กู้เอดีบีทำรถไฟฟ้าสีส้ม คลังเล็งเพิ่มวงเงินหลังได้สินเชื่อสร้างถนน 3.4 พันล.ดอกเบี้ยต่ำ 2.5%
Loading

กู้เอดีบีทำรถไฟฟ้าสีส้ม คลังเล็งเพิ่มวงเงินหลังได้สินเชื่อสร้างถนน 3.4 พันล.ดอกเบี้ยต่ำ 2.5%

วันที่ : 5 กรกฎาคม 2561
กู้เอดีบีทำรถไฟฟ้าสีส้ม คลังเล็งเพิ่มวงเงินหลังได้สินเชื่อสร้างถนน 3.4 พันล.ดอกเบี้ยต่ำ 2.5%

    กู้ลุยรถไฟฟ้า

 

          คลังกู้เงินเอดีบีครั้งแรก ในรอบ 9 ปี สร้างถนน 4 เลน 3 เส้นทาง 3,400 ล้าน ได้ดอกเบี้ยต่ำ 2.5% เล็งเพิ่มวงเงินทำรถไฟฟ้า

 

          คลังกู้เงินเอดีบีครั้งแรกในรอบ 9 ปี สร้างถนน 4 เลน 3 เส้นทาง 3,400 ล้าน ได้ดอกเบี้ยต่ำ 2.5%

 

          นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้กับธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) กรอบวงเงินไม่เกิน 99.40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่าไม่เกิน 3,404 ล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการก่อสร้างถนน 4 เลน เส้นทางสายอีสาน (ระยะที่ 2) 3 เส้นทาง ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 22 ช่วง อ.หนองหาน-พังโคน ทางหลวงหมายเลข 22 ช่วง จ.สกลนคร-นครพนม (กิโลเมตรที่ 180-213) และทางหลวงหมายเลข 23 ช่วง จ.ร้อยเอ็ด-ยโสธร รวมระยะทาง 124.9 กิโลเมตร โดยทั้ง 3 โครงการคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2565

 

          สำหรับโครงการดังกล่าวจะเป็นการเชื่อมต่อการเดินในเส้นทางสายตะวันออกสู่ตะวันตกและถือเป็นการกู้กับเอดีบีครั้งแรกในรอบ 8-9 ปี โดยเป็นรูปแบบการกู้เป็นแบบเต็มจำนวนในคราวเดียว ไม่ใช่การทยอยเบิกเงินเหมือนที่ผ่านมา วิธีนี้จะทำให้มีการบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น โดยคิดแล้วเป็นดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ย 2.5% ใกล้เคียงกับที่กระทรวงการคลังออกพันธบัตรในประเทศเอง

 

          หลังจากนี้กระทรวงการคลังมีแผนจะกู้เงินเอดีบีเพิ่มเติมในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มเส้นทางมีนบุรี-ศูนย์วัฒนธรรมตลิ่งชัน อีก แต่ยังไม่ได้กำหนดวงเงิน การกู้อย่างเป็นทางการ

 

          นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า แม้จะมีการเปลี่ยนรัฐบาลในระยะต่อไป แต่โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ด้านคมนาคมที่มีมูลค่ารวม 2.3 ล้านล้านบาท จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ เนื่องจากรัฐบาลชุดนี้ได้มีการวางนโยบายไว้หมดแล้ว ซึ่งโครงการเหล่านี้มีประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศและให้การบริการกับประชาชน จึงไม่น่ามีปัญหาในการเดินหน้า ต่อแต่อย่างใด

 

          สำหรับทางหลวงหมายเลข 22 และ 23 จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงอาเชียนหมายเลข 15 ในส่วนที่ผ่านประเทศไทย เพื่อให้สามารถเดินทางและขนส่งสินค้าเชื่อมโยงไปยังกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวีรวมถึงจีนตอนใต้ อีกทั้ง ยังเป็นโครงข่ายที่สนับสนุนแผนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษระยะที่ 2 เขตเศรษฐกิจพิเศษนครพนม และเขตเศรษฐกิจพิเศษหนองคาย และพัฒนาเส้นทาง โครงข่ายเชื่อมโยงพื้นที่ด่านชายแดน ช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี กับพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง สนับสนุนการพัฒนาเขตพื้นที่อีอีซี

 

          ด้าน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวว่า มั่นใจว่าจะสามารถผลักดันโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 อีก 9 เส้นทาง เสนอให้ที่ประชุม ครม.เห็นชอบได้ภายในสิ้นปีนี้ โดยโครงการที่คาดว่าจะเสนอได้ก่อนจะเป็นโครงการเส้นทางบ้านไผ่-นครพนม เส้นทาง เด่นชัยเชียงราย-เชียงของ และหากผ่าน ครม.สำเร็จจะทำให้โครงการรถไฟทางคู่เริ่มก่อสร้างได้ภายในรัฐบาลชุดนี้ครบตามเป้าหมายระยะหนึ่งและระยะสอง 16 เส้นทาง

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

ข่าวพัฒนาสาธารณูปโภค อื่นๆ