นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิยเผยว่า แนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยปี 61 คาดว่าจะขยายตัวได้ดีขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนจากมูลค่าการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) 29 บริษัท พบว่ามีมูลค่ารวมกว่า 611,800 ล้านบาท คิดเป็น 460 โครงการ แบ่งเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ 330 โครงการ และคอนโดมิเนียม 130 โครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รองรับความต้องการที่อยู่อาศัยของประชาชนเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ประเมินว่าภาพรวมปีนี้ตลาดที่อยู่อาศัยทั่วประเทศจะขยายตัวหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย 7.9% การขยายตัวมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ 10.8% และการขยายตัวที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียน 10.9% ส่วนการขยายตัวด้านยอดปล่อยใหม่สินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อที่อยู่อาศัย 2.8% ถือว่ายังมีทิศทางการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินยังดีต่อเนื่อง แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีท่าทีขยับเพิ่มดอกเบี้ยสูงขึ้น แต่ไทยมองว่าครึ่งปีแรกยังมีอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิม เพราะเศรษฐกิจไทยยังค่อย ๆ ฟื้นตัว จึงต้องใช้นโยบายดอกเบี้ยตำขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

"หากสหรัฐปรับเพิ่มดอกเบี้ยหลายครั้งสูงขึ้น อาจกดดันให้ไทยปรับเพิ่มตามไปด้วย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจกู้ซื้อบ้านครึ่งปีหลัง แต่เชื่อว่าไม่กระทบต่อภาระการผ่อนชำระของประชาชนมากเกินไป เพราะปัจจุบันพฤติกรรมผู้กู้จะใช้วิธีรีไฟแนนซ์เข้ามาปรับพอร์ตสินเชื่อ เมื่อถึงเวลาตามที่กำหนด ทำให้ได้รับดอกเบี้ยต่าตามโปรโมชั่น ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่ลอยตัวมากนัก"

สำหรับภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยจะยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ซึ่งเป็นการเติบโตของอาคารชุดเป็นหลัก ขณะที่ภูมิภาคเป็นการเติบโตในตลาดทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยวเป็นหลัก โดยคาดว่าปี 61 พื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลจะมีหน่วยโครงการเปิดขายใหม่ 117,100 หน่วย ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 60 คิดเป็น 2.8% โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ประมาณ 107,800-128,800 หน่วย ส่วนตลาดที่อยู่อาศัยภูมิภาคคาดว่า จะมีหน่วยที่อยู่อาศัยเสนอขายรวม 111,300 หน่วย แบ่งเป็น โครงการบ้านจัดสรร 79,900 หน่วย และโครงการอาคารชุด 31,400 หน่วย

ขณะเดียวกัน การลงทุนยังเป็นผู้ประกอบการใน ตลท.เป็นหลัก โดยอาคารชุดยังเกาะอยู่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้ากรุงเทพฯ ชั้นใน ขณะที่ 5 จังหวัดใกล้เคียงกรุงเทพฯ เริ่มคอนโดมิเนียมเติบโตสูง คือ นนทบุรีและสมุทรปราการ บริษัทเอกชนเริ่มหันกลับมาลงทุนในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงมากกว่าการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาค โดยยอดเหลือขาย 30% นับว่าไม่เหลือมากเกินไปสามารถขายออกไปได้

ขณะที่สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยปี 60 มีหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ 315,102 หน่วย มีมูลค่ารวม 674,116 ล้านบาท มีจำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนทั่วประเทศ 184,771 หน่วย และมียอดปล่อยใหม่สินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อที่อยู่อาศัยทั่วประเทศรวม 633,989 ล้านบาท