เจาะกลุ่มนักลงทุนจีน
Loading

เจาะกลุ่มนักลงทุนจีน

วันที่ : 14 ธันวาคม 2561
สำหรับฮาบิแททได้ปรับกลยุทธ์โดยไม่พึ่งพิงตลาดลูกค้าแค่ชาวจีนและฮ่องกงเท่านั้น แต่จะมีการขยายตลาดใหม่เพิ่มเติม ทั้งสิงคโปร์ ไต้หวัน มาเลเซีย ญี่ปุ่น และตะวันออกกลาง โดยจะรุกทำกิจกรรมการตลาดในทุกช่องทาง รวมทั้งการจัด อีเวนต์ในต่างประเทศด้วยตัวเองและ ร่วมมือกับพันธมิตรในการเจาะตลาดตรง เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าต่างชาติได้เพิ่มมากขึ้น
ฮาบิแททเปิดเกมรุก ต่างประเทศ รุกเดินสาย 3 เมืองใหญ่ เจาะนักลงทุนชาวจีน แย้มแผนผนึกพันธมิตรใหญ่ ลุยเอเชียและตะวันออกกลาง
          นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป เปิดเผยว่า ชาวต่างชาติยังคงให้ความสนใจลงทุนอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะคอนโด มิเนียมระดับพรีเมียมในประเทศไทย ซึ่งยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดี แม้ในช่วงไตรมาส 4 ที่มีเรื่องสงครามการค้าสหรัฐ-จีนหรือเทรดเวอร์ ทำให้เกิดการชะลอตัดสินใจซื้อ ลูกค้าจีนหายไป 50% คาดเป็นการชะลอตัวในระยะสั้นรอความชัดเจนจากรัฐบาล

          สำหรับฮาบิแททได้ปรับกลยุทธ์โดยไม่พึ่งพิงตลาดลูกค้าแค่ชาวจีนและฮ่องกงเท่านั้น แต่จะมีการขยายตลาดใหม่เพิ่มเติม ทั้งสิงคโปร์ ไต้หวัน มาเลเซีย ญี่ปุ่น และตะวันออกกลาง โดยจะรุกทำกิจกรรมการตลาดในทุกช่องทาง รวมทั้งการจัด อีเวนต์ในต่างประเทศด้วยตัวเองและ ร่วมมือกับพันธมิตรในการเจาะตลาดตรง เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าต่างชาติได้เพิ่มมากขึ้น

          ทั้งนี้ ในช่วงเดือน ธ.ค. 2561-ม.ค. 2562 บริษัทจับมือกับพันธมิตรจีน จัดกิจกรรมการตลาดใน 3 เมืองที่มี เศรษฐกิจขนาดใหญ่ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกว่างโจว เพื่อเจาะตลาดลูกค้าชาวจีนที่มีศักยภาพโดยเฉพาะ

          ด้านโครงการที่นำไปเสนอขายครั้งนี้ จะเป็นโครงการที่บริษัทกำลังเปิดขายอยู่ขณะนี้คือ โครงการวาลเด้น สุขุมวิท 39 ซึ่งมีโควตาสำหรับลูกค้าชาวต่างชาติเหลืออยู่ราว 50 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าประมาณ 400 ล้านบาท คาดปิดการขายได้หมดในช่วงไตรมาส 1-2 ของปีหน้า และในต้นปี 2562 จะนำโครงการ วาลเด้น สุขุมวิท 31 เป็นโควตาลูกค้าชาวต่างชาติราว 400 ล้านบาทไปขายเพิ่ม

          "แม้ลูกค้าชาวจีนและฮ่องกงจะชะลอตัว เพราะยังมีความกังวลต่อสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน แต่กำลังซื้อและความสนใจต้องการซื้อคอนโดราคาตั้งแต่ 5-10 ล้านบาทยังมีอยู่ ซึ่งมั่นใจและเชื่อมั่นว่าสินค้าที่ออกไปนำเสนอจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และคาดว่ากำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าชาวจีนน่าจะเติบโตขึ้นอีกช่วงหลังเทศกาลตรุษจีนในปีหน้า" นายชนินทร์ กล่าว

          อย่างไรก็ดี นอกจากตลาดในจีนและฮ่องกงแล้ว บริษัทยังให้ความสำคัญกับตลาดอื่นด้วยเช่นกัน โดยมองหากลุ่มตลาดใหม่ๆ เช่น ตะวันออกกลาง และตลาดในเอเชีย อาทิ ญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์ และมาเลเซีย ทั้งนี้พร้อมขยายฐานลูกค้าด้วยการจับมือกับพันธมิตรรายใหญ่ใช้กลยุทธ์และขยายช่องทางไปสู่ตลาดใหม่ๆ มากขึ้น โดยถือเป็นกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจตลอดปี 2562 รวมถึงการมีโปรดักต์ใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติมขึ้นด้วย

          ขณะเดียวกันบริษัทมีเป้าหมายเพิ่มยอดขายลูกค้าต่างชาติ ให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สัดส่วนยอดขายต่างชาติอยู่ที่ 10% แต่ในปีนี้เติบโตขึ้นไปอยู่ที่ 47% โดยโครงการทั้งในพัทยาและกรุงเทพฯ ขายเต็มโควตา ทั้งนี้คาดยอดขายรวมบริษัทปีนี้อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท เป็นยอดขายต่างชาติ 47%

          นายชนินทร์ กล่าวว่า ส่วนแผนปี 2562 บริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่ 6 โครงการ มูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการในกรุงเทพฯ 4 โครงการ และโครงการในพัทยาอีก 2 โครงการ โดย ปีหน้าตั้งเป้ายอดขาย 3,000 ล้านบาท หรือเติบโตมากกว่า 50% นอกจากนี้มีแผนร่วมมือกับดีเวลอปเปอร์ญี่ปุ่น รวมทั้งกองทุนอาเซียน ในการพัฒนาโครงการร่วมกันรูปแบบจอยเวนเจอร์ ซึ่งจะเห็น ในโครงการในปีหน้า
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ