ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์หรู เชื่อมั่นตลาดที่อยู่ราคาแพงเกิน 1.5 แสนต่อตร.ม. โตต่อ ตั้งเป้ารายได้พุ่ง 50% รับดีมานด์ดีเวลอปเปอร์ใหญ่ - คนรุ่นใหม่ในกรุงเทพฯ และกลุ่มลูกค้านักลงทุนต่างชาติเมืองภูเก็ต หลังมีงบสูง ซื้อไม่อั้น

          แม้คาดการณ์แนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2562 ภาพรวมอาจจะเติบโตได้ไม่ร้อนแรงเหมือนช่วงปีก่อนหน้าจากหลายปัจจัย แต่อย่างไรก็ตาม พบลูกค้าในกลุ่มไฮเอนด์กำลังซื้อสูง ไม่ได้หดตัวตามไปด้วย สะท้อนจากมูลค่าและตัวเลขซัพพลายเกิดใหม่ของกลุ่มคอนโดมิเนียมระดับราคา 1.5-2.5 แสนบาทต่อตารางเมตร เติบโตมากสุด จากจำนวนซัพพลายทั้งตลาดที่ 50,000- 60,000 หน่วย ของปี 2561 ซึ่งปีนี้คาดกลุ่มดังกล่าวยังจะเติบโตอีกไม่ต่างกัน

          นางพราวพรรณ เลาหพงศ์ชนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอตโตร ดีไซน์ จำกัด บริษัทนำเข้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านระดับลักชัวรี เปิดเผยว่า ตลาดเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับตลาดที่อยู่อาศัยนั้น ปัจจุบันมีมูลค่าต่อปี ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท โดยสัดส่วน 30% กระจุกตัวอยู่ในกลุ่มลักชัวรี เติบโตขึ้นต่อเนื่องจาก 10% ในอดีต ขณะที่บริษัทเจาะกลุ่มลูกค้าครอบคลุมทั้งรายย่อย ลูกค้าโครงการที่อยู่อาศัย และโรงแรม ทั้งในกรุงเทพฯและเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต พบงบประมาณการตกแต่งเฉลี่ยต่อตร.ม. สูงตั้งแต่ 5 หมื่น -1 แสนบาทในกลุ่มโครงการ ขณะที่ลูกค้ารายย่อย มีกำลังซื้อต่อคนต่อครั้งมากถึง 7-8 หมื่นบาท โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้า ซึ่งเป็นนักลงทุนชาวต่างชาติในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีดีมานด์น่าสนใจ ณ ขณะนี้

          "ตลาดเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงในภูเก็ต น่าสนใจมากโดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดฯปล่อยเช่า มีลูกค้ารายย่อยแม้น้อยราย แต่การซื้อต่อบิลสูงมาก เมื่อเทียบกับตลาดในกรุงเทพฯ เพราะส่วนใหญ่ 80% เป็นลูกค้าชาวยุโรป สิงคโปร์ มาเลเซีย การบริโภคไม่เหมือนคนไทย ไม่สนใจโปรโมชัน ราคาไม่ใช่ปัญหา ถ้าถูกใจพร้อมจ่าย เพราะบางรายซื้อคอนโดฯคราวเดียว 10 ห้อง อยากตกแต่งเพื่อเตรียมปล่อยเช่า"

          นางพราวพรรณ ยังกล่าวว่า นอกจากนี้ลูกค้าอีกกลุ่มที่มีความโดดเด่นเช่นกัน คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ เฉลี่ยอายุ 30-35 ปี เพราะปัจจุบันกลายเป็นลูกค้าหลัก มีรูปแบบการใช้จ่ายเต็มที่ เพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของตนเอง โดยที่ตนเองเชื่อว่า หลังการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น จะทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยมีความคึกคักขึ้นอีก เพราะผู้บริโภคจะมีความมั่นใจในการใช้เงินมากขึ้น ขณะเดียวกันที่อยู่อาศัยยังเป็นปัจจัยต้นๆ นับเป็นโอกาสของตลาดโดยเฉพาะในกลุ่มคู่รักที่เริ่มสร้างครอบครัว มองหาที่อยู่อาศัย รวมถึงของตกแต่งด้วย

          ทั้งนี้ ปี 2562 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตมากกว่า 50% ประมาณ 200-300 ล้านบาท หลังจากปี 2561 มีรายได้ 180 ล้านบาท จากการขยายงานในส่วนของโครงการที่อยู่อาศัยและโรงแรมทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น เฉลี่ย 30-50 โครงการต่อปี ทำให้สัดส่วนกลุ่มดังกล่าวเพิ่มเป็น 60% ที่เหลืออีก 40% มาจากหน้าร้านค้าปลีกที่ปัจจุบันมีอยู่ 2 สาขา ทั้งทองหล่อและภูเก็ต และล่าสุดปีนี้มีลูกค้าดีเวลอปเปอร์รายใหญ่ในตลาด ติดต่อเซ็นสัญญาต่อเนื่องเตรียมเข้าออกแบบและดีไซน์ จัดวางเฟอร์นิเจอร์ ลักษณะ วันสต็อปเซอร์วิสให้มากกว่า 270 หน่วย