ธอส.เพิ่มเงินกู้ บ้านล้านหลัง ต่ำกว่า2.5หมื่นเป็น4หมื่นล้าน
Loading

ธอส.เพิ่มเงินกู้ บ้านล้านหลัง ต่ำกว่า2.5หมื่นเป็น4หมื่นล้าน

วันที่ : 4 มกราคม 2562
คนฝันอยากมีบ้านเป็นของตัวเองแห่ไปยื่นเอกสารขอสินเชื่อโครงการ “บ้านล้านหลัง” ของ ธอส.กันล้นหลามตั้งแต่เช้าตรู่ ขณะที่ ธอส.เสนอบอร์ดปรับเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อ “โครงการบ้านล้านหลัง” เนื่องจากยอดจองสิทธิของกลุ่มคนที่มีรายได้ต่ำกว่า 25,000 บาทต่อเดือน มีอย่างท่วมท้นถึง 113,000 ล้านบาท จากยอดจอง 127,000 ล้านบาท โดยจะเพิ่มวงเงินจากเดิม 30,000 ล้านบาท ขึ้นเป็น 40,000 ล้านบาท พร้อมชง ครม.อนุมัติ ตามภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น 340 ล้านบาทต่อปี ประธานบอร์ด ธอส.ยัน รมว.คลังไฟเขียวแน่นอน เพราะอยากให้คนไทยทุกคนมีบ้าน
         คนฝันอยากมีบ้านเป็นของตัวเองแห่ไปยื่นเอกสารขอสินเชื่อโครงการ “บ้านล้านหลัง” ของ ธอส.กันล้นหลามตั้งแต่เช้าตรู่ ขณะที่ ธอส.เสนอบอร์ดปรับเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อ “โครงการบ้านล้านหลัง” เนื่องจากยอดจองสิทธิของกลุ่มคนที่มีรายได้ต่ำกว่า 25,000 บาทต่อเดือน มีอย่างท่วมท้นถึง 113,000 ล้านบาท จากยอดจอง 127,000 ล้านบาท โดยจะเพิ่มวงเงินจากเดิม 30,000 ล้านบาท ขึ้นเป็น 40,000 ล้านบาท พร้อมชง ครม.อนุมัติ ตามภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น 340 ล้านบาทต่อปี ประธานบอร์ด ธอส.ยัน รมว.คลังไฟเขียวแน่นอน เพราะอยากให้คนไทยทุกคนมีบ้าน

          ความฝันของคนที่ต้องการมีบ้านเป็นของตัวเองในราคาที่ไม่เกินเอื้อม ใกล้ความจริงแล้วหลังจากธนาคารอาคารสงเคราะห์เปิดให้จองสิทธิ์บ้านล้านหลัง ทั้งนี้ นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคาร อาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 ม.ค. ซึ่งเป็นวันแรกที่ธนาคารเปิดให้ประชาชนที่ได้รับสิทธิ์ในโครงการบ้านล้านหลังจำนวน 127,000 คน หรือเป็นจำนวนเงิน 127,000 ล้านบาท มายื่นเอกสารขอสินเชื่อจากธนาคาร หลังจากเปิดให้จองสิทธิ์ไปเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2561 ทำให้บรรยากาศของธนาคาร ที่สำนักงานใหญ่ ถนนพระราม 9 มีความคึกคักตั้งแต่เช้า มีประชาชนรายแรกเดินทางมาใช้สิทธิ์เมื่อเวลา 06.00 น. ขณะที่ในต่างจังหวัดมีความคึกคักเช่นกัน บางสาขามีประชาชนมายื่นรอตั้งแต่เช้า 30-40 คน

          นายฉัตรชัยกล่าวว่า จำนวนประชาชนที่มาจองใช้สิทธิ์ 127,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็นประชาชนที่มีรายได้ต่ำกว่า 25,000 บาทต่อเดือน ประมาณ 113,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 14,000 ล้านบาท อยู่ในกลุ่มประชาชนที่มีรายได้มากกว่า 25,000 บาทต่อเดือน ทั้ง 2 กลุ่มนี้อัตราดอกเบี้ยเท่ากัน แต่ระยะเวลาในการกู้ไม่เท่ากัน ประชาชนที่มีรายได้ต่ำกว่า 25,000 บาทต่อเดือน คิดอัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี นาน 5 ปี มีวงเงินกู้ 30,000 ล้านบาท ส่วนกลุ่มที่มีรายได้มากกว่า 25,000 บาทต่อเดือน อัตราดอกเบี้ย 3% นาน 3 ปี มีวงเงินกู้ 20,000 ล้านบาท รวมเป็นวงเงินกู้ 50,000 ล้านบาท เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่อนุมัติให้ธนาคารดำเนินโครงการ

          นายฉัตรชัยกล่าวอีกว่า แต่เนื่องจากกลุ่มประชาชนที่มีรายได้ต่ำกว่า 25,000 บาทต่อเดือน มีจำนวนมากกว่าหลายเท่าตัว ทำให้ฝ่ายบริหารของธนาคารต้องนำเรื่องดังกล่าวเสนอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) ธอส. พิจารณาขอปรับสัดส่วนวงเงินกู้ ในวันที่ 22 ม.ค. โดยจะเพิ่มวงเงินกู้กลุ่มของประชาชนที่มีรายได้ต่ำกว่า 25,000 บาทต่อเดือน จากเดิมได้รับวงเงินกู้ 30,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 40,000 ล้านบาท ลดวงเงินกลุ่มที่มีรายได้มากกว่า 25,000 บาทต่อเดือน จากเดิม 20,000 ล้านบาท เหลือ 10,000 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน หากบอร์ด ธอส. อนุมัติจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอให้กระทรงการคลัง และ ครม.เห็นชอบต่อไป เนื่องจากวงเงินกู้ที่เพิ่มขึ้นอีก 10,000 ล้านบาท ทำให้ธนาคารมีต้นทุนเพิ่มขึ้น 340 ล้านบาทต่อปี

          กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการอนุมัติสินเชื่อนั้น จะดำเนินการเสร็จภายใน 2 เดือน ภายในวงเงิน 50,000 ล้านบาท โดยจะทยอยเรียกตามรายชื่อในรอบแรกก่อน 59,000 ล้านบาท จนครบวงเงิน 127,000 ล้านบาท หากวงเงินที่เตรียมไว้ไม่เพียงพอก็พร้อมที่จะเสนอให้กระทรวงการคลังเพิ่มวงเงินอีก เป็นก้อนที่ 2 ในระยะต่อไป ขณะนี้กระทรวงการคลังสั่งการให้ ธอส.เตรียมความพร้อมในเรื่องการจัดทำโครงการบ้านล้านหลังระยะที่ 2 และระยะที่ 3 แล้ว ผู้ที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อจะต้องมาลงนามทำนิติกรรมวันที่ 29 ม.ค. เป็นวันแรก ขณะที่ยอดสรุปผู้ยื่นกู้ทั่วประเทศในโครงการนี้วันแรกมี 1,200 ราย วงเงินกู้ 1,100 ล้านบาท

          นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการ ธอส. กล่าวว่า ได้หารือกับนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ในเบื้องต้นแล้ว กระทรวงเห็นด้วยกับ ธอส.ที่จะปรับสัดส่วนวงเงินกู้สำหรับประชาชนที่มีรายได้ต่ำกว่า 25,000 บาทต่อเดือน จากเดิม 30,000 ล้านบาท เป็น 40,000 ล้านบาท เพิ่มวงเงินกู้จากเพดาน 50,000 ล้านบาท ส่วนจะเพิ่มอีกเท่าใดขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกระทรวง เนื่องจากเป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะช่วยให้ประชาชนมีบ้านเป็นของตนเอง

          น.ส.สุธาทิพย์ ธรรมศิริ อาชีพพนักงานบริษัท ซึ่งเดินทางมารอยื่นกู้ที่ ธอส.สำนักงานใหญ่ เป็นรายแรกตั้งแต่เวลา 06.00 น. กล่าวว่า เดินทางมาแต่เช้าเพราะไม่มีรถยนต์ส่วนตัวและเกรงว่าจะมีคนเดินทางมายื่นกู้จำนวนมาก จึงรีบเดินทางมา โดยได้เตรียมเอกสารสำคัญมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ อาทิ เอกสารแสดงรายได้ สัญญาจะซื้อจะขายบ้านที่ตั้งใจจะซื้อเป็นห้องชุด ตนเคยมีประวัติผ่อนชำระที่มีปัญหามาตั้งแต่เมื่อ 13 ปีที่แล้ว เกิดจากบุคคลอื่นนำชื่อไปใช้ แต่เมื่อทราบข่าวว่าโครงการบ้านล้านหลังจะให้โอกาส จึงรู้สึกมีความหวังจากแต่ก่อนที่ไม่กล้าเดินเข้าธนาคาร อยากมาทดลองยื่นกู้ให้ธนาคารพิจารณาดูก่อน แม้จะมีความมั่นใจว่าจะผ่านการพิจารณาเพียงแค่ 50% โดยมั่นใจว่า หากได้รับสิทธิ์โครงการบ้านล้านหลัง จะสามารถผ่อนส่งบ้านได้อย่างแน่นอน เพราะตอนนี้บ้านที่เช่าอยู่ก็ต้องจ่ายค่าเช่าเดือนละประมาณ 3,000-4,000 บาทอยู่แล้ว
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาครัฐ อื่นๆ