ภูเก็ตเปิดตัวสมาร์ทบัส ระบบขนส่งแก้จราจร
Loading

ภูเก็ตเปิดตัวสมาร์ทบัส ระบบขนส่งแก้จราจร

วันที่ : 3 มีนาคม 2561
ภูเก็ตเปิดตัวสมาร์ทบัส ระบบขนส่งแก้จราจร

อชัถยา ชื่นนิรันดร์

การแก้ปัญหาจราจรด้วยระบบขนส่งมวลชน ถือเป็นเป้าหมายในขั้นแรกของการจัดตั้งบริษัทพัฒนาเมืองโดยการร่วมมือกันของภาคเอกชนในจังหวัดนั้นๆ อย่างที่เกิดขึ้นแล้ว เช่น บริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง (KKTT) ซึ่งกำลังดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเบาขนส่งมวลชน

เช่นเดียวกับ จ.ภูเก็ต ที่มีการจัดตั้งบริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง (PKCD) โดยล่าสุดได้เปิดตัว ภูเก็ตสมาร์ทบัส รถบัสขนส่งมวลชนขึ้นให้บริการ

วัชร จารุอริยานนท์ ประธาน กรรมการบริหาร บริษัท ภูเก็ตสมาร์ทบัส PKSB เปิดเผยว่า ภูเก็ตยังขาดระบบขนส่งสาธารณะที่เพียงพอและมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของผู้ใช้บริการ ยังมีปัญหาการจราจรติดขัด ส่วนใหญ่เดินทางโดยใช้รถส่วนบุคคลเป็นหลัก หากไม่แก้ปัญหานี้อย่างเป็นระบบ จะส่งผลกระทบกับ รายได้การท่องเที่ยว ด้วยเหตุนี้ ภูเก็ตพัฒนาเมือง PKCD จึงได้จัดตั้ง บริษัท ภูเก็ตสมาร์ทบัส ให้บริการรถบัสขนส่งมวลชน เพื่อให้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นที่มาของการมีรถบัสโดยสารสาธารณะ ภูเก็ตสมาร์ทบัส

วัชร บอกว่า รถที่นำมาให้บริการผู้โดยสาร เป็นรถใหม่ทั้งหมดจาก เมอร์เซเดสเบนซ์ เพราะมั่นใจคุณภาพเครื่องยนต์ พื้นที่ภายในรถสะดวกสบาย มีที่วางกระเป๋าขนาดใหญ่ สำหรับ นักท่องเที่ยว อินเทอร์เน็ตไร้สาย ไม่ขาดการติดต่อตลอดการเดินทาง ช่องเสียบ ยูเอสบีทุกที่นั่ง ระบบ GPS สามารถ ติดตามได้ว่ารถที่ใช้บริการรวมถึงแต่ละคันอยู่จุดไหน กล้อง CCTV ตรวจจับรักษาความปลอดภัยของผู้โดยสาร ห้องคอนโทรลรูม ที่ควบคุมการทำงานของพนักงานขับรถและความปลอดภัยของผู้โดยสารผ่านจอทีวี ติดตั้งอยู่ภายในสำนักงานของ PKCD ที่เซ็นทรัลเฟสติวัลภูเก็ตอีสท์ ลิฟต์สำหรับให้บริการผู้โดยสารที่ใช้วีลแชร์ สามารถเช็กเวลาได้ว่าใช้เวลารอรถอีกนานเท่าไร เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนเดินทางได้ล่วงหน้าอย่างสะดวกสบาย ผ่าน www.Choop.Me

การชำระค่าโดยสารผ่านบัตร Rabbit x Phuket Smartcard แทนเงินสด

ค่าโดยสารคิดตามระยะทาง เริ่มตั้งแต่ 50 บาท ไปจนถึง 170 บาท สามารถซื้อบัตรดังกล่าวได้บนรถภูเก็ตสมาร์ทบัส ราคาเริ่มต้น 300 บาท เป็นค่าบัตร 100 บาท พร้อมมูลค่าเงินในบัตรแรบบิท พร้อมใช้งานทันที 200 บาท เพื่อใช้ชำระค่าโดยสารรวมถึงการชำระค่าสินค้าและบริการต่างๆ พร้อมรับสิทธิพิเศษและส่วนลดอีกมากมาย ณ ร้านค้าชั้นนำที่มีเครื่องรับบัตรแรบบิท กว่า 60 จุดทั่วภูเก็ต และสามารถนำบัตรแรบบิทมาใช้ในกรุงเทพฯ กับร้านค้าร่วมรายการกว่า 5,000 จุด

นอกจากนี้ ภูเก็ตพัฒนาเมือง กำลังร่วมมือกับวีซ่า ในการริเริ่มโครงการพัฒนาระบบชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและเดบิตโดยเฉพาะแบบไร้สัมผัสเพื่อเป็นประโยชน์ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

สำหรับเส้นทางการเดินรถ บริษัท ภูเก็ตสมาร์ทบัส PKSB เลือกเส้นทาง เชื่อมท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต สู่เส้นทางเลียบหาด ใช้ชื่อว่า เส้นทางสายสีฟ้า เริ่มจากสนามบินภูเก็ตสู่ หาดสุรินทร์ หาดกมลา หาดป่าตอง หาดกะรน หาดกะตะ หาดราไวย์ ระยะทางกว่า 56 กิโลเมตร มีจุดจอดขึ้นลงตลอดสายมากกว่า 50 จุด ทั้งขาไปและขากลับ ให้บริการวันละ 32 เที่ยว/วัน ตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น. ระยะเวลารถออกประมาณ 45 นาที/คัน ส่วนระยะเวลาเดินทางต้นทางไปสุดทาง ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง

ก้าน ประชุมพรรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง กล่าวว่า บริษัทภูเก็ตพัฒนาเมือง ก่อตั้งขึ้นจากการรวมตัวของประชาชนและ ผู้ประกอบการส่วนหนึ่งในภูเก็ต ภายใต้แนวคิดวิสาหกิจเพื่อสังคมในการร่วมมือกับภาครัฐ องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นในทุกระดับ เพื่อระดมสรรพกำลังพัฒนาเมืองภูเก็ตตามนโยบายสมาร์ทซิตี้ของรัฐบาล สร้างเมืองภูเก็ตร่วมกับทุกภาคส่วนไปสู่เมืองชั้นนำของโลก

ก้านบอกว่า การดำเนินการระยะเวลา 1 ปีเศษ ได้ร่วมมือกับภาควิชาการทำการวิจัยเพื่อให้ข้อมูลดำเนินการสอดคล้องกับสภาพในภูเก็ต พร้อมกำหนดแผนงานเชิงยุทธศาสตร์ ระยะยาว 5 ปี และ 20 ปี ควบคู่ขนานร่วมกับ จ.ภูเก็ต ภายใต้แผนงานสอดคล้องแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติ 20 ปี

"วันนี้บริษัทภูเก็ตพัฒนาเมือง เปิดตัวบริษัท ภูเก็ตสมาร์ทบัส เป็นบริษัทในเครือข่ายธุรกิจพัฒนาเมือง เพื่อดำเนินธุรกิจด้านบริการสังคม โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย ลดมลภาวะสิ่งแวดล้อม การ แก้ปัญหาจราจรและจัดระเบียบการขนส่งแบบครบวงจรในอนาคต"

นรภัทร ปลอดทอง ผวจ.ภูเก็ต กล่าวว่า การเข้ามาของภูเก็ตพัฒนาเมือง ทำให้เป็นเมืองนานาชาติ เริ่มมีการเปลี่ยนเมือง การที่มีรถบัสเป็นทางเลือกใหม่ของผู้โดยสาร ให้เกิดความมั่นใจ ความปลอดภัย สามารถแก้ปัญหาจราจรได้ในระดับหนึ่ง

ด้าน พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า วันนี้ภาคเอกชนลงทุนโครงการ ภูเก็ตสมาร์ทบัส เป็นโครงการตัวอย่างของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่จะส่งเสริมผลักดันให้เกิดขึ้นแบบนี้ ทุกจังหวัดในประเทศไทย

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
ข่าวพัฒนาสาธารณูปโภค อื่นๆ