SCC ซื้อเก็งกำไร เป้าหมาย 490 บ.
Loading

SCC ซื้อเก็งกำไร เป้าหมาย 490 บ.

วันที่ : 15 มกราคม 2562
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด แนะ"ซื้อเก็งกำไร"หุ้น SCC โดยตั้งราคาไว้ที่ 490 บาท ขณะที่ 3 เหตุผลที่คงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับลงทุนระยะยาว 1. คาดกำไรสุทธิ 4Q/61 ที่ 8.7 พันล้านบาท ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดก่อนหน้า จากขาดทุนสินค้าคงคลังสูงถึง 2.0 พันล้านบาท หากหักรายการพิเศษ กำไรปกติอยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท ทำให้ประมาณการกำไรปกติ-กำไรสุทธิปี 2561 เรามี Downside 3-10% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม 2. ระยะยาวหุ้นยังมีความน่าสนใจจากการเข้าสู่วัฏจักรการเติบโตครั้งใหม่ของธุรกิจวัสดุก่อสร้าง และการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง และ 3. ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน PER62 เพียง 10.6x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 13.0x และผลตอบแทนเงินปันผล 4.4% ขาดทุนสินค้าคงคลังจำนวนมาก...กดดัน 4Q/61 ไม่สดใส
          บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด แนะ"ซื้อเก็งกำไร"หุ้น SCC โดยตั้งราคาไว้ที่ 490 บาท ขณะที่ 3 เหตุผลที่คงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับลงทุนระยะยาว 1. คาดกำไรสุทธิ 4Q/61 ที่ 8.7 พันล้านบาท ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดก่อนหน้า จากขาดทุนสินค้าคงคลังสูงถึง 2.0 พันล้านบาท หากหักรายการพิเศษ กำไรปกติอยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท ทำให้ประมาณการกำไรปกติ-กำไรสุทธิปี 2561 เรามี Downside 3-10% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม 2. ระยะยาวหุ้นยังมีความน่าสนใจจากการเข้าสู่วัฏจักรการเติบโตครั้งใหม่ของธุรกิจวัสดุก่อสร้าง และการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง และ 3. ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน PER62 เพียง 10.6x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 13.0x และผลตอบแทนเงินปันผล 4.4% ขาดทุนสินค้าคงคลังจำนวนมาก...กดดัน 4Q/61 ไม่สดใส

          เราคาดกำไรสุทธิ 4Q/61 ที่ 8.7 พันล้านบาท (-8% QoQ, -30% YoY) น้อยกว่าที่เรา และตลาดคาดก่อนหน้า จากขาดทุนสินค้าคงคลังสูงถึง 2.0 พันล้านบาท หลังราคาวัตถุดิบปรับตัวลงแรงตามต้นทุนน้ำมันช่วง 4Q/61 แม้ว่าจะมีกำไรพิเศษจากการขายโรงงาน PTA-PET 150 ล้านบาทช่วยชดเชยบางส่วนก็ตาม หากหักรายการพิเศษ คาดกำไรปกติที่ 1.1 หมื่นล้านบาท (+2% QoQ, -11% YoY) ส่งผลให้ประมาณการกำไรปกติ และกำไรสุทธิปี 2561 ของเราที่ 4.7 หมื่นล้านบาท และ 4.8 หมื่นล้านบาท มี Downside ราว 3% และ 10% ตามลำดับ สำหรับผลประกอบการแยกตามธุรกิจ 1. ธุรกิจวัสดุก่อสร้างขยายตัวต่อเนื่องสอดคล้องกับความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศ โดยสภาอุตสาหกรรมรายงานตัวเลขปริมาณใช้ปูนซีเมนต์เดือนต.ค. และพ.ย.ขยายตัว 11% YoY และ 3% YoY ตามลำดับ 2. ธุรกิจปิโตรเคมีชะลอลงตามส่วนต่างปิโตรเคมีที่หดตัว โดย HDPE-Naphtha ลดลงเป็น 639 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (-6% QoQ, -2% YoY) ขณะที่ปริมาณขาย PE และ PP เพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังผ่านช่วงหยุดซ่อมบำรุงโรงงาน และ 3. ธุรกิจแพ็กเกจจิ้ง ขยายตัวต่อเนื่องตามความต้องการที่เติบโต ธุรกิจวัสดุก่อสร้างโตต่อเนื่อง...หนุนกำไรปี 2562 ขยายตัวเล็กน้อย

          ปี 2562 เราคงมุมมองลบต่อธุรกิจปิโตรเคมี คาดส่วนต่างปิโตรเคมีลดลง YoY จาก 1. ฐานสูงใน 1H/61 ที่จีนใช้นโยบายห้ามนำเข้าพลาสติกรีไซเคิล 2. อุปทานในตลาดสูงขึ้น 3. ความเสี่ยงจากสงครามการค้า อย่างไรก็ตาม เรายังมองบวกต่อธุรกิจวัสดุก่อสร้าง และธุรกิจแพ็กเกจจิ้ง คาดความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศจะขยายตัว 3-5% หนุนความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างอื่นให้ขยายตัวตามมา คงประมาณการกำไรปกติปี 2562 ที่ 4.9 หมื่นล้านบาท Valuation ไม่แพง...แต่ระยะสั้นถูกกดดันจากงบ 4Q/61

          เรามองแนวโน้มกำไร 4Q/61 ที่อ่อนแอจะกดดันราคาหุ้นในระยะสั้น ขณะที่พื้นฐานระยะยาวยังแข็งแกร่งจากการเข้าสู่รอบการเติบโตครั้งใหม่ของธุรกิจวัสดุก่อสร้าง และการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เชิง Valuation ราคา ณ ปัจจุบันซื้อขายบน PER62 เพียง 10.6x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 13.0x และผลตอบแทนจากเงินปันผล 4.4% คงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับลงทุนระยะยาว ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2562 ที่ 490.00 บาท คาดการณ์เงินปันผลงวด 2H/61 ที่ 9.00-10.50 บาทต่อหุ้น (Payout 59-69%) คิดเป็น Yield 2.1-2.4%