"อภิชัย เตชะอุบล"คืนสังเวียนลุยเทกโรงแรม-ผุดบ้าน
Loading

"อภิชัย เตชะอุบล"คืนสังเวียนลุยเทกโรงแรม-ผุดบ้าน

วันที่ : 30 มกราคม 2562
"อภิชัย เตชะอุบล"คืนสังเวียนลุยลงทุนอสังหาฯ ไล่เทกโอเวอร์ตึกโครงการเก่ารีโนเวตขาย ล่าสุดทุ่มกว่า 4,000 ล้านซื้อ รร.อโยธยาย่านรัชดารีโนเวตใหม่เป็น รร. 5 ดาว พร้อมรุกตลาดทาวน์เฮาส์แบรนด์ "The Ozone" คาดปี 61 กำไร 1,000 ล้านบาท รายได้ 3,500 ล้านบาท
          "อภิชัย เตชะอุบล"คืนสังเวียนลุยลงทุนอสังหาฯ ไล่เทกโอเวอร์ตึกโครงการเก่ารีโนเวตขาย ล่าสุดทุ่มกว่า 4,000 ล้านซื้อ รร.อโยธยาย่านรัชดารีโนเวตใหม่เป็น รร. 5 ดาว พร้อมรุกตลาดทาวน์เฮาส์แบรนด์ "The Ozone" คาดปี 61 กำไร 1,000 ล้านบาท รายได้ 3,500 ล้านบาท

          ดร.อภิชัย เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจซีเค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JCK เปิดเผยว่า เตรียมเปิดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม TFD เฟส 2 จำนวน 850 ไร่ หลังได้ปรับสีผังเมืองจากสีเขียวเป็นสีม่วงเมื่อปลายปีที่ผ่านมาหลังรอมานานกว่า 3 ปี โดยริษัทตั้งเป้าปิดการขายภายใน 2 ปี หลังจากนั้นจะเปิดขายในเฟส 3 จำนวน 1,800 ไร่ ซึ่งปัจจุบันยังมีนักลงทุนจากต่างชาติเข้ามาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะชาวจีน ส่วนหนึ่งมาจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ทำให้ไทยเป็นที่สนใจ ขณะที่นักลงทุนจากญี่ปุ่นชะลอลง

          นอกจากนี้บริษัทยังได้ขายโรงงานสำเร็จรูปหรือแวร์เฮาส์ ที่ประเทศอังกฤษ จำนวน 2 แห่ง โดยแห่งแรกสามารถขายไปได้แล้ว มูลค่า 7 ล้านปอนด์ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างเจรจาขายอีก 1 แห่งมูลค่า 19 ล้านปอนด์ กำหนดโอนภายในไตรมาสแรกของปีนี้

          ทั้งนี้ ยังได้จัดตั้งบริษัท เจซี เควิน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เพื่อลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งเพื่อขายและให้เช่า อาทิ ที่อยู่อาศัย โรงแรม อาคารสำนักงาน เป็นต้น โดยล่าสุดร่วมทุนกับกองทุน Bain capital สัดส่วน 75:25 จัดตั้งบริษัท เจซีเค รัชดา โฮเทล จำกัด เพื่อซื้อกิจการโรงแรมอโยธยา ย่านรัชดา หรือเดิมโรงแรมนิโก้ ซึ่งเป็นโรงแรมขนาด 650 ห้อง บนเนื้อที่ 10 ไร่ ราคากว่า 3,000 ล้านบาท และได้ลงทุนรีโนเวตใหม่อีก 1,000 ล้านบาท เพื่อให้เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว อัตราค่าที่พักราว 5,000-6,000 บาท/คืน ขณะนี้อยู่ระหว่างออกแบบและเลือกเชนบริหารระหว่างฮิวตันและไฮเอ็ท รีเจนซี่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนหน้า โดยคาดภายหลังจากรีโนเวตแล้วเสร็จจะทำให้มูลค่าขึ้นไปสูงถึง 8,000 ล้านบาท

          ปัจจุบันธุรกิจโรงแรมถือว่ามีแนวโน้มการเติบโตที่ดีมากกว่าอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นหรือการลงทุนประเภทอื่น เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้อัตราการเข้าพักสูงถึง 80-90% ส่วนการลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมในปีนี้คาดว่าจะชะลอออกไปก่อน เนื่องจากตลาดไม่ค่อยดีเท่าใดนัก โดยบริษัทจะหันไปลงทุนโครงการแนวราบโดยโครงการแรก เป็นทาวน์โฮมและบ้านแฝด ภายใต้ชื่อ เดอะ โอโซน The Ozone อ่อนนุช-ลาดกระบัง บนพื้นที่ 68 ไร่ จำนวน 663 ยูนิต ราคา 4 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท แบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 เฟส เฟสแรกจำนวน 300 ยูนิต โดยจะเปิดขายในไตรมาสแรกของปีนี้ คาดว่าจะมียอดขายในปีแรก 600-700 ล้านบาท

          "ในปีที่ผ่านมาบริษัทมีผลการดำเนินงานกำไรเป็นปีแรก โดยมีกำไร 1,000 ล้านบาทและมีรายได้ 3,500 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าในปีนี้บริษัทจะมีผลการดำเนินงานที่เป็นกำไร
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ