ผลพวงจากมาตรการรัฐ หวังลดความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมบังคับใช้มาตรการลดวงเงินสินเชื่อต่อมูลค่าที่อยู่อาศัยหรือ LTV เดือนเมษายนนี้ ส่งผลกลุ่มผู้ซื้อบ้านตกที่นั่งลำบาก กู้ได้น้อยลง ต้องวางเงินดาวน์สูงขึ้น ขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการโหมโปรโมชันกระตุ้นให้เกิดการซื้อและโอนให้ได้มากที่สุด ขณะเดียวกันพบช่วงไตรมาสแรกของปี 2562 แต่ละบริษัทต่างชะลอเปิดโครงการใหม่ เพราะขอรอดูสถานการณ์ก่อน หวังระบายสินค้าคงค้างที่แบกกันมาข้ามปี แต่อย่างไรก็ตาม ทุกบริษัทยังวางเป้าการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผ่านแผนงานบุกทั้งตลาดแนวราบและแนวสูง ฝ่าพายุตลาดโตอย่างต่ำ 5%

          เริ่มด้วยบริษัทยักษ์ใหญ่ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค วางแผนงานในส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ภายใต้การตั้งเป้าขายตลอดทั้งปีที่ 2.16 หมื่นล้านบาท ผ่านการเปิดโครงการของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคเอง 2.05 หมื่นล้านบาท 17 โครงการ มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 16 โครงการ 1.8 หมื่นล้านบาท และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ 2 พันล้านบาท ขณะที่แกรนด์ แอสเสท เปิดโครงการใหม่ 3 โครงการ มูลค่า 1.83 หมื่นล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาท และ โครงการวิลล่าจังหวัดระยอง มูลค่า 2.3 พันล้านบาท

          ด้านบมจ. แอล.พี.เอ็น. โดยนายโอภาส ศรีพยัคฆ์ หลังระบุว่า ปี 2562 สำหรับตลาดอสังหาฯไทย เปรียบเป็นปีแห่งการฝ่าพายุ ตั้งรับความเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ตั้งเป้าเติบโตที่ 10% เปิดโครงการใหม่ 16 โครงการ รวม 2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น แนวราบ 10 โครงการ มูลค่า 8 พันล้านบาท ภายใต้แบรนด์ "พรสันติ" 8 โครงการ ราคา 2-10 ล้านบาท ส่วนอีก 2 โครงการเป็นแบรนด์ "BAAN 365" ราคา 15-20 ล้านบาท และคอนโดฯ 6 โครงการ แบ่งเป็นแบรนด์ "ลุมพินี เพลส" 3 โครงการ ระดับราคา 2-3 ล้านบาท, ลุมพินี วิลล์ 1 โครงการ ระดับราคา 1.2-1.5 ล้านบาท, แบรนด์ "ซีเล็คเต็ด" 1 โครงการ ระดับราคา 4 ล้านบาทขึ้นไป และอาคารสำนักงานเพื่อขาย แบรนด์ "ลุมพินี ทาวเวอร์" ย่านวิภาวดีฯ สูง 20 ชั้นขึ้นไป ระดับราคา 1 แสนบาทต่อตร.ม.ขึ้นไปตั้งเป้ายอดขายประมาณ 1.65 หมื่นล้านบาท ส่วนเป้าหมายรายได้ วางไว้ที่ 1.35 หมื่นล้านบาท

          ขณะที่นายอดิศร ธนนันท์นราพูล กรรมการผู้จัดการ บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กล่าวว่า สำหรับปีนี้ ตั้งเป้าหมายยอดขาย อยู่ที่ 3.3 หมื่นล้านบาท และเป้าหมายรับรู้รายได้ที่ 3.2 หมื่นล้านบาท โดยมีแผนเปิดโครงการใหม่ 16 โครงการ มูลค่ารวมเกือบ 3 หมื่นล้านบาทเป็นโครงการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 14 โครงการ และต่างจังหวัด 2 โครงการบ้านเดี่ยว 11 โครงการ โครงการทาวน์เฮาส์ 6 โครงการ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีแผนเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่แต่อย่างใด

          บมจ. ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ระบุแผนดำเนินธุรกิจในปีนี้ ว่า จะให้ความสำคัญกับตลาดที่อยู่อาศัยในกลุ่มทาวน์โฮม บ้านแนวคิดใหม่ และบ้านเดี่ยวขยายโครงการใหม่ทั้งสิ้น 8-10 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 4-4.5 พัน ล้านบาท ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 5.3 พันล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ที่ 4.65 พันล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นราว 15% จากปี 2561

          ส่วนบริษัทน้องใหม่ แอสเซทไวส์ หลังนายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยอมรับว่า ปี 2562 จะเป็นอีกปีที่ท้าทายสำหรับบริษัทรายกลางและรายเล็ก หรือแม้แต่รายใหญ่เอง แต่หวังจะเติบโตต่อ ด้วยเป้าหมายยอดขาย 7.3 พันล้านบาท วางแผนเปิดโครงการใหม่ รวม 7 โครงการ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 8.8 พันล้านบาท แบ่งเป็นแนวสูง 5 โครงการ และแนวราบ 2 โครงการ ไฮไลต์เตรียมเปิดโครงการใหญ่ที่สุด "เคฟ ทาวน์" รุกตลาด Mix Used เป็นครั้งแรกบนทำเลรังสิตต่อเนื่องโครงการเดิมที่ประสบความสำเร็จจากลูกค้านักลงทุนและกลุ่มนักศึกษา

          ส่วนผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อลงทุนโดยตรง โดยบริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ปฯ ยังมองภาพบวก สวนกระแสตลาดปีนี้เผยแผนธุรกิจปี 2562 ลุยเปิดโครงการใหม่เท่าตัว โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดคอนโดฯโลว์ไรส์ระดับบน ในทำเลศักยภาพ ทองหล่อ, พร้อมพงษ์ และอโศก อีกทั้งทำเลในเมืองพัทยา โดยในปีนี้ตั้งเป้าหมายยอดขายที่ 3 พันล้านบาท เติบโต 50% รวมมูลค่าโครงการใหม่กว่า 8 พันล้านบาท จำนวน 5 โครงการ แบ่งเป็น กรุงเทพฯ จำนวน 3 โครงการ ภายใต้ "แบรนด์วาลเด้น" คอนโดมิเนียมลักชัวรี่โลว์ไรส์ มูลค่ารวมประมาณ 3.5 พันล้านบาท และพัทยาอีก 2 โครงการ รูปแบบการลงทุน ดึงแบรนด์โรงแรมชั้นนำของโลกเข้ามาบริหาร มูลค่าโครงการรวมประมาณ 4.5 พันล้านบาท ทั้งโซนพัทยาเหนือ และโซนหาดนาจอมเทียน

          ขณะนายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออลล์อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ระบุว่า นอกจากคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้า สายสีเขียวและ สายสีน้ำเงินแล้ว ยังมีแผน พัฒนาโครงการแนวราบ ซึ่งถือเป็น ตลาดที่น่าสนใจ

          "ฮาบิแทท กรุ๊ป ยังมองภาพบวกสวนกระแสตลาดปีนี้แผนธุรกิจปี 2562 ลุยเปิดโครงการใหม่เท่าตัว"