จ่อขายทรัพย์กรมบังคับคดี มูลค่า 2 แสนล.ผ่านออนไลน์
Loading

จ่อขายทรัพย์กรมบังคับคดี มูลค่า 2 แสนล.ผ่านออนไลน์

วันที่ : 22 มิถุนายน 2561
จ่อขายทรัพย์กรมบังคับคดี มูลค่า 2 แสนล.ผ่านออนไลน์

14 สมาคมอสังหาฯ ร่วมกับศูนย์ข้อมูลเซ็น MOU ส่งข้อมูลโครงการ อสังหาฯ ยอดขายฯ ผ่านแอปพลิเคชัน "Self-Reporting" ใช้เป็นฐานข้อมูลประกอบการ ลงทุนป้องกันปัญหาโอเวอร์ซัปพลาย เผยรอ ครม.อนุมัติตั้งศูนย์ข้อมูลฯ เป็นองค์การมหาชน พร้อมเตรียมขายทรัพย์ผ่านออนไลน์กว่า 2 แสนล้านให้กรมบังคับคดีหวังหา รายได้เลี้ยงตัวเอง

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ศูนย์ข้อมูลฯ ได้จัดทำ แอพปลิเคชัน Self-Reporting เพื่อจัดเก็บรวบรวมข้อมูลโครงการที่อยู่อาศัยผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้เป็นผู้กรอกข้อมูลที่เป็นปัจจุบันส่งกลับมา ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการประชุมชี้แจงวัตถุประสงค์ของการทำแอปพลิเคชันรวมไปถึงขอความร่วมมือผ่านสมาคมในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล และ 9 สมาคมใน 4 ภูมิภาค ให้ได้รับทราบถึงวัตถุประสงค์ในการจัดทำแอปพลิเคชัน ในครั้งนี้

ทั้งนี้ การลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือจัดทำข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เชื่อว่าจะเป็นสัญญาณเริ่มต้นถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพของฐานข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ โดย 14 สมาคมอสังหาฯจะให้ความร่วมมือสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกของสมาคมช่วยกันรายงานข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน Self-Reporting ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตที่ศูนย์ ข้อมูลฯ ได้พัฒนาแอปพลิเคชันขึ้นมา คาดว่าจะเริ่มนำข้อมูลที่ได้จากผู้ประกอบการมาวิเคราะห์และประมวลผลและใช้ได้จริงในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้

สำหรับข้อมูลที่ทางศูนย์ข้อมูลฯขอให้ผู้ประกอบการกรอกข้อมูลผ่านแอปพลิเคชันได้แก่ จำนวนโครงการที่เปิดขาย จำนวนหน่วย ยอดขายรวม ยอดขายรายไตรมาส ยอดขายรอโอน โดยจะแบ่งตามประเภทและราคา ซึ่งจะทำให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเป็นรายไตรมาส และผู้ประกอบการสามารถนำไปประกอบการตัดสินใจลงทุน จากเดิมในภูมิภาคจะทำการสำรวจปีละ 1 ครั้ง เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการที่ให้ความร่วมมือส่งข้อมูลผ่านระบบจะได้รับข้อมูลภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัยเป็นรายไตรมาส โดยระบบจะมีการรักษาความปลอดภัย เป็นอย่างดีและจะไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของแต่ละบริษัท นอกจากนี้ ยังเป็น การช่วยลดค่าใช้จ่ายในการสำรวจข้อมูล การตลาด และยังสามารถติดตามสถานการณ์ ความเปลี่ยนแปลงของตลาดที่อยู่อาศัยที่เป็นปัจจุบัน ซึ่งภายหลังจากการลงนามบันทึกความเข้าใจแล้ว ศูนย์ข้อมูลฯ จะเดินทางไปในแต่ละจังหวัดเพื่อประชุมกับสมาชิก ของแต่ละสมาคมเพื่อแนะนำการใช้งานแอปพลิเคชันเพื่อรวบรวมข้อมูลได้อย่างเป็น รูปธรรม

ด้านนายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ความคืบหน้าการปรับโครงสร้างของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ให้เป็นองค์การมหาชน เพื่อให้ศูนย์ข้อมูลฯ มีการบริหารจัดการที่เป็น อิสระ และเป็นการลดต้นทุนให้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ที่มีการใช้เงินไปกับศูนย์ ข้อมูลฯ เฉลี่ย 50-70 ล้านบาท/ปี โดยที่การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลเป็นนิติบุคคล ทางธนาคารอาคารสงเคราะห์คาดหวังที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในรัฐบาลชุดปัจจุบัน อีกทั้งยังมีแผนการเพิ่มการบริการใหม่ๆนอกเหนือจากการให้บริการด้านข้อมูลอสังหาฯ เข้ามาเพื่อสร้างรายได้ใหม่ๆให้กับศูนย์ข้อมูลฯ เช่น

การเป็นนายทะเบียนเพื่อรับจดทะเบียนนายหน้าขายอสังหาริมทรัพย์ การขายบ้านมือเองผ่านช่องทางออนไลน์ โดยที่ศูนย์ข้อมูลฯจะซื้อทรัพย์รอการขายจากกรมบังคับคดี มูลค่า 2 แสนล้านบาท มาประมูลขายผ่านระบบออนไลน์ แต่ยังต้องรอกฎหมายผ่านกฤษฎีกา เพื่อให้กรมบังคับคดีขายทรัพย์ผ่านระบบออนไลน์ได้ ซึ่งกรมบังคับคดีจะ เซ็น MOU กับ ธอส. เพื่อจะขายทรัพย์ให้ศูนย์ข้อมูลในช่วงเดือน ก.ค.นี้ นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างรอการพิจารณาของบประมาณจากกองทุนพัฒนาสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หรือ กองทุนพัฒนา SFI ประมาณ 31 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบขายออนไลน์

 
ที่มา : ผู้จัดการรายวัน 360 องศา