แสนสิริร่วมทุนโตคิวคอร์ปอเรชั่นฉลุย ลุยตั้งบริษัทร่วมทุนรุกพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมโครงการที่ 2 ตุนเงินพร้อมลงทุน

นายวันจักร์ บุรณศิริ กรรมการและประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ บริษัท แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า บริษัทได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ คือ บริษัท สิริ ทีเค โฟร์  มีทุนเริ่มต้น 50 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 5 แสนหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท โดยบริษัท แสนสิริ จะถือหุ้น 70% และบริษัท โตคิวคอร์ปอเรชั่น ถือหุ้น 29% และบริษัท สหโตคิว คอร์ปอเรชั่น  ถือหุ้น 1% โดยใช้เงินทุนครั้งนี้จะมาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

"การร่วมทุนกับโตคิวเป็นการลงทุนต่อเนื่องจากการร่วมทุนกันในครั้งแรก เพื่อลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมซึ่งผลของการร่วมทุนประสบความสำเร็จร่วมกันอย่างดี จึงทำให้เกิดความร่วมมือในการร่วมพัฒนาโครงการต่อไป ซึ่งผลสำเร็จของการร่วมทุนนั้นยังคงต้องรอเพราะโครงการแรกยังไม่ได้มีการโอนห้องชุดให้กับลูกค้า" นายวันจักร์ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทยังคงใช้กลยุทธ์ในการร่วมทุนกับพันธมิตรในการพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการร่วมกับโตคิวฯ ก็จะเป็นไปในลักษณะเดียวกันกับที่แสนสิริร่วมกับทางกลุ่มบีทีเอสโฮลดิ้ง (BTS) ซึ่งในการพัฒนาแต่ละโครงการก็จะตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมาเพื่อลงทุนเพื่อความชัดเจน

นายวันจักร์ กล่าวว่า ในส่วนของแหล่งเงินทุนของบริษัทได้มีความเพียงพอในการนำมาใช้ในการขยายการลงทุน โดยล่าสุดเพิ่งเสนอขายหุ้นกู้วงเงิน 5,000 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 3.2% และหากรวมพอร์ตเงินกู้ของบริษัททั้งหมดจะพบว่ามีหนี้ที่มาจากหุ้นกู้รวม 1.8 หมื่นล้านบาท คิดเป็นประมาณ 50% ของหนี้ทั้งหมดของบริษัทมีอายุหุ้นกู้เฉลี่ย 4.8 ปี และมีต้นทุนดอกเบี้ยเฉลี่ย 3.4% ซึ่งถือว่าเพียงพอและรองการลงทุนรวมถึงรับมือกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นได้

ปัจจุบันบริษัทมีอัตราส่วน หนี้สิน และเงินทุนที่จัดหาจากภายในอยู่ที่ 1.4 เท่า ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ยังเหมาะสมและไม่มีความสนใจที่จะออกหุ้นกู้ในลักษณะคล้ายทุน เพราะจะมีต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงกว่าการออกหุ้นกู้ปกติ

อย่างไรก็ตาม งวดครึ่งแรกของ ปี 2561 บริษัทมีกำไรสุทธิ 639.44 ล้านบาท ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,316.26 ล้านบาท