ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์-วัสดุ วิ่งฝุ่นตลบรุกเจาะโครงการอีอีซี "โมเดอร์นฟอร์มพ่วงเครือระฟ้า" เจาะป้อนเฟอร์นิเจอร์สำนักงานและงานออกแบบสถาปัตยกรรม "แซง-โกแบ็ง" จากฝรั่งเศสมั่นใจ EEC ช่วยดันธุรกิจวัสดุก่อสร้างโตรอบใหม่  พร้อมดันโซลูชันวัสดุอาคารนวัตกรรมใหม่ "เฮเฟเล่ฯ" สัญชาติเยอรมนี ชี้ตลาดเอเชียศักยภาพสูง

นายทักษะ บุษยโภคะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน เปิดเผยว่า โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor: EEC) ได้สร้างผลดีให้กับตลาดเฟอร์นิเจอร์และธุรกิจเกี่ยวกับงานออกแบบสถาปัตยกรรม ซึ่ง จะเกิดการลงทุนของภาคเอกชนในไทยและจากต่างประเทศ และการเติบโตของการลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ จะส่งผลดีต่อธุรกิจของโมเดอร์นฟอร์มและธุรกิจในเครือ อย่างกลุ่มบริษัท ระฟ้า จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจงานออกแบบสถาปัตยกรรม, ออกแบบและตกแต่งภายใน อาคาร บ้าน โรงแรม เป็นต้น

"บริษัทได้กระจายความเสี่ยงโดยลงทุนธุรกิจอื่นๆ ทั้งเฟอร์นิเจอร์ และNon-Furniture เช่น ธุรกิจโรงพยาบาลและการใช้จำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ บริษัทเหล่านี้ จะเป็นบริษัทเชิงกลยุทธ์ดึงงานเฟอร์นิเจอร์ให้กับโมเดอร์นฟอร์ม ที่ผ่านมา เราเจาะลูกค้าโครงการต่างๆ ผ่าน สำนักงานของบริษัท ขณะที่ในกลุ่มบริษัทระฟ้าฯ ได้งานหลายโครงการ และหากในอนาคตระบบลอจิสติกส์มีการเชื่อมกับ 3 สนามบิน จะเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งแนวทางที่รัฐบาล ถือว่าทำถูก จากเดิมกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ และหากเมืองบริวารมีการเติบโต ความเป็นอยู่ดี ก็น่าจะช่วยลดปัญหาต่างๆในเมืองหลวงได้"

เป้าหมายของทั้งกรุ๊ปในปีนี้ ตั้งเป้ายอดขาย 3,500 ล้านบาท โต 10-15% จากยอดขาย 3,100 ล้านบาทปีที่แล้ว ปัจจุบันตลาดเฟอร์นิเจอร์มีมูลค่า 40,000-50,000 ล้านบาท บริษัทมีส่วนแบ่งตลาด 5% ส่วนตลาดเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน มีมูลค่าปีละ 5,000 ล้านบาท โมเดอร์นฟอร์ม มีส่วนแบ่งประมาณ 25-30% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,200-1,500 ล้านบาท

"แซง-โกแบ็ง"ชูสินค้านวัตกรรมป้อนโครงการ EEC

นายนิโคลา โกเดท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร กลุ่มผลิตภัณฑ์ก่อสร้างประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แซง-โกแบ็ง บริษัทสัญชาติฝรั่งเศส กล่าวว่า  อีอีซีจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการขยายตัวของธุรกิจวัสดุก่อสร้างและอาคารให้เติบโตปีหน้า หลังจากภาพรวมอุตสาห- กรรมวัสดุก่อสร้างอยู่ในภาวะถดถอยตั้งแต่ปี 2559 ที่ผ่านมา จากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ซบเซา โดยยอดขายของกลุ่มบริษัทในปี 2559-2560 ตกมาตลอด

"สัปดาห์ที่แล้ว บริษัทฯได้พูดคุยกับตัวแทนคณะกรรมการอีอีซี โดยบริษัทได้เสนอผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมช่วยให้การก่อสร้างเร็วขึ้น มีคุณภาพขึ้น และลดพลังงานมากขึ้น ตรงกับแนวคิดการพัฒนาอีอีซีที่เน้นการก่อสร้างที่มีนวัตกรรมและลด พลังงาน และคาดว่าหลังจากนี้ การพบปะระหว่างบริษัทจากฝรั่งเศสและอีอีซีจะมีขึ้นรอบที่สอง การพัฒนาอีอีซีช่วงแรกจะเป็นโอกาสของผู้รับเหมาก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและผู้ผลิตวัสดุ สำหรับใช้ในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเป็นหลัก ส่วนผู้ผลิตวัสดุอาคารอย่างบริษัทเรา อาจจะต้องใช้เวลากว่า 10 ปีที่จะเข้าไปมีส่วนในโครงการอีอีซี"

"เฮเฟเล่" ชี้ตลาดเฟอร์นิเจออร์ในเอเชียโตสูง

นายโฟลเคอร์ เฮลสเติร์น กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้ไฟฟ้าบ้านและครัวเรือน อุปกรณ์สุขภัณฑ์จากประเทศเยอรมนี กล่าวว่า ตลาดเฟอร์นิเจอร์ปีนี้จะโตกว่าปีที่แล้ว เพราะการเมืองนิ่ง โครงการของภาครัฐเกิดขึ้นมาก ปีนี้ทุกคนพูดเหมือนกันว่า ภาพเป็นบวก โดยยอดขายเฮเฟเล่ช่วง 4 เดือนแรกโต 2 หลัก และตลอดทั้งปีจะโต 12-13%

"เฮเฟเล่ เราเป็นผู้นำอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์และฟินิชชิ่งต่างๆ เราโตค่อนข้างมาก ในปีนี้จะต้องเข้าไปแชร์ให้มากขึ้นในตลาดเซรามิก โถสุขภัณฑ์ อุปกรณ์ในกลุ่มอะลูมิเนียมต่างๆ ซึ่งสินค้าของเฮเฟเล่มีราคาตั้งแต่ 5,000 บาท เน้นกลุ่มระดับบน ซึ่งกำลังเติบโตไปตามการขยายตัวของโครงการคอนโด- มิเนียมระดับพรีเมียมและลักชัวรี มีการพัฒนาโครงการระดับพรีเมียมเพิ่มกว่า 2-3 ปีที่ผ่านมาถึงกว่า 30%"

ภาพรวมตลาดเฟอร์นิเจอร์ในเอเชีย เติบโตขึ้น มีประชากรกว่าครึ่งหนึ่งของโลก โดยยอดขายใน 3 ประเทศ คือ ไทย อินเดีย และเวียดนาม รวมกันสูงถึง 50% ของยอดขายรวม และในภูมิภาคเอเชีย เฮเฟเล่มีส่วนแบ่งตลาด 30% คาดว่าอีก 4 ปี น่าจะมีส่วนแบ่งตลาด 50% ซึ่งเฮเฟเล่ (ประเทศไทย) มียอดขายอันดับ 3 ของเฮเฟเล่ทั่วโลก แต่หากพิจารณาการเติบโตแล้ว ประเทศเวียดนาม และเมียนมา เติบโตขึ้นอย่างมาก ทั้งนี้ ยอดขายเฮเฟเล่ทั่วโลกปีที่แล้วมีมูลค่า 56,000 ล้านบาท โต 4% จากปี 59

ล่าสุด บริษัทได้จับมือเป็นพันธมิตรกับสโมสรฟุตบอล "บาเยิร์น มิวนิก" หรือทีม "เสือใต้" ยักษ์ใหญ่จากเวทีบุนเดสลีกา แท็กทีมย้ำภาพพาร์ตเนอร์สุดสมบูรณ์แบบ "Official Reginal Partner" และเตรียมนำเสนอผลิตภัณฑ์ลิมิเต็ดเอดิชั่นกับตราบาเยิร์น มิวนิก คาดว่าภายในปี 61 จะมีความชัดเจน

ไต้หวัน ยึดไทยเป็นฐานรุกตลาด AEC

นายศุภแมน มรรคา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทีทีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ผลจากความร่วมมือในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ส่งผลให้ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้างและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องจากประเทศต่างๆ ทั้งจากประเทศเอเชีย ยุโรป และอเมริกา ขยายธุรกิจเข้าสู่ประเทศไทย เพื่อใช้เป็นฐานรุกตลาดอาเซียน  โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจจากประเทศจีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม ซึ่งเข้ามาหาคู่ค้าและตัวแทนจำหน่ายสินค้า ซึ่งการออกบูทในงานสถาปนิก'61 ครั้งนี้ ถือเป็นช่องทางหนึ่งในการนำเสนอและเปิดตัวสินค้า รวมถึงนวัตกรรมการก่อสร้างใหม่ๆ เพื่อหาคู่ค้าในประเทศไทย

นายบิล หวง (Mr.Bill Huang) ผู้อำนวยการ บริษัท DESS INDUSTRIAL ผู้ผลิตและส่งออกเครื่องมือช่าง แบรนด์ "WELL FGRCE" และรับจ้างผลิตเครื่องมือช่าง จากประเทศไต้หวัน กล่าวว่า DESS มีโรงงานอยู่ในเมืองไทจงซิตี้ โดยผลิตและส่งออกเครื่องมือช่าง และรับจ้าง ผลิตเครื่องมือช่างภายใต้แบรนด์ต่างชาติ มีรายได้ 13 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ส่วนใหญ่ส่งไป จำหน่ายในกลุ่มประเทศยุโรป สหรัฐฯ กลุ่มประเทศ ตะวันออกกลาง และญี่ปุ่น ส่วนประเทศมาเลเซียจะผ่านตัวแทนจำหน่าย และการรับจ้างผลิต

ทั้งนี้  DESS ได้ออกบูทในงานสถาปนิกมา 5 ปีแล้ว โดยมีเป้าหมายหาพันธมิตรทางการค้าเป็นหลัก ที่ผ่านมาเคยเจรจากับบริษัทโมเดิร์นเทรด ผู้จำหน่ายเครื่องมืออุปกรณ์ตกแต่งบ้าน และนำเสนอสินค้ามาบ้างแล้ว แต่ผู้ประกอบการเหล่านั้นเพียงแค่สั่งซื้อสินค้าบางส่วนของบริษัทเพื่อนำไปขายเท่านั้น ทำให้บริษัทยังไม่สามารถทำตลาดได้เต็มที่ ทำให้บริษัทต้องการหาตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยกำหนดคุณสมบัติของตัวแทนจำหน่าย คือ ต้องมีช่องทางการจำหน่ายทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ สามารถกระจายสินค้าได้ทั่วประเทศ สำหรับสินค้าหลักที่ผลิตและส่งออกมากที่สุด เป็นกลุ่มเครื่องมือช่าง อุปกรณ์งานช่างฝ้า ผนัง และอุปกรณ์งานช่างกระเบื้อง

"DESS มองประเทศไทยมีศักยภาพขยายตัวสูง สามารถเป็นฐานในการขยายตลาดไปสู่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน ที่ตั้งอยู่ในศูนย์ กลางของกลุ่มประเทศ AEC และเศรษฐกิจของประเทศไทยยังขยายตัวที่แข็งแกร่ง"