เทรนด์ออฟฟิศมาแรง 2ยักษ์วัสดุลุ้นตลาดโต
Loading

เทรนด์ออฟฟิศมาแรง 2ยักษ์วัสดุลุ้นตลาดโต

วันที่ : 20 มกราคม 2562
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เกี่ยวเนื่องต่อการตั้งอยู่และดับไปของหลายธุรกิจ เช่น กลุ่มวัสดุก่อสร้างตกแต่ง-เฟอร์นิเจอร์ แม้ปี 2561 ตลาดขยายตัวดี ทำให้หลายบริษัทได้รับอานิสงส์ แต่ทิศทางปี 2562 จากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ตลาดอาจไม่สดใส อย่างไรก็ตาม 2 บริษัทใหญ่ด้านวัสดุภายใน บิวเดอร์ สมาร์ท และทีซีเอ็ม หวังตลาดเดินต่อ ชงรัฐกระตุ้น
         ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เกี่ยวเนื่องต่อการตั้งอยู่และดับไปของหลายธุรกิจ เช่น กลุ่มวัสดุก่อสร้างตกแต่ง-เฟอร์นิเจอร์ แม้ปี 2561 ตลาดขยายตัวดี ทำให้หลายบริษัทได้รับอานิสงส์ แต่ทิศทางปี 2562 จากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ตลาดอาจไม่สดใส อย่างไรก็ตาม 2 บริษัทใหญ่ด้านวัสดุภายใน บิวเดอร์ สมาร์ท และทีซีเอ็ม หวังตลาดเดินต่อ ชงรัฐกระตุ้น

          ทั้งนี้ จากคาดการณ์สถานการณ์ตลาดวัสดุก่อสร้าง ของ บริษัทจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง-ตกแต่งภายในและผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แบรนด์ เดอะทีค นายสัญชัย เนื่องสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวเดอร์สมาร์ท จำกัด (มหาชน) ว่าปีนี้จะมีโครงการอสังหาฯใหม่ๆเกิดขึ้นมากพอสมควร จึงเป็นโอกาสของซัพพลายวัสดุก่อสร้างตกแต่งภายใน โดยเฉพาะโครงการออฟฟิศที่มาแรง 50% มาจากส่วนนี้ รองลงมาคือ คอนโดมิเนียม พบว่ายังมีแนวโน้มสร้างใหม่จำนวนมาก รวมถึงโรงแรมและโรงพยาบาล

          ทั้งนี้หากเทียบปีที่ผ่านมา บริษัทได้รับอานิสงส์การจากขยายตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างดี ขณะปีนี้คาดจะเติบโตได้มากกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งสัดส่วนประมาณ 700 ล้านบาท หรือ 70% ยังมาจากธุรกิจหลัก ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ก่อสร้างคุณภาพสูง ส่วนอีก 300 ล้านบาท หรือ 30% มาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หลังจากคาดหวังว่า ในปีนี้ ธุรกิจวัสดุก่อสร้างยังจะสามารถเติบโตได้อีก

          ขณะที่แนวโน้มการเลือกตั้ง อีกทั้งการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของรัฐและเอกชน และการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ต่างเป็นผลดีต่อทิศทางเศรษฐกิจและเป็นปัจจัยบวกของธุรกิจหลัก ที่นายพิมล ศรีวิกรม์ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรืออุตสาหกรรมพรมไทย สะท้อนว่า จะเป็นตัวแปรผลักดันให้กลุ่มธุรกิจพรม-วัสดุปูพื้น และกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งนอกจากผลิตและส่งออกไปยังต่างประเทศแล้ว ตลาดในประเทศไทยยังมีความน่าสนใจอย่างมาก ทั้งในกลุ่มโรงแรมและคอนโดฯหรู ที่บริษัทมีมาร์เก็ตแชร์อยู่ในตลาดมากถึง 75% ทำให้ในช่วงปีที่ผ่านมา (ไตรมาส 1-3) บริษัทมียอดขายในกลุ่มดังกล่าวทั้งไทยและต่างประเทศมากกว่า 5.5 พันล้านบาท

          อย่างไรก็ตาม คาดหวังให้ตลาดอสังหาฯภายในประเทศขยายตัวต่อเนื่อง หลังจากที่ผ่านมา แนวโน้มการเกิดขึ้นของบ้านหรู โรงแรมหรู และคอนโด มิเนียมหรู ทำให้ผลประกอบการของบริษัทเติบโตได้ดี แต่ต้องการให้รัฐ ออกมาตรการอื่นๆมาช่วยกระตุ้นภาพรวมตลาดเพิ่มเติมอีก เช่น นโยบายบ้านหลังแรกในอดีต เพื่อเสริมกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ที่ก่อให้เกิดทำเลใหม่ๆในช่วงที่ผ่านมา

          "การขยายตัวของตลาดอสังหาฯมีผลต่อธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ยิ่งโตหลายอย่างก็ขายได้มาก"

          นายพิมล ทิ้งท้ายว่า กรณีภาครัฐมีความเป็นห่วงว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์อาจเกิดภาวะฟองสบู่ได้จากซัพพลายใหม่ที่เข้าสู่ตลาดจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมานั้น ตนเองเห็นว่าหากมีการกระจายซัพพลายไปเติบโตในภูมิภาคให้มากขึ้น น่าจะลดความเสี่ยงดังกล่าวได้ หลังจากที่ผ่านมาผู้พัฒนามุ่งเจาะแค่ทำเลใจกลางเมือง แตกต่างจากแนวพัฒนาเมืองในต่างประเทศ ที่อสังหาฯเติบโตได้ในหลายเมือง
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ