เฮรากหญ้าได้บ้านธนารักษ์
Loading

เฮรากหญ้าได้บ้านธนารักษ์

วันที่ : 31 มกราคม 2562
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบให้ปรับเงื่อนไขคุณสมบัติผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ โครงการเช่าระยะยาวใหม่ จากเดิมกำหนดให้ผู้เข้าร่วมโครงการซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนต้องไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย ปรับมาเป็นการเปิดกว้างให้เข้าร่วมโครงการได้ แต่กำหนดลำดับความสำคัญเอาไว้ 3 กรณีคือ ผู้ที่จะเข้าร่วมอันดับแรกต้องเป็นผู้ที่ได้รับสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อันดับต่อมาต้องเป็นผู้ที่มีรายได้ไม่เกินเดือนละ 35,000 บาท และสุดท้ายเป็นประชาชนทั่วไป ซึ่งการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขครั้งนี้เป็นเพราะที่ผ่านมาผู้ที่เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่ติดปัญหาดังกล่าว ทำให้มีผู้มาเข้าร่วมโครงการจำนวนน้อย
          ครม.ไฟเขียวปรับเงื่อนไข

          นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบให้ปรับเงื่อนไขคุณสมบัติผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ โครงการเช่าระยะยาวใหม่ จากเดิมกำหนดให้ผู้เข้าร่วมโครงการซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนต้องไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย ปรับมาเป็นการเปิดกว้างให้เข้าร่วมโครงการได้ แต่กำหนดลำดับความสำคัญเอาไว้ 3 กรณีคือ ผู้ที่จะเข้าร่วมอันดับแรกต้องเป็นผู้ที่ได้รับสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อันดับต่อมาต้องเป็นผู้ที่มีรายได้ไม่เกินเดือนละ 35,000 บาท และสุดท้ายเป็นประชาชนทั่วไป ซึ่งการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขครั้งนี้เป็นเพราะที่ผ่านมาผู้ที่เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่ติดปัญหาดังกล่าว ทำให้มีผู้มาเข้าร่วมโครงการจำนวนน้อย

          "การทบทวนเงื่อนไขครั้งนี้ เพราะที่ผ่านมาการทำโครงการดังกล่าว มีคนที่เข้าร่วมโครงการและผ่านคุณสมบัติน้อยมาก เพราะติดเงื่อนไขนี้ เช่น ผู้ที่มีบ้านอยู่แล้วในต่างจังหวัดซึ่งเป็นบ้านหลังเล็ก ๆ แต่เมื่อย้ายมาทำงานในพื้นที่ที่มีโครงการแล้วก็ต้องการมีบ้าน แต่ก็ติดเงื่อนไขทำให้เข้าร่วมโครงการไม่ได้ ดังนั้นกระทรวงการคลังจึงได้ปรับปรุงเงื่อนไขใหม่ เพื่อให้คนกลุ่มนี้ได้ประโยชน์"

          ทั้งนี้ที่ผ่านมากรมธนารักษ์ได้เปิดประกวดโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ เพื่อหาผู้ประกอบการลงทุนก่อสร้างโครงการ จำนวน 6 แปลง โดยมีผลการประกวดโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ จำนวน 5 แปลง (แปลง อ.ชร. 31 จังหวัดเชียงราย ไม่มีผู้ยื่นซอง) และมียอดลงทะเบียนจองสิทธิ (เปิดจองตั้งแต่วันที่ 19-31 ส.ค.59) จำนวนทั้งสิ้น 2,322 ราย และต่อมามีผู้ลงทะเบียนจองสิทธิที่นำเอกสารหลักฐานมายื่นขอใช้สิทธิเพียง 406 ราย หรือคิดเป็น 17.50% ของจำนวนผู้ยื่นจองทั้งหมด 2,322 ราย

          อย่างไรก็ตามธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารออมสินแจ้งต่อกระทรวงการคลังว่า สาเหตุที่ทำให้ผู้จองสิทธิมายื่นเอกสารหรือไม่สามารถยื่นเอกสารเพื่อคัดกรองคุณสมบัติได้ เนื่องจากผู้จองสิทธิ

          ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีหรือเคยมีกรรมสิทธิ์บ้านมาแล้ว จึงไม่เป็นไปตามคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการที่กำหนดไว้ว่าต้องไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยมาก่อน

          ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ยื่นจองสิทธิ มีผู้ผ่านคุณสมบัติเพียง 388 ราย เนื่องจากส่วนใหญ่เข้าข่ายเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยมาก่อนเช่นกัน จึงไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้และต่อมากรมธนารักษ์ได้พิจารณายกเลิกการดำเนินโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐบนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท. 2615 เนื่องจากมีข้อเสนอแนะเรื่องที่จอดรถที่อาจส่งผลให้รูปแบบโครงการที่เสนอไว้เปลี่ยนแปลงไป

          นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมามีกระแสคัดค้านโครงการจากประชาชนและชุมชนโดยตลอด โดยคาดว่าจะทวีความรุนแรง และอาจส่งผลให้การดำเนินงานหยุดชะงักและเกิดความเสียหายต่อทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน นอกจากนี้ กรมธนารักษ์ยังได้มีการเห็นชอบให้ปรับลดเนื้อที่โครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐบนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ พบ. 261 พร้อมทั้งปรับลดจำนวนบ้านที่ปลูกสร้าง เนื่องจากเกิดปัญหาข้อพิพาทกับเจ้าของที่ดินแปลงข้างเคียงด้วย
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาครัฐ อื่นๆ