นายนที เมฆรุ่งโรจน์ ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไวท์คลาวน์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ มอร์ตาร์ พร้อมคณะผู้บริหารได้แถลงข่าวถึง ทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปี 2561 ว่า จากแนวโน้มการเติบโตของตลาดปูน ซีเมนต์ ซึ่งได้รับผลจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ค่อยๆ เริ่มฟื้นตัว โดยภาคอสังหา- ริมทรัพย์ได้รับประโยชน์จากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของทางภาครัฐ เช่น โครงการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ซึ่งจะเป็นตัวช่วยผลักดันและกระตุ้นการลงทุนในภาคเอกชน โดยยอมรับว่าจากภาวะตลาดหดตัวในปีก่อนๆ ทำให้ในปีนี้เมื่อมีสัญญาณบวกจากทางภาครัฐ จึงมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูงจากผู้แข่งขันในตลาด เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด ซึ่งปัจจุบัน บริษัทมีส่วนแบ่งตลาด 10% จากมูลค่าตลาดรวมของ ปูนฉาบสำเร็จรูปที่ 10,000 ล้านบาท

"เราเป็นผู้เริ่มต้นและคิดค้นปูนฉาบสำเร็จรูปรายแรก โดยในระยะแรกของการดำเนินธุรกิจ มีการรับจ้างผลิตตามแบบฐานให้แก่ลูกค้า และเมื่อเห็นโอกาสและตลาดปูนฉาบมีการใช้อย่างแพร่หลาย ทางบริษัทจึงได้ตัดสินใจที่จะสร้างการรับรู้ในแบรนด์ปูนซีเมนต์ สิงห์ มอร์ตาร์ ให้มากและกว้างขึ้น โดยจะรุกเข้าตลาดอย่างเต็มที่ โดยในปีนี้จะมีการรีแบรนด์เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ผ่าน การใช้งบ 130 ล้านบาท ในการทำตลาดภายใน ระยะเวลา 2 ปีนี้รวมไปถึงวิจัยสินค้านวัตกรรม ใหม่ พัฒนาปรับปรุงโรงงานผลิตและเครื่อง จักรให้ทันสมัย จากปัจจุบันมีไลน์การผลิตรองรับถึง 8 ไลน์ สามารถผลิตได้ 2,000 ตัน/ วัน ปัจจุบันใช้ไปเพียง 60%" นายนทีกล่าว

นอกจากนี้ยังเร่งขยายช่องทางการจัดจำหน่าย จากเดิมที่ขายเข้าโครงการโดยตรง 30% และส่วนของ OEM สัดส่วน 70% โดยจะเพิ่มตัวแทนจำหน่ายมากขึ้น เน้นจังหวัดที่อยู่ในรัศมีที่ตั้งของโรงงานในจังหวัดราชบุรีไม่เกิน 200 กิโลเมตรจะช่วยให้ได้เปรียบในเรื่องการขนส่ง เช่น ราชบุรี กาญจนบุรี และสุพรรณบุรี เป็นต้น คาดว่าทั้งปีจะได้ตัวแทนจำหน่ายจากภาคตะวันตก ภาคกลาง และภาคใต้ เพิ่มขึ้นประมาณ 50-60 ราย และวางเป้าภายใน 2 ปีจากนี้ สัดส่วนช่องทางการผลิตOEMและจำหน่ายเองในสัดส่วน 50:50

"ตลาดปูนซีเมนต์ยังทรงตัวจากปีก่อน แต่สิ่งที่น่าสนใจคือตลาดปูนมอร์ตาร์ มีอัตราเติบโตมาจากหลายปัจจัย อาทิ แนวโน้มค่า แรงที่สูงขึ้น ผู้บริโภคต้องการงานที่มีคุณภาพ และเทรนด์การก่อสร้าง มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น การใช้อิฐมวลเบามาทดแทนการใช้อิฐมอญ การก่อสร้างระบบสำเร็จรูปมากขึ้น ทำให้ปูนซีเมนต์ สิงห์ มอร์ตาร์สามารถ ตอบโจทย์ได้มากยิ่งขึ้น คาดว่าปีนี้ ภาพรวมบริษัทจะมีการเติบโตประมาณ 10% หรือมียอดขาย 550 ล้านบาท จากปีก่อนสามารถทำยอดขายได้ 500 ล้านบาท" นายนทีกล่าว