ปริญสิริ” เดินหน้าระบายสต๊อกสินค้ามูลค่า 1,000-2,000 ล้านบาท ก่อนเกณฑ์ LTV ใหม่เริ่มใช้ เม.ย.นี้ พร้อมชงแผนงานปี 62 เข้าบอร์ดต้น ก.พ.นี้ เล็งออกและเสนอขายหุ้นกู้ 500 ล้านบาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6% ต่อปี ระหว่างวันที่ 22-24 ม.ค.นี้ เพื่อนำเงินไปใช้ชำระหนี้

          นายชัยรัตน์ โกวิทจินดาชัย ผู้อำนวยการอาวุโสสำนักกรรมการผู้จัดการ บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIN เปิดเผยว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากเกณฑ์การให้สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ (LTV) ใหม่ ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไม่มาก เนื่องจากลูกค้าของบริษัทเป็นกลุ่มที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงเป็นหลัก และเป็นลูกค้าสัญญาที่ 1 (ลูกค้าที่ซื้อบ้านหลังแรก)

          ขณะที่ทำเลที่ตั้งของโครงการที่บริษัทพัฒนา ส่วนใหญ่เป็นทำเลนอกเมือง ไม่เหมาะต่อการซื้อเพื่อเก็งกำไร แต่มีความต้องการซื้อจากลูกค้าที่อยู่อาศัยจริงเป็นหลัก โดยปัจจุบันบริษัทมีโครงการให้ลูกค้าเลือกซื้อในหลายรูปแบบ ตั้งแต่โครงการที่ยังสร้างไม่เสร็จ (ก่อสร้างไว้ประมาณ 80-90%) จนถึงโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมส่งมอบ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า

          สำหรับแผนการดำเนินงานและเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2562 อยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งจะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2562 โดยเบื้ยงต้นในช่วงไตรมาส 1/2562 บริษัทจะเน้นระบายสินค้าพร้อมโอนในมือ (สต๊อก) เป็นหลัก

          ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีสต๊อกสินค้าในมือมูลค่ารวมประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาท จาก 17 โครงการที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาและการขาย ซึ่งระดับราคาขายโครงการประเภททาวน์เฮาส์อยู่ที่ 2-4 ล้านบาทต่อยูนิต โครงการประเภทบ้านเดี่ยวระดับราคาขายอยู่ที่ 4-40 ล้านบาทต่อยูนิต และโครงการประเภทคอนโดมิเนียมระดับราคาขายอยู่ที่ 1.8-2.5 ล้านบาทต่อยูนิต

          นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ ในทำเลราชพฤกษ์, ทำเลหลังมหาวิทยาลัยสยาม และในทำเลแนวรถไฟฟ้าแบริ่ง ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาช่วงเวลาการเปิดขาย โดยเบื้องต้นบริษัทจะเปิดขายหลังจากที่โครงการมีการพัฒนาไปบางส่วนแล้ว และบริษัทจะเก็บเงินดาวน์ประมาณ 10-20% รองรับเกณฑ์ LTV ใหม่ ที่จะประกาศใช้ในเดือนเมษายนนี้

          ส่วนงบลงทุนในปี 2562 บริษัทตั้งไว้ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการซื้อที่ดินใหม่ หากมีที่ดินในทำเลที่มีศักยภาพ อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัทมีที่ดินในมือแล้ว รองรับการพัฒนาโครงการใหม่ได้ในช่วงระยะเวลา 4-5 ปีจากนี้ โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากการกู้ยืมสถาบันการเงินเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ระดับ 0.8 เท่า

          ด้านการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย และปัจจุบันอยู่ในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น คาดว่าจะกระทบกำลังซื้อของผู้บริโภค แต่ลูกค้าต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ อย่างไรก็ตามปัจจุบันสถาบันการเงินยังคงยึดอัตราดอกเบี้ยเดิม ยังไม่มีการปรับขึ้น แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

          นายชัยรัตน์ กล่าวอีกว่า ในปี 2561 บริษัทมีการเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 1 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 300 ล้านบาท คือ โครงการ ซิตี้เซนส์ รังสิต (Citysense Rangsit) เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน 96 ยูนิต บนที่ดินรวม 10 ไร่ 18.6 ตารางวา ตั้งอยู่ซอยคลองหลวง 10 ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานี

          นอกจากนี้ PRIN เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2562 มูลค่าไม่เกิน 500 ล้านบาท อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2565 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนรายใหญ่ ในระหว่างวันที่ 22-24 ม.ค. 2562 โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ เพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้ชำระคืนหนี้เดิม ซึ่งอาจรวมถึงตั๋วแลกเงินและหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอน และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการของผู้ออกหุ้นกู้