อนันดาฯเพิ่มเป้าโครงการใหม่

ธุรกิจอสังหาฯเหนื่อยไตรมาส 1 ยอดขายร่วง เจอแบงก์คุมสินเชื่อเข้ม ลูกค้าไม่ซื้อ ดิ้นปรับตัวเพิ่มมาร์จิน คาดไตรมาส 2 ลดลงต่อ อนันดาเพิ่มเป้าเปิดตัวโครง การใหม่หวังโกยเงินระยะยาว

หุ้นไทยร่วงแรงสวนทางตลาดเอเชีย ส่วนหนึ่งเกิดจากกำไรไตรมาส 1/2560 ของบริษัทจดทะเบียน ต่ำกว่าระยะเดียวกันของปีก่อน อาทิ กลุ่มพัฒนาอสังหาริม ทรัพย์ และมีบริษัทหลายแห่งที่มีกำไรน้อยกว่าที่คาดการณ์   จนทำให้นักวิเคราะห์ต้องปรับลดประมาณการรายได้ทั้งปีลงมายกกลุ่ม

กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีกำไรลดลง มีทั้งบริษัทที่ทำบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม อาทิ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH ไตรมาส 1/2560 มีกำไรสุทธิ 1,773 ล้านบาท ลดลงจำนวน 222 ล้านบาทคิดเป็นประมาณ 11.12% จากที่กำไรสุทธิ 1,995 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN มีกำไรสุทธิเพียง 315 ล้านบาท รูดลงแรง 389 ล้านบาท หรือประมาณ 55% บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ฯ (QH) มีกำไรสุทธิ 652 ล้านบาท ลดลงประมาณ 92 ล้านบาท หรือ 12% จากที่มีกำไรสุทธิ 744 ล้านบาท

ทั้งนี้ LH และ LPN ชี้แจงสาเหตุที่ทำให้กำไรลดลง มาจากยอดขายที่ลดลง แอล.พี.เอ็น.ระบุว่า เนื่องจากสถานภาพทางการเงินของกลุ่มเป้าหมาย อัตราการ ปฏิเสธสินเชื่อ รวมถึงวงจรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยบริษัทมีโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จเพียง 1 โครงการ  มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท แต่ยังรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่  30% ของรายได้ ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2 นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวงฯ คาดว่า จะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากฐานที่สูงในปีก่อน แต่สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งมาก คาดจะสามารถเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผลต่อกำไรที่สูงขึ้น เป็น 77% เพื่อรักษาระดับเงินปันผลต่อหุ้น 0.90 บาท ไว้ได้ คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 8%

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ฯ(ANAN) กล่าวว่า ไตรมาส 1/2560 มีกำไรสุทธิ 140 ล้านบาทลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 148 ล้านบาท มีอัตรากำไรสุทธิที่ 6% เท่ากับปีก่อน และสามารถสร้างยอดขาย รวม 4,436 ล้านบาท ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาสแรก บริษัท มียอดขายรอรับรู้รายได้ 42,461 ล้านบาท ซึ่งเป็นสถิติสูงสุด รองรับการโอนใน 3 ปีข้างหน้า เพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้านี้

ส่วนแนวโน้มในไตรมาส 2  บริษัทเพิ่มเป้าเปิดตัวโครงการใหม่  สูงถึง 267% จากเป้าหมาย เดิมที่ 6,025 ล้านบาทเป็น 22,676 ล้านบาทและปรับเพิ่มเป้ายอดขาย (presale) อีก  25% จากเป้าหมายก่อนหน้า  รวมทั้งปีนี้การเปิดตัวและยอดขายเพิ่มขึ้นกว่าเป้าหมายเดิม 2% ส่วนการโอนในปีนี้อยู่ที่ 25,000 ล้านบาท เพื่อรอรับรู้กว่า 16,300 ล้านบาท คิดเป็น 73% ของเป้ายอดโอนในช่วง 9 เดือนข้างหน้า "บริษัทยังคงอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวผลตอบแทน ซึ่งจะเห็นได้จากยอดโอนที่เติบโตขึ้น 3 เท่าตัวระหว่างปี 2558-2561 รวมการเติบโต 58% จากปี 2559" นายชานนท์ กล่าว

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้รายได้และกำไรในไตรมาสแรกของผู้ประกอบการลดลงเป็นผลมาจากในช่วงไตรมาส 1/2559 ยังอยู่ในช่วงที่มีมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐ  ปรับลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์จาก 2% เหลือ 0.01% และค่าธรรมเนียมการจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% มีผลตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2558 ถึง 2559 ซึ่งถือเป็นมาตรการที่ช่วยลดภาระของผู้ประกอบการและผู้บริโภค

"เมื่อมาตรการสิ้นสุดลงค่าใช้จ่ายที่เคยหายไปก็กลับมา และในช่วงที่มีมาตรการกระตุ้นพบว่ามียอดโอนเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้รายได้และกำไรของผู้ประกอบการเติบโต ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2/2560 คาดฟื้นตัวได้"

จากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ระบุว่า ยอดโอนกรรม สิทธิ์ที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล 5 จังหวัด (นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม) ในไตรมาส 1/2559 และไตรมาส 2 /2559 สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 ในระดับ 20.51% และ 21.92% ตามลำดับ

ก่อนหน้านี้ บริษัทจัดอันดับเครดิต ทริสเรทติ้ง คาดความต้องการที่อยู่อาศัยปีนี้จะทรงตัวหรือเติบโตเล็กน้อยจากปีก่อนท่ามกลางปัจจัยลบ ธนาคารส่วนใหญ่ยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ทั้งหนี้ครัวเรือนระดับสูง และเอ็นพีแอลที่เพิ่มขึ้น แต่เชื่อว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะรับมือได้ โดยทริสยังคงแนวโน้ม   "คงที่" สำหรับธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ