เอพี เปิดตลาด คอนโดผู้สูงวัย
Loading

เอพี เปิดตลาด คอนโดผู้สูงวัย

วันที่ : 28 สิงหาคม 2561
เอพี เปิดตลาด คอนโดผู้สูงวัย

ฉัตรชัย ธนจินดาเลิศ

คาดการณ์จากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) ว่าประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุสมบูรณ์ในปี 2564 นั่นหมายความว่า ไทยจะมีผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป สัดส่วนถึง 20% และในปี 2574 จะเพิ่มสูงถึง 28% เลยทีเดียว

ในทางกลับกัน หากมองในแง่ของธุรกิจแล้ว ฐานกลุ่มผู้สูงวัยหรือกำลัง จะกลายเป็นผู้สูงวัย ก็ย่อมจะกลายเป็นตลาดที่ใหญ่อีกหนึ่งกลุ่มสำหรับ ผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ อีกด้วย แม้แต่ความต้องการที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงวัยก็คงต้องผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดตามไปด้วย

วิทการ จันทวิมล รองกรรมการ ผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า ในปี 2563 บริษัทจะเปิดตัวโครงการนำร่องตัวใหม่ เป็นคอนโดมิเนียมทำเลแถวสาทร-ตากสิน ที่มีส่วนหนึ่งที่รองรับผู้สูงวัยโดยเฉพาะ อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศเพียง 5 นาทีเท่านั้น ราคาขายต่อห้องก็ประมาณ 9 หมื่น-1.5 แสนบาท/ตารางเมตร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดในแต่ละด้าน เพื่อให้ตัวโครงการออกมาอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

"มูลค่าโครงการนี้คงไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท เป็นตึกสูงประมาณ 30 ชั้น ขนาดห้องก็จะใหญ่ขึ้น เริ่มต้น 35-40 ตารางเมตร จากห้องปกติเริ่มต้นที่ 28 ตารางเมตร ซึ่งเรามองว่าต่อไปคอนโดจะมีการออกแบบให้ชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น กลุ่มที่เพิ่งเริ่มทำงาน ก็อาจไม่ต้องการครัว ก็ลดพื้นที่ไป 5 ตารางเมตร ถูกลง 5 แสนบาท หรือกลุ่มผู้สูงวัยที่ต้องการพื้นที่ห้องกว้างหน่อย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับพวกเขาด้วย" วิทการ กล่าว

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการนำร่อง บริษัทอาจทดลองทำเพียง 2-3 ชั้นก่อน เพื่อขายให้กับ ผู้สูงวัยโดยเฉพาะ ซึ่งหากได้รับการตอบรับอย่างดีในอนาคตก็จะขยายไปยังกลุ่มทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยวต่อไปก็ได้

ส่วนการออกแบบนั้นก็จะมีการปรับให้สอดคล้องกับแนวคิดใหม่ของบริษัทในการพัฒนาคอนโด "Intergenerational Living"  ซึ่งประกอบด้วย 3 แกนหลัก คือ

1.Rethink Space การปรับวิธีคิดในการออกแบบพื้นที่ใหม่ทั้งหมด โดยนำหลัก Universal Design เข้ามาผสมผสานในการออกแบบพื้นที่เพื่อคนทุกเจเนอเรชั่น

2.Redefine Living การสร้างนิยามใหม่ของการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมสำหรับผู้สูงวัยรุ่นใหม่ พร้อมส่งมอบคุณค่าของสินค้าที่อยู่เหนือกาลเวลา ทั้งในเรื่องของทำเลที่ตั้งที่อยู่ในเมือง (Location in Location) การเพิ่มสัดส่วนของพื้นที่ส่วนกลางที่มากขึ้นกว่าคอนโดมิเนียมทั่วไป รวมถึงการนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างความปลอดภัยในชีวิต

3.Remodeling Community การพัฒนาโมเดลที่ส่งเสริมความสุขในการอยู่อาศัย ทั้งด้านจิตใจและคุณค่าต่อชุมชน

เป็นการออกแบบให้ที่อยู่อาศัยมีฟังก์ชั่นการใช้งานสอดคล้องกับกิจวัตรประจำวันที่ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยทุกเจเนอเรชั่น โดยเฉพาะผู้สูงวัยรุ่นใหม่ดำเนินชีวิตประจำวันได้สะดวก ช่วยเหลือตนเองได้ ลดอุบัติเหตุและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในการทำกิจกรรมต่างๆ

สำหรับกลุ่มเป้าหมายนั้นจะไม่ใช่ผู้สูงวัยที่เป็นกลุ่มคนในยุค Baby Boom (คนที่เกิดปี พ.ศ. 2489-2507) แต่จะเป็นกลุ่มคน "เจเนอเรชั่นเอ็กซ์" ในวันนี้ ซึ่งปัจจุบันมีอายุประมาณ 3757 ปี (เกิดระหว่าง พ.ศ. 25042524) และกำลังจะก้าวย่างเข้าสู่การเป็น "ผู้สูงวัยรุ่นใหม่" (The Young Old) ซึ่งวิธีการออกแบบที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัยรุ่นใหม่นี้จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่น การใช้งานต่างๆ เนื่องจากพฤติกรรมหลายอย่างจะถูกส่งต่อข้ามไป

ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมคุ้นชินกับการใช้ชีวิตในเมือง การเดินทางที่สะดวกสบาย อยากอยู่ใกล้เพื่อน ลูกหลาน มาหาเยี่ยมเยียนได้สะดวก การไม่กลัวเทคโนโลยี ชอบเข้าสังคม และความพร้อมทางการเงินที่มีการวางแผนมาอย่างดี มีกำลังซื้อสูง รวมถึงการสร้างความแตกต่างให้กับโครงการที่ส่งมอบ เช่น ทำเลที่ตั้งในเมือง ใกล้รถไฟฟ้า ในขณะที่ที่พักอาศัยหรือชุมชนสำหรับผู้สูงวัยในปัจจุบันมักจะตั้งอยู่ห่างไกลหรืออยู่ในต่างจังหวัด จึงเป็นช่องว่างและเห็นโอกาสที่จะพัฒนาคอนโดที่ตอบโจทย์ ผู้สูงวัยรุ่นใหม่นี้

ทั้งนี้ บริษัทได้รับความร่วมมืออย่างดีจากพันธมิตรอย่าง บริษัท มิตซูบิชิ จิโช เรสซิเดนซ์ (MJR) ซึ่งเป็นในเครือมิตซูบิชิ เอสเตท พันธมิตรจากญี่ปุ่น ประเทศที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของนวัตกรรม และยังเป็นประเทศอันดับต้นๆ ของโลกที่ขึ้นชื่อเรื่องการใส่ใจดูแลผู้สูงอายุ เนื่องจากปัจจุบันญี่ปุ่นได้เป็นประเทศผู้สูงอายุเต็มตัวแล้ว

โทโมฮิโกะ เอกุจิ Director and Executive Officer บริษัท พรีเมี่ยม เรสซิเดนซ์ ในเครือมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (MECG) กล่าวว่า กลุ่มบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท ถือว่ามีความชำนาญในธุรกิจเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย และร่วมกับพันธมิตรในการรังสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ที่นำมาซึ่งความสะดวก ปลอดภัย และการมีคุณภาพชีวิตที่ดี

"การพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัยมีความซับซ้อนมากกว่าการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป นอกจากการคำนึงถึงการออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายใต้เงื่อนไขความปลอดภัยในการดำรงชีวิตแล้ว การบริหารจัดการเพื่อสร้างสังคมคุณภาพ ที่นำมาซึ่งสุขภาพจิต ที่ดีก็มีส่วนสำคัญที่ผู้สูงวัยต้องการ" เอกุจิ กล่าว

สำหรับการพัฒนานวัตกรรมที่พักอาศัยเพื่อผู้สูงวัย กลุ่มบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท มีแนวทางดำเนินงานผ่าน 3 บริษัทในเครือ ได้แก่

1.การพัฒนาที่อยู่อาศัยในรูปแบบ Nursing Home ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2533 และบริหารจัดการผ่านบริษัทในเครือ

2.การลงทุนพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย โดยบริษัท มิตซูบิชิ จิโช เรสซิเดนซ์ (MJR) ซึ่งจะเป็นผู้ลงทุนพัฒนาและส่งมอบต่อให้กับบริษัทพันธมิตรเป็นผู้บริหารจัดการโครงการต่อไป

3.ธุรกิจรีโนเวตที่อยู่อาศัยเพื่อ ผู้สูงวัย ผ่านทางบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท โฮม (MEH) และธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ภายใต้มาตรฐานการออกแบบที่เป็นมิตรสำหรับผู้สูงวัย

ดังนั้น ในอนาคตกลุ่มผู้สูงวัยคงเป็นตลาดที่ใหญ่อีกกลุ่มหนึ่งของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ที่เชื่อว่าจะมีผู้เล่นเข้ามาพัฒนาโครงการอีกเป็นจำนวนมาก เพียงแต่หัวใจสำคัญอยู่ที่ว่าใครจะเป็นผู้ที่พัฒนาโครงการได้ตรงใจกับความต้องการของผู้สูงวัยคนไทยได้มากที่สุดก็แค่นั้นเอง

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ