ไนท์แฟรงค์ เผยผลสำรวจพื้นที่สำนักงานไตรมาส 2 ปี 61 มีจำนวนรวมกว่า 4.6 ล้าน ตร.ม. ด้านค่าเช่าปรับตัวเพิ่ม 7.12% ชี้ในอีก 4 ปีจะมีอาคารสำนักงานขึ้นอีกเพียบ ด้านเน็กซัสเผยผลสำรวจตลาดคอนโดฯ ไตรมาส 2 ปี 61 มีอุปทานเข้าสู่ตลาดเพิ่ม 9,395 ยูนิต ขณะราคาขายเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้น 5%

นายมาร์คัส เบอร์เทน ชอว์ กรรมการบริหารและหัวหน้าฝ่ายตัวแทนนายหน้า บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย ถึงผลสำรวจอัตราพื้นที่สำนัก งาน ณ ไตรมาส 2 ปี 2561 ว่า มีอัตราการเติบโตด้านความ ต้องการของพื้นที่อาคารสำนัก งานในกรุงเทพฯ ยังคงเพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่อง โดยมีพื้นที่ครอบครองเพิ่มขึ้นจาก 40,324 ตร.ม. เป็น 4,603,875 ตร.ม. ซึ่งแสดงอัตราการครอบครองโดยรวมที่ 91.6% สำหรับด้านทำเลที่ตั้ง พื้นที่ที่มีความต้องการสูงสุดอยู่บนถนนสุขุมวิท ช่วงระหว่างพร้อมพงษ์และชิดลม โดยมีปริมาณพื้นที่ครอบครองอยู่ที่ 97.2%

สำหรับในไตรมาส 2 มีปริมาณพื้นที่อาคารสำนักงานใหม่เพิ่มขึ้น 87,600 ตร.ม. ทำให้มีปริมาณอุปทานรวมทั้งสิ้น 4,968,458 ตร.ม. อย่างไรก็ตาม ในปี 2563-2566 คาดการณ์ว่าจะมีอาคารสำนักงานใหม่เพิ่มขึ้นอีก 9 แห่ง โดยจะมีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 599,185 ตารางเมตร เพิ่มเข้าสู่ตลาด สำหรับอัตราค่าเช่าในปี 2560 และ 2561 มีแนวโน้มการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยค่าเช่าโดยเฉลี่ยของพื้นที่ว่างของอาคารสำนักงานในกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นจาก 702 บาทต่อ ตร.ม.ต่อเดือน เป็น 752 บาทต่อ ตร.ม.ต่อเดือน เพิ่ม ขึ้น 7.12% ซึ่งค่าเช่าโดยเฉลี่ยบนถนนสุขุมวิท ระหว่างพร้อมพงษ์และชิดลม มีค่าเช่าโดยเฉลี่ยสูงที่สุดอยู่ที่ 952 บาทต่อ ตร.ม.ต่อเดือน เมื่อเทียบกับพื้นที่ในบริเวณใกล้เคียงกัน ในขณะที่ค่าเช่าบนถนนพระราม 3 มีค่าเช่าต่ำที่สุดอยู่ที่ 437 บาทต่อ ตร.ม.ต่อเดือน

ด้าน นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัด การ บริษัท เน็กซัส พรอพ เพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เปิดเผยถึงผลสำรวจตลาดคอน โดมิเนียมในปัจจุบัน โดยพบ ว่าอัตราการเติบโตของอุปทานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10% ต่อปี ส่วนด้านราคาปรับเพิ่มสูงขึ้น 8-12% ต่อปี ซึ่งราคาคอนโดมิเนียมที่สูงขึ้นเป็นเพราะปัจจัยหลัก คือ ราคาที่ดินที่สูงขึ้น ที่ดินหายากขึ้น ส่วนภาพรวมตลาดคอนโดมิ เนียม ในช่วงไตรมาส 2 ของ ปี 2561 ที่ผ่านมา พบว่าอุปทานคอนโดมิเนียมในตลาดกรุงเทพฯ เติบโตขึ้น 9,395 ยูนิต จาก 20 โครงการ ส่งผลให้ในตลาดมีคอนโดมิเนียมรวม 573,000 ยูนิต ในส่วน ของราคาขาย พบว่าภาพรวม ตลาดราคาเฉลี่ยคอนโดมิ เนียมปรับตัวสูงขึ้น 5% โดยในช่วงครึ่งปีแรกราคาขายอยู่ที่ 137,100 บาทต่อ ตร.ม.  สำหรับความต้องการในคอนโดมิเนียมช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา พบว่าเป็นดีมานด์จากคนไทยที่ซื้อเพื่อการอยู่อาศัยจริงมากกว่า 80% แต่ในระยะเวลาช่วง 1-2 ปีนี้ จะเห็นได้ว่าเริ่มมีกำลังซื้อจากชาวต่างชาติมากขึ้น