ธนาคารอาคารสงเคราะห์เผยภาพรวมที่อยู่อาศัยครึ่งปีแรก ขยายตัวดีทั้งยอดโอนบวก 26.3% ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่บวก 23.5% ทั้งปีได้เห็น 8-10% ส่งสัญญาณไตรมาส 4 ตลาดรวมเล็งขึ้นดอกเบี้ยกู้บ้าน อานิสงส์รัฐลุยอีอีซี ดันตลาดอสังหาฯตะวันออกเปิดตัวคึกคัก ชลบุรีแชมป์ราคาพุ่งมากสุด

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผย ว่า ภาพรวมที่อยู่อาศัยครึ่งปีแรก 2561 พบว่ายอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ 173,664 ยูนิต มูลค่า 389,684 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 26.3% และคาดว่าทั้งปี 2561 จะมียอดโอนไม่ต่ำกว่า 340,448 ยูนิต เติบโต 8-10% จากปีก่อน และมีมูลค่ารวม 719,568 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.7% โดยแยกเป็นสัดส่วนในภาพรวม เป็นแนวราบ 65% และห้องชุด 35% เฉพาะใน กทม.และปริมณฑล 49% เป็นการโอนคอนโดมิเนียม และ 51% เป็นแนวราบ ราคาที่อยู่อาศัยเฉลี่ยทั่วประเทศ 2.1 ล้านบาท ส่วนราคาเฉลี่ย กทม.และปริมณฑล อยู่ที่ 2.9 ล้านบาท

นายวิชัยกล่าวว่า ส่วนสินเชื่อปล่อยใหม่ ครึ่งปีแรก 2561 อยู่ที่ 325,172 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และคาดทั้งปี 2561 อยู่ที่ 692,500 ล้านบาท เติบโต 9.2% จากปี 2560 สำหรับในไตรมาส 4 /2561 ภาพรวมตลาดมองว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แน่นอน เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เริ่ม ส่งสัญญาณแล้ว เพราะเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยช่วงที่เหลือปีนี้ และหากไทยยังไม่ปรับขึ้นตาม อาจกระทบต่อเงินไหลออกได้ เนื่องจากช่องว่างห่างกันมากขึ้นระหว่างดอกเบี้ยไทยและต่างประเทศ และคาดว่าปรับดอกเบี้ยไม่เกิน 0.25% ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับตลาดที่อยู่อาศัยครึ่งปีหลัง แต่ไม่มากนัก เพราะความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยยังมีอยู่

"ดูตามรายภูมิภาค พบว่า 3 จังหวัดในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ครึ่งปีแรก 2561 มีการเปิดตัวโครงการใหม่ประมาณ 11,000 ยูนิต แบ่งเป็นชลบุรี 7,400 ยูนิต ระยอง 3,000 ยูนิต และที่เหลือ จ.ฉะเชิงเทรา โดยเป็นที่น่าสนใจว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่โฟกัสไปที่ จ.ชลบุรี เป็นหลัก เนื่องจากเป็นเมืองอุตสาหกรรมและเมืองท่องเที่ยว ส่งผลให้ผู้ประกอบการ เข้าไปลงทุนค่อนข้างมาก โดยเฉพาะย่านพัทยาและสัตหีบ ซึ่งผู้ประกอบการจะพัฒนาคอนโดมิเนียมเป็นหลัก แต่ถ้าเป็นในศรีราชาและตัวเมืองจะเป็นโครงการจัดสรรเป็นหลัก ส่วนด้านราคาขายพบว่า ปีนี้ราคาปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงปี 2560 ค่อนข้างมาก ประมาณ 27.9% โดยชลบุรีปรับขึ้นมากที่สุด 32% รองลงมาคือ ฉะเชิงเทรา ปรับขึ้น 22% และระยอง ปรับเพิ่มขึ้น 18%" นายวิชัย กล่าว

นายวิชัยกล่าวว่า สำหรับบ้านราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท จำนวน 1 ล้านยูนิตที่รัฐบาล กำลังสนับสนุนให้คนมีบ้านนั้น คาดว่ามีความเป็นไปได้เพราะสถาบันการเงินจะปล่อยกู้ ทั้งการพัฒนาโครงการและสำหรับผู้ซื้อรายย่อยขณะนี้ พบว่า ในต่างจังหวัดภาคเอกชนสนใจ ที่จะพัฒนาโครงการดังกล่าวค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลฯ พบว่าทั่วประเทศมีบ้านระดับราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท อยู่ที่ประมาณ 6,000-7,000 ยูนิต ที่ไม่ได้รวมโครงการของการเคหะแห่งชาติหรือ กคช. ส่วนใหญ่เป็นอาคารชุด เพียง 900 ยูนิตเท่านั้น เป็นแนวราบ