ธปท.ชี้อสังหาฯยอดค้างลดกรุงศรีลั่นต้นปี กู้บ้าน โตต่ำ
Loading

ธปท.ชี้อสังหาฯยอดค้างลดกรุงศรีลั่นต้นปี กู้บ้าน โตต่ำ

วันที่ : 26 มกราคม 2560
ธปท.ชี้อสังหาฯยอดค้างลดกรุงศรีลั่นต้นปี กู้บ้าน โตต่ำ

ธปท.ชี้ภาวะเศรษฐกิจยังไม่แข็งแรง เตือนผู้ประกอบการอสังหาฯกู้เงินขึ้นโครงการใหม่ต้องระมัดระวัง ฟาก "กรุงศรีฯ" ประเมิน 4 เดือนแรกปี'60 สินเชื่อ อสังหาฯโตต่ำ ชี้ปีนี้มีลูกค้ากู้ซื้อบ้านใหม่เข้าระบบเพิ่มอีก 4 พันราย หลังปลดแอกหนี้รถคันแรก ปธ.สมาคม สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยลั่นเมืองไทยกู้ซื้อบ้านง่ายสุดในโลกแล้ว วอนดีเวลอปเปอร์อย่าเติมเอ็นพีแอลเข้าระบบ

นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ปีนี้สถานการณ์โครงการอสังหาริมทรัพย์ล้นตลาด (โอเวอร์ซัพพลาย) น่าจะปรับตัวดีขึ้นแล้ว หลังจากปีที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกมาตรการดูดซับอสังหาฯส่วนเกินออกไปบ้างแล้ว อีกทั้งผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาฯ ก็ได้ชะลอเปิดโครงการใหม่ ซึ่งก็เห็นว่าตั้งแต่ปลายปี 2559 มียอดคงค้างอสังหาฯ ในระบบไม่มากแล้ว

อย่างไรก็ตาม ธปท.ยังคงติดตามการเปิดโครงการอสังหาฯใหม่ ๆ ในปี 2560 นี้อย่างต่อเนื่อง เพราะการออกโครงการใหม่ ผู้ประกอบการก็ต้องระดมทุน ซึ่งในภาวะเศรษฐกิจที่ยังเติบโตไม่แข็งแรงนัก ก็ต้องระดมทุนอย่างระมัดระวังมากขึ้น

ด้านนายณัฐพล ลือพร้อมชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) กล่าวว่า ในปีนี้ธุรกิจอสังหาฯน่าจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากผู้ประกอบการได้ชะลอการออกโครงการใหม่มานาน ดังนั้น ธนาคารจึงประเมินว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 ก็จะเริ่มเห็นการเปิดตัวโครงการใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบที่น่าจะมีมากขึ้น ส่วนโครงการอสังหาฯตามแนวรถไฟฟ้ารอบเมืองอาจยังมีไม่มาก เพราะยังมีสต๊อกค้าง อยู่พอสมควร

นอกจากนี้ยังประเมินว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ น่าจะยังมีการขยายตัวของ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากช่วงเดียวกันในปี 2559 มีการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในปริมาณสูง ตามมาตรการเร่งโอนของภาครัฐ แต่ก็คาดว่าในช่วง 8 เดือนหลังของปีนี้จะมีการขยายตัวของสินเชื่อบ้านดีขึ้น

อย่างไรก็ดี คาดว่าปีนี้ลูกค้าที่ต้องการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจะมีความพร้อมในการผ่อนชำระเงินกู้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้ไม่เกินเดือนละ 50,000 บาท หลังจาก ได้ปลดภาระผ่อนหนี้ในโครงการรถคันแรกไปตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งข้อมูลจากฝ่ายงานวิจัยกรุงศรีฯประเมินว่า ในภาพรวมจะมีผู้บริโภคที่มีภาระผ่อนหนี้เดือนละ 10,000 บาทต่อราย ลดภาระผ่อนหนี้ รถคันแรกลงรวม ๆ แล้ว 400 ล้านบาทต่อเดือน หรือคิดเป็นจำนวนลูกหนี้ 4,000 คน ที่จะสามารถกลับมามีศักยภาพผ่อนหนี้ก้อนใหม่ได้

ขณะเดียวกัน ธนาคารก็ยังต้องระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อ โดยปี 2560 นี้ ธนาคารกรุงศรีฯตั้งเป้าหมายคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้ไม่เกิน 2.5% ขณะที่ประเมินว่าภาพรวมเอ็นพีแอลสินเชื่อที่อยู่อาศัยปีนี้น่าจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยในช่วงครึ่งแรกของปีสถานการณ์ เอ็นพีแอลน่าจะดีขึ้นอย่างช้า ๆ และน่าจะดีขึ้นอย่างชัดเจนนับตั้งแต่กลางปีเป็นต้นไป

นายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่ให้กู้ซื้อบ้านง่ายที่สุดแล้วถ้าเทียบกับประเทศอื่น ๆ โดยตามเกณฑ์ ธปท. กำหนดให้ผู้กู้วางเงินดาวน์เพียง 5-10% ของมูลค่าประเมิน ขณะที่ในสหรัฐต้องวางเงินดาวน์ 20% ในเมืองจีนถ้าเป็นเมืองใหญ่ 30% ฮ่องกง 40% แต่ถ้าเป็น หัวเมืองรอง เช่น เสิ่นเจิ้น ต้องวาง เงินดาวน์ 50% เป็นต้น 

"การที่ผู้พัฒนาอสังหาฯ (ดีเวลอปเปอร์) แจ้งผู้ซื้อที่ไม่มีความสามารถผ่อนชำระหนี้ ว่าจะเดินเรื่องขอกู้กับแบงก์ให้ ทั้งที่รู้ว่า ผู้กู้มีรายได้ไม่พอ แล้วมาอ้างว่าแบงก์ปฏิเสธให้สินเชื่อลูกค้า อย่างนี้ก็ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการสร้างเอ็นพีแอลให้กับระบบการเงิน" นายกิตติกล่าว

ที่มา : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ

 

 

 

ข่าวนโยบายการเงิน-การคลัง อื่นๆ