืองขอนแก่น ซึ่งโครงการนี้จะเน้นการดีไซน์เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุในอนาคต และกลุ่มที่เห็นความสำคัญเรื่องสุขภาพ สังคม และอนาคต และ 4.โครงการทาวน์เฮาส์ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ทั้งหมด 200 ยูนิต รองรับโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหาทำเลในการลงทุน

นายชาญณรงค์กล่าวว่า การลงทุนใหม่อีกหลายโครงการมาจากปัจจัยแนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดที่ดีขึ้น โดยปี 2561 บริษัทตั้งเป้าเติบโต 30% เท่ากับปี 2560 และคาดการณ์ว่าปี 2562 ยังเติบโตขึ้นประมาณ 30% ซึ่งตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทประสบปัญหาค่อนข้างหนัก รายได้ตกลงมาปีละกว่า 30% ประกอบกับอัตราการปฏิเสธสินเชื่อ ธนาคาร (reject rate) ที่ผ่านมาสูงถึง 50% แต่ปัจจุบันปี 2561 อัตราการรีเจ็กต์ เพียง 10-20% เท่านั้น โดยการขอ สินเชื่อบ้านได้ประมาณ 90% และคอนโดฯ อยู่ที่ 80-85%

ขณะเดียวกัน จุดแข็งของบริษัทอยู่ที่เรื่องความเชื่อถือยาวนาน ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ รวมถึงความเข้าใจในกลุ่มลูกค้า เข้าใจตลาดผู้บริโภค การติดตามรับผิดชอบ รวมถึงการมีต้นทุนที่ได้เปรียบ ทำให้มีความได้เปรียบในเรื่องรูปแบบและราคา ส่งผลให้เกิดกำลังซื้อใหม่ ๆ ขึ้นมา นอกจากนี้ ยังมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่องทุกรูปแบบ มีการพัฒนาคนและแนวคิดธุรกิจเพื่อรองรับเมืองสมาร์ทซิตี้"

"แนวโน้มกลุ่มลูกค้าแบ่งเป็นกลุ่มย่อย ๆ มากขึ้น มีความคาดหวังมากขึ้นทั้งคุณภาพและการบริการ รวมถึงมีความกล้าจ่ายมากขึ้น แต่หลายรายไม่สามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ ซึ่งบริษัทมีการศึกษาโครงการเรื่อย ๆ โดยพยายามลงทุนตามความต้องการภายในพื้นที่ รวมถึงมุ่งเน้นการเชื่อมโยงให้เป็นคอมมิวนิตี้หรือเป็นมิกซ์ยูส เช่น มีร้านค้าให้เช่า เป็นต้น ซึ่งจะพัฒนาไปพร้อม ๆ กัน อีกทั้งเชื่อมกับโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ระบบขนส่ง ระบบดิจิทัล และเทคโนโลยี เช่น การพัฒนาเพื่อรองรับกลุ่มฟรีแลนซ์ ที่ทำงานอยู่ที่บ้าน"

นายชาญณรงค์ฉายภาพรวมอสังหาฯในขอนแก่นว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาค่อนข้างชะลอตัว เนื่องจากมีการลงทุนโครงการ ค่อนข้างมาก ประกอบกับธนาคารมีความระมัดระวัง เข้มงวดในการปล่อยกู้ยากขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการในจังหวัดขอนแก่นก็ระมัดระวัง แต่สำหรับปัจจุบันเริ่มเห็นภาพ การลงทุนใหม่ ๆ ทั้งบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม และทาวน์โฮม มีการซื้อที่ดินใหม่ ซึ่งบ้านที่ขายดียังคงเป็นบ้านเดี่ยว ราคาประมาณ 3-4 ล้านบาท

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ