อสังหาฯเข้าสู่ยุคถดถอย LPNปรับแผนเพิ่มพอร์ตแนวราบ
วันที่ : 21 มกราคม 2562
LPN ชี้อสังหาฯปี 62 เข้าสู่ยุคถดถอยคาดลากยาวถึงสิ้นปี เผยปรับแผนธุรกิจรองรับการเปลี่ยนแปลง ลดพึ่งพาตลาดคอนโดฯอย่างเดียว เร่งเพิ่มพอร์ตบ้านแนวราบเปิด 10 โครงการรวด พร้อมผุดสำนักงานเพื่อขาย รุกธุรกิจบริการ มั่นใจปีนี้โตแน่ 15% 13,500 ล้านบาท
LPN ชี้อสังหาฯปี 62 เข้าสู่ยุคถดถอยคาดลากยาวถึงสิ้นปี เผยปรับแผนธุรกิจรองรับการเปลี่ยนแปลง ลดพึ่งพาตลาดคอนโดฯอย่างเดียว เร่งเพิ่มพอร์ตบ้านแนวราบเปิด 10 โครงการรวด พร้อมผุดสำนักงานเพื่อขาย รุกธุรกิจบริการ มั่นใจปีนี้โตแน่ 15% 13,500 ล้านบาท
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2562 บิ๊ก อสังหาริมทรัพย์หลายรายต่างออกมายอมรับว่า จะเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับธุรกิจนี้ ภาพการชะลอตัวของธุรกิจอสังหาฯมีมาตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมระดับล่างที่เริ่มตั้งแต่หนี้ภาคครัวเรือนพุ่งสูง ธนาคารกังวล ภาวะหนี้เสียที่อาจเพิ่มขึ้นจึงเข้มงวดปล่อยสินเชื่อ ส่งผลให้กลุ่มลูกค้าบ้านระดับกลาง-ล่าง ถูกปฏิเสธ สินเชื่อหรือรีเจก เมื่อยอดรีเจกพุ่งสูง ประกอบกับปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่อเนื่อง กำลังซื้อ ผู้บริโภคไม่ได้มีเพิ่มขึ้น ในขณะที่ราคาที่ดินกลับ พุ่งสูงทั้งจากเปิดเส้นทางใหม่ๆ ของเส้นทางรถไฟฟ้า การเติบโตของเมืองทำให้ราคาที่อยู่อาศัย พุ่งสูงแซงหน้ารายได้ของผู้บริโภคที่วิ่งตามไม่ทัน สินค้าเหลือขายในตลาดมีเพิ่มมากขึ้น จนผู้ประกอบการต้องนำไปขายให้แก่ชาวต่างชาติ
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN เปิดเผยว่า บรรยากาศการลงทุนในธุรกิจอสังหาฯไม่สดใสเหมือนในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ตลาดมีแนวโน้มชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังปรากฏภาวะถดถอยชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยเชื่อว่าการถดถอยดังกล่าวจะยาวนานต่อเนื่องไปจนถึงปลายปี 62 ภาวะเช่นนี้ทำให้การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ประกอบการจะต้องมีความระมัดระวังในการลงทุนอย่างมาก โดยเฉพาะการลงทุนในตลาดคอนโดมิเนียม เพราะจะต้องก่อสร้างโครงการจนแล้วเสร็จจึงจะสามารถโอนและรับรู้รายได้ ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องมีเงินทุนและสภาพคล่องไว้รองรับจนกว่าโครงการจะสร้างเสร็จและโอน
LPN ผ่านช่วงวิกฤตเศรษฐกิจมาหลายรอบ นับตั้งแต่ปี 40 ทำให้มีประสบการณ์ในการแก้ไขสถานการณ์ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อบริษัทในอนาคต จึงได้ปรับแผนรับมือมาตั้งแต่ 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน ได้แก่ 1. การขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังระดับบน ทั้งคอนโดฯและบ้านพักอาศัย นอก จากนี้ยังได้พัฒนาคอนโดฯระดับบน และขยายเซกเมนต์, 2. การขยายธุรกิจไปยัง "Office Condo" 3. การสร้างรายได้ประจำ จากการบริหารโครงการและรายได้จากการปล่อยเช่า รวมถึงการนำห้องชุดในโครงการ "ลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1" อาคาร F มาปรับเปลี่ยนจากการขายมาเป็นการเช่า
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 62 ตั้งเป้าเปิดตัวใหม่ รวม 16 โครงการ รวมมูลค่า 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็น แนวราบ 10 โครงการ มูลค่า 8,000 ล้านบาท โดยพัฒนาภายใต้แบรนด์ "พรสันติ" 8 โครงการ ราคา 2-10 ล้านบาท ส่วนอีก 2 โครงการเป็นแบรนด์ "BAAN 365" ราคา 15-20 ล้านบาท และคอนโดฯ 6 โครงการ แบ่งเป็นแบรนด์ "ลุมพินี เพลส" 3 โครงการ ระดับราคา 2-3 ล้านบาท,ลุมพินี วิลล์ 1โครงการ ระดับราคา 1.2-1.5 ล้านบาท, แบรนด์ "ซีเล็คเต็ด" 1 โครงการ ระดับราคา 4 ล้านบาทขึ้นไป และอาคารสำนักงานเพื่อขาย แบรนด์ "ลุมพินี ทาวน์เวอร์" ย่านวิภาวดี สูง 20 ชั้นขึ้นไป ระดับราคา 100,000 บาท/ตารางเมตรขึ้นไป
ส่วนเป้ายอดขายวางไว้ที่ 16,000 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการคอนโดมิเนียม 11,000 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 5,000 ล้านบาท ส่วนรายได้วางไว้ที่ 13,500 ล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% แบ่งเป็นรายได้จากคอนโดฯ 9,000 ล้านบาท โครงการแนวราบ 3,000 ล้านบาท และรายได้จากการบริการ 1,500 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog) ราว 9,000 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดฯ 6,000 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 3,000 ล้านบาท รับรู้รายได้ทั้งหมดในปีนี้
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2562 บิ๊ก อสังหาริมทรัพย์หลายรายต่างออกมายอมรับว่า จะเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับธุรกิจนี้ ภาพการชะลอตัวของธุรกิจอสังหาฯมีมาตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมระดับล่างที่เริ่มตั้งแต่หนี้ภาคครัวเรือนพุ่งสูง ธนาคารกังวล ภาวะหนี้เสียที่อาจเพิ่มขึ้นจึงเข้มงวดปล่อยสินเชื่อ ส่งผลให้กลุ่มลูกค้าบ้านระดับกลาง-ล่าง ถูกปฏิเสธ สินเชื่อหรือรีเจก เมื่อยอดรีเจกพุ่งสูง ประกอบกับปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่อเนื่อง กำลังซื้อ ผู้บริโภคไม่ได้มีเพิ่มขึ้น ในขณะที่ราคาที่ดินกลับ พุ่งสูงทั้งจากเปิดเส้นทางใหม่ๆ ของเส้นทางรถไฟฟ้า การเติบโตของเมืองทำให้ราคาที่อยู่อาศัย พุ่งสูงแซงหน้ารายได้ของผู้บริโภคที่วิ่งตามไม่ทัน สินค้าเหลือขายในตลาดมีเพิ่มมากขึ้น จนผู้ประกอบการต้องนำไปขายให้แก่ชาวต่างชาติ
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN เปิดเผยว่า บรรยากาศการลงทุนในธุรกิจอสังหาฯไม่สดใสเหมือนในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ตลาดมีแนวโน้มชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังปรากฏภาวะถดถอยชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยเชื่อว่าการถดถอยดังกล่าวจะยาวนานต่อเนื่องไปจนถึงปลายปี 62 ภาวะเช่นนี้ทำให้การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ประกอบการจะต้องมีความระมัดระวังในการลงทุนอย่างมาก โดยเฉพาะการลงทุนในตลาดคอนโดมิเนียม เพราะจะต้องก่อสร้างโครงการจนแล้วเสร็จจึงจะสามารถโอนและรับรู้รายได้ ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องมีเงินทุนและสภาพคล่องไว้รองรับจนกว่าโครงการจะสร้างเสร็จและโอน
LPN ผ่านช่วงวิกฤตเศรษฐกิจมาหลายรอบ นับตั้งแต่ปี 40 ทำให้มีประสบการณ์ในการแก้ไขสถานการณ์ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อบริษัทในอนาคต จึงได้ปรับแผนรับมือมาตั้งแต่ 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน ได้แก่ 1. การขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังระดับบน ทั้งคอนโดฯและบ้านพักอาศัย นอก จากนี้ยังได้พัฒนาคอนโดฯระดับบน และขยายเซกเมนต์, 2. การขยายธุรกิจไปยัง "Office Condo" 3. การสร้างรายได้ประจำ จากการบริหารโครงการและรายได้จากการปล่อยเช่า รวมถึงการนำห้องชุดในโครงการ "ลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1" อาคาร F มาปรับเปลี่ยนจากการขายมาเป็นการเช่า
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 62 ตั้งเป้าเปิดตัวใหม่ รวม 16 โครงการ รวมมูลค่า 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็น แนวราบ 10 โครงการ มูลค่า 8,000 ล้านบาท โดยพัฒนาภายใต้แบรนด์ "พรสันติ" 8 โครงการ ราคา 2-10 ล้านบาท ส่วนอีก 2 โครงการเป็นแบรนด์ "BAAN 365" ราคา 15-20 ล้านบาท และคอนโดฯ 6 โครงการ แบ่งเป็นแบรนด์ "ลุมพินี เพลส" 3 โครงการ ระดับราคา 2-3 ล้านบาท,ลุมพินี วิลล์ 1โครงการ ระดับราคา 1.2-1.5 ล้านบาท, แบรนด์ "ซีเล็คเต็ด" 1 โครงการ ระดับราคา 4 ล้านบาทขึ้นไป และอาคารสำนักงานเพื่อขาย แบรนด์ "ลุมพินี ทาวน์เวอร์" ย่านวิภาวดี สูง 20 ชั้นขึ้นไป ระดับราคา 100,000 บาท/ตารางเมตรขึ้นไป
ส่วนเป้ายอดขายวางไว้ที่ 16,000 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการคอนโดมิเนียม 11,000 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 5,000 ล้านบาท ส่วนรายได้วางไว้ที่ 13,500 ล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% แบ่งเป็นรายได้จากคอนโดฯ 9,000 ล้านบาท โครงการแนวราบ 3,000 ล้านบาท และรายได้จากการบริการ 1,500 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog) ราว 9,000 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดฯ 6,000 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 3,000 ล้านบาท รับรู้รายได้ทั้งหมดในปีนี้
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ