ตลาดวัสดุก่อสร้าง-อิฐมวลเบาอ่วม คาดทั้งปีลบ 5% ชี้อานิสงส์ลงทุนภาครัฐ ส่งตลาดขยับปีหน้าโตถึง 10%

นายอัครภัทร ทองน้ำตะโก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ควิกโคท โปรดักส์ เปิดเผยว่า ครึ่งแรกปี 2560 ตลาดวัสดุก่อสร้าง-อิฐมวลเบา ติดลบ 5-7% เนื่องจากมีสต๊อกอสังหาริมทรัพย์เหลืออยู่มากและสงครามราคามีการแข่งขันสูง ส่งผลให้ผู้ประกอบการวัสดุหลายรายมีกำไรลดลง เชื่อว่าครึ่งปีหลังตลาดจะทรงตัวเนื่องจากมีการลงทุนของรัฐจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดตลาดรวมปีนี้ติดลบที่ 5 % แต่ปี 2561 ตลาดรวมโตถึง 10%

ขณะที่ในส่วนของบริษัท หลังปรับโครงสร้างและลดต้นทุนซึ่งยอดขายติดลบ 7% แต่กำไรยังเท่าเดิมจากนี้บริษัทมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ มายลอฟท์ เจาะกลุ่มดีไอวาย โดยจะเริ่มจำหน่ายเดือน พ.ย.นี้ รวมถึงการรุกตลาดต่างประเทศ เช่น กัมพูชา และเมียนมา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหาพาร์ตเนอร์ คาดว่าส่งออกได้ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้

นายอัครภัทร กล่าวว่า นอกจากนี้ยังลงทุนโรบอตราว 200 ล้านบาท มาใช้ผลิตคาดเริ่มไลน์ผลิตได้ไตรมาส 3 ปี 2561 เพื่อแก้ปัญหาแรงงาน ล่าสุดออกแคมเปญ "ไม่แตกแยก ไม่แตกร้าว" พร้อมทำการตลาดเชิงรุกด้วยงบกว่า 20 ล้านบาท หวังสร้างแบรนด์ สำหรับปีนี้คาดมียอดขาย 1,200 ล้านบาท เติบโต 5% มีส่วนแบ่งตลาด 10% ของมูลค่าตลาดรวม 1.5 หมื่นล้านบาท

นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ทคอนกรีต กล่าว

ว่า ตลาดอิฐมวลเบาในประเทศมีแนวโน้มเติบโตจากครึ่งปีแรกที่อยู่ในภาวะชะลอตัว เนื่องจากการเร่งลงทุนของภาครัฐโดยตลาดจะขยับมาทรงตัว คาดมูลค่าตลาดรวมปีนี้อยู่ราว 2,000 ล้านบาท และจะเริ่มเห็นตลาดฟื้นตัวชัดไตรมาส 2 ปี 2561 เป็นต้นไป เชื่อตลาดรวมจะโตกว่า 10%

ทั้งนี้ จะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มงานโครงสร้างและบล็อกตกแต่ง พร้อมทำการตลาดเชิงรุกเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ รวมทั้งขยายตลาดใน สปป.ลาว และกัมพูชาให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยปีนี้ได้เพิ่มสัดส่วนรายได้ส่งออกที่ 2-3% จากปีที่แล้วอยู่ที่ 1% และเพิ่มเป็น 5% ในปีหน้าโดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้โตอย่างน้อย 5%