เฟอร์นิเจอร์ปีหน้าฟื้น โตตามอสังหาหลังแบงก์ปล่อยกู้มากขึ้น เอสบีขยายรุกออนไลน์
Loading

เฟอร์นิเจอร์ปีหน้าฟื้น โตตามอสังหาหลังแบงก์ปล่อยกู้มากขึ้น เอสบีขยายรุกออนไลน์

วันที่ : 12 ธันวาคม 2560
เฟอร์นิเจอร์ปีหน้าฟื้น โตตามอสังหาหลังแบงก์ปล่อยกู้มากขึ้น เอสบีขยายรุกออนไลน์

เอสบีฯ ชี้เฟอร์นิเจอร์ปีหน้าโตกว่า 10% หลังเห็นสัญญาณแบงก์เริ่มปล่อยสินเชื่อ สยายปีกลุยออนไลน์รับพฤติกรรมนักช็อปดิจิทัล นางธัญญรักข์ ชวาลดิฐ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์

ผู้ดำเนินธุรกิจเฟอร์นิเจอร์เอสบี เปิดเผยว่า ภาพรวมเฟอร์นิเจอร์มูลค่าปีละกว่า 8 หมื่นล้านบาท คาดปีหน้าจะกลับมาเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% โดยเห็นสัญญาณจากธนาคารปล่อยสินเชื่อเพื่อการอยู่อาศัย ในช่วงปลายปี ส่วนภาพรวมเฟอร์นิเจอร์ในปีนี้คาดไม่เติบโต จากการที่โครงการบ้านเดี่ยวไม่ได้มีเปิดตัวโครงการใหม่ ส่วนคอนโดมิเนียมมีแต่ซัพพลาย

ขณะที่แผนตลาดของเฟอร์นิเจอร์เอสบีเพื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัล จะเดินหน้าสู่โมเดลธุรกิจออมนิแชนแนล หรือการเชื่อมต่อจากโลกออฟไลน์ไปสู่ออนไลน์ รองรับกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป เริ่มสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์เพิ่มขึ้น โดยกลยุทธ์บริษัทจะรวบรวมเฟอร์นิเจอร์ 2-3 หมื่นรายการ มาไว้ในช่องทางออนไลน์ ซึ่งจะมีความหลากหลายกว่าออฟไลน์ซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่

นอกจากนี้ บริษัทลงทุน 20-30 ล้านบาท พัฒนาเทคโนโลยีและระบบหลังบ้านทั้งระบบการบริหารจัดการ สต๊อกสินค้าและคลังสินค้า ในส่วนของช่องทางออฟไลน์ บริษัทนำระบบดิจิทัลทรีดีมาบริการให้ลูกค้าได้ดีไซน์ การแต่งบ้านทั้งเฟอร์นิเจอร์ด้วยตัวเอง โดยในอนาคตจะนำอุปกรณ์วีอาร์หรือแว่นตาจำลองโลกเสมือนจริง ทำให้ลูกค้าจำลองเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ตกแต่งได้ดีขึ้น

"แนวโน้มการซื้อสินค้าช่องทางออนไลน์ กลุ่มคนเมืองยังซื้อสินค้าเป็นหลักในสัดส่วน 60-70% และต่างจังหวัด  30-40% ส่วนใหญ่จะมาดูสินค้าทางช่องทางออฟไลน์ก่อน เพราะต้องการสัมผัสของจริงก่อนซื้อ จากนั้นจะสั่งซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ ส่วนแผนขยายช่องทางออฟไลน์ปีหน้าจะใช้งบ 700-800 ล้านบาท ลงทุนเพิ่มสาขา 1 แห่งที่พระราม 2 บนพื้นที่ 2,000 ตร.ม. ซึ่งจะเปิดให้บริการไตรมาส 4" นางธัญญรักข์ กล่าว

สำหรับรายได้บริษัทตั้งเป้าเติบโตปีหน้า 5-8% หรือราว 7,700 ล้านบาท ส่วนรายได้ปีนี้โต 3% หรือ 7,200 ล้านบาท ขณะที่รายได้ช่องทางออนไลน์ปีนี้วางเป้าหมายเติบโตไม่ต่ำกว่า 80% หรือสร้างรายได้ 50 ล้านบาท ในปีหน้าคาดว่ารายได้แตะ 100 ล้านบาท โดย 3-5 ปี รายได้ทางออนไลน์มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 1% เป็น 5% และช่องทางออฟไลน์ 99% เป็น 95% ของรายได้รวม

 
ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์