ปีหมูอสังหาฯปัจจัยลบรุม
Loading

ปีหมูอสังหาฯปัจจัยลบรุม

วันที่ : 8 มกราคม 2562
นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 62 คาดว่าจะเติบโตที่ 5% หรืออาจทรงตัว เพราะตลาดอสังหาริมทรัพย์มีปัจจัยลบที่กระทบต่อเนื่องจากปี 61 ทั้งแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นจากสัญญาณที่สถาบันการเงินเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเชื่อว่าจะทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ตรงนี้จะกระทบต่อการผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน เช่น ดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้น 0.25% จะมีภาระจ่ายเพิ่ม 2% คาดว่าทั้งปีนี้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จะปรับขึ้น 0.50% ทำให้กระทบต่อภาระการจ่ายชำระหนี้ที่อยู่อาศัย 4%
          จี้โละสต๊อกรายเล็กระวัง

          นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 62 คาดว่าจะเติบโตที่ 5% หรืออาจทรงตัว เพราะตลาดอสังหาริมทรัพย์มีปัจจัยลบที่กระทบต่อเนื่องจากปี 61 ทั้งแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นจากสัญญาณที่สถาบันการเงินเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเชื่อว่าจะทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ตรงนี้จะกระทบต่อการผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน เช่น ดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้น 0.25% จะมีภาระจ่ายเพิ่ม 2% คาดว่าทั้งปีนี้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จะปรับขึ้น 0.50% ทำให้กระทบต่อภาระการจ่ายชำระหนี้ที่อยู่อาศัย 4%

          ขณะเดียวกันตลาดอสังหาริมทรัพย์จะได้รับผลกระทบกับเกณฑ์การให้สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ (แอลทีวี) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ใหม่ที่มีผลบังคับใช้ 1 เม.ย. 62 ถือเป็นปัจจัยกดดันเพราะจะให้ผู้ที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 ขึ้นไปและที่อยู่อาศัยที่มีราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป มีภาระเรื่องเงินดาวน์ที่เพิ่มขึ้นระยะเวลาผ่อนชำระเท่าเดิมแต่จำนวนเงินผ่อนมากขึ้นและในส่วนผู้ประกอบการที่มีสต๊อกที่รอการขายจำนวนมาก ทำให้เกิดการขายได้ยากขึ้น และการระบายสต๊อกจะเกิดชะลอตัวลงและราคาที่ดินยังทรงตัวในระดับสูง

          "ต้องจับตาผู้ประกอบการรายเล็กจะแก้ปัญหาอย่างไรหากมีสต๊อกสินค้าเหลือจำนวนมากในปีนี้มีลูกค้าบางกลุ่มที่มีกำลังซื้อ ขณะเดียวกันได้เห็นสัญญาณการแข่งขันของผู้ประกอบการมีความรุนแรงมากขึ้นทั้งการจัดโปรโมชั่น แคมเปญต่าง ๆ ส่วนเรื่องการปรับลดราคาลงจะไม่เห็นมากนักเพราะต้นทุนราคาที่ดินและธุรกิจยังมีสูงอยู่ ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลง ประเทศไทยเองก็ไม่สามารถต้านกระแสโลกได้ ดังนั้นภาคธุรกิจก็ต้องระมัดระวัง รอบคอบมากขึ้น"

          นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหารบริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าจากตัวเลขอัตราการเติบโตเศรษฐกิจของไทยที่ไอเอ็มเอฟประเมินไว้ปีนี้โตลดลงจากปี 61 อยู่ที่ 4.6% จะเหลือเพียง 3.9% สอดคล้องกับเศรษฐกิจโลกส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้นคาดว่าจะโตได้ 4-4.3% จากปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผล กระทบ มองว่าผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัวโดยเฉพาะรายเล็กต้องเร่งระบายสต๊อก และมุ่งทำธุรกิจในพื้นที่ ๆ ที่ตนเองชำนาญ

          "ทั้งเรื่องของดอกเบี้ยที่เริ่มขยับขึ้น ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงบ้าง การปล่อยสินเชื่อทั้งการปล่อยกู้ โครงการ และรายย่อย จะมีความเข้มงวดมากขึ้น ปัจจัยเหล่านี้จะทำให้ธุรกิจอสังหาฯเป็นไปตามภาวะตลาดด้วย"

          ในส่วนของลลิลปีนี้ลงทุน 1,000 ล้านบาท ซื้อที่ดินและเปิดตัว 8-10 โครงการ เน้นบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม มูลค่าระหว่าง 2-6 ล้านบาท ส่วนบ้านราคาแพงระดับพรีเมียม และคอนโดมิเนียมนั้นชะลอ ไว้ก่อน โดยปีนี้คาดมียอดขาย 5,300 ล้านบาท เป็นการรับรู้รายได้ 4,650 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโต 15%
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ