NCH ลุยมหกรรมบ้านและคอนโด ขน 11 โครงการ มูลค่า 3,000 ล้านบาท ดันยอดขายพุ่งตามเป้า 2,700 ล้านบาท มองครึ่งปีหลัง 2561 ภาพผลงานยังเติบโตต่อเนื่อง เตรียมเปิดโครงการใหม่ 3-4 โครงการ ช่วงไตรมาสที่ 4/2561 มูลค่า 2,000 กว่าล้านบาท พร้อมย้ำเป้ารายได้ปี 2561 แตะ 1,700 ล้านบาท

นายสมนึก ตันฑเทิดธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH กล่าวว่าบริษัทเตรียมนำโครงการในสต๊อก 11 โครงการมูลค่า 3,000 ล้านบาท ทั้งโครงการคอนโดมิเนียม, บ้านเดี่ยว, ทาวน์เฮาส์ เข้าร่วมงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 39 ในช่วงเดือนตุลาคม 2561 งานที่รวบรวมโครงการด้านอสังหาริมทรัพย์ครบทุกทำเล พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ คาดยอดขายจากการเข้าร่วมงานในครั้งนี้ราว 300 ล้านบาท

และในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าร่วมงานอภิมหกรรมบ้าน-คอนโด และสินเชื่อแห่งปี 2018 ระหว่างวันที่ 16-19 สิงหาคม 2561 บริษัทมียอดขายเข้ามาราว 200-300 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 งานนี้ถือว่าเป็นตัวผลักดันยอดขาย ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะเติบโตที่ระดับ 2,700 ล้านบาท จากในช่วงครึ่งปีแรกที่บริษัทสามารถทำยอดขายไปแล้ว 1,465 ล้านบาท หรือเติบโต 25%

ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง 2561 คาดว่าจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นไฮซีซันของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยที่ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้ที่ระดับ 800 ล้านบาท จึงคาดว่ารายได้ปีนี้ จะเติบโตไปได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 1,700 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 1,456.96 ล้านบาท

ลุยเปิดโครงการใหม่

สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง 2561 บริษัทเตรียมเปิดโครงการแนวราบ จำนวน 3 โครงการ ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล มูลค่ารวมมากกว่า 2,000 ล้านบาท ทั้งนี้จะเน้นเปิดโครงการทาวน์เฮาส์มากขึ้น อาทิ โครงการบ้านฟ้า, บ้านฟ้าปิยรมย์ เพราะเป็นเซ็กเมนต์ ที่มีความต้องการของตลาดบ้านในปัจจุบัน ซึ่งบริษัทมีที่ดินรองรับสำหรับพัฒนาโครงการในอีกราว 3-5 ปี ทั้งในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล, เชียงใหม่ และอุดรธานี นอกจากนี้ยังวางแผนการลงทุน อสังหาในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (EEC) โดยคาดว่าจะมีการพัฒนาโครงการใน เขตพัทยากลาง-เหนือ นอกจากนี้ปัจจุบันมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่ 300 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถรับรู้รายทั้งหมดภายในปี 2561

สำหรับการแข่งขันปี 2561 บริษัทมองว่าผู้ประกอบการรายใหญ่มีการแข่งขันที่สูงขึ้น โดยได้เร่งเปิดตัวโครงการใหม่ๆ ออกมาเป็นจำนวนมาก ด้านผู้ประกอบการรายกลางและผู้ประกอบการรายเล็กต้องเน้นหาจุดแข็งของบริษัทให้เจอ เพื่อแข่งขันกับรายใหญ่ ซึ่ง NCH มีจุดแข็งที่โดดเด่น ด้านผู้นำตลาดแนวราบ รวมถึงการให้บริการหลังการขาย นอกจากนี้บริษัทยังมีเทคโนโลยีเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้า จึงทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเสมอมา

สำหรับการร่วมทุนกับพันธมิตร บริษัทได้มีการเจรจากับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก

คุมเข้มสินเชื่อ-NPL

อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัทมียอดปฏิเสธสินเชื่อที่ 20-30% ซึ่งตัวเลขการปฏิเสธสินเชื่อของบริษัทนั้น ไม่ได้แตกต่างกับในอดีตมากนัก ส่วนการคัดกรองลูกค้าบริษัทได้มีการยื่น Pre-Approve เพื่อเป็นการตรวจสอบความสามารถการกู้ของลูกค้าก่อน และปัจจุบันธนาคารเองก็มีการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ให้กับลูกค้าเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน เพื่อเป็นการควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกินรายได้ (NPL) ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต