เสนาฯผุดธุรกิจใหม่เสริมรายได้
Loading

เสนาฯผุดธุรกิจใหม่เสริมรายได้

วันที่ : 11 กุมภาพันธ์ 2562
น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแนวทางการดำเนินงานในปี 2562 ว่า จะผลักดันบริษัทให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกด้าน โดยในปีนี้จะเน้นกลุ่มเรียลดีมานด์ หรือผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยอย่างแท้จริง โดยมีเป้าหมายเปิด 22 โครงการทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด จำนวน 7,457 ยูนิต มูลค่ารวมประมาณ 24,013 ล้านบาท มากกว่าปีที่แล้วที่เปิดโครงการใหม่ 9 โครงการโดยเป็นคอนโดมิเนียมทั้งหมด
          อสังหาฯเจอปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน ทำ'รร.-อพาร์ตเมนต์'ชัดเจนปีนี้

          น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแนวทางการดำเนินงานในปี 2562 ว่า จะผลักดันบริษัทให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกด้าน โดยในปีนี้จะเน้นกลุ่มเรียลดีมานด์ หรือผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยอย่างแท้จริง โดยมีเป้าหมายเปิด 22 โครงการทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด จำนวน 7,457 ยูนิต มูลค่ารวมประมาณ 24,013 ล้านบาท มากกว่าปีที่แล้วที่เปิดโครงการใหม่ 9 โครงการโดยเป็นคอนโดมิเนียมทั้งหมด

          ทั้งนี้ โครงการที่เปิดใหม่ในปีนี้ แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 10 โครงการ โครงการแนวราบ

          ใน กทม.และปริมณฑล 6 โครงการ โครงการแนวราบในเมืองรอง 3 โครงการและโครงการในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) 3 โครงการ ตั้งเป้ายอดขาย 19,639 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ 8,278 ล้านบาท

          "การพัฒนาโครงการในส่วนกลางจะมีทั้งที่เสนาพัฒนาเองและร่วมทุนกับบริษัทฮันคิว ส่วนโครงการในต่างจังหวัดได้ร่วมกับบริษัท พราว วานิจ จำกัด ตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมาคือ บริษัท เสนา วณิช ซึ่งมีสัดส่วนการถือหุ้น 55% และ 45% ตามลำดับ โดยทางเสนาจะไม่เข้าไปบริหารในส่วนนี้" น.ส.เกษรากล่าว และว่า แม้จะพัฒนาโครงการจำนวนมาก แต่เชื่อว่ายังไปได้ เพราะเน้นคนที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่จริงเป็นหลัก ส่วนลูกค้าต่างประเทศนั้นยังสนใจอยู่ แต่ต้องทดลองทำตลาดด้วยการโรดโชว์ก่อนว่าจะได้รับความสนใจ ขนาดไหน จึงยังไม่ตั้งเป้าการขายสำหรับกลุ่มนี้ไว้

          น.ส.เกษรากล่าวว่า ปัจจุบันมีปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทั้งเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะออกเกณฑ์ควบคุมการปล่อยสินเชื่อต่อมูลค่าประกันหลักทรัพย์ (แอลทีวี) ดังนั้น จะต้องทำธุรกิจอื่นเพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงด้วย โดยขณะนี้มองธุรกิจต่อเนื่องไว้ 3 ส่วนคือ อาคารสำนักงาน โรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และธุรกิจโซลาร์รูฟท็อป ซึ่งในส่วนของอาคารสำนักงานและโรงแรมนั้นอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ โดยในส่วนของโรงแรมคาดว่าจะชัดเจนในปีนี้ ซึ่งกำลังดูทั้งการลงทุนใหม่และการซื้อกิจการ ขนาดไม่ต่ำกว่า 200 ห้อง เน้นใน กทม.และจะใช้เชนบริหาร ส่วนโครงการโซลาร์ รูฟท็อปจะหาพันธมิตรที่เชี่ยวชาญร่วมทุน เพื่อไปลงทุนในรูปแบบไพรเวต พีพีเอ คือไปติดตั้งในอาคารโรงงาน ห้างสรรพสินค้าหรือโรงแรมและนำไฟที่ผลิตได้ขายให้กับเจ้าของ
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ