ลูกชาย "ลีกาชิง" มหาเศรษฐีฮ่องกง ดอดซื้อที่ดิน "สนามกอล์ฟ ท้ายเหมือง" ของอดีตรัฐมนตรีคลังกว่า 1,000 ไร่ ผุดโปรเจ็กต์ยักษ์วิลล่าหรู-โรงแรมและสนามกอล์ฟ 18 หลุม ริมหาดท้ายเหมือง จับกลุ่มเศรษฐีต่างชาติ มูลค่าโครงการระดับหมื่นล้าน เปิดเครือข่ายธุรกิจ "พังงา พาราไดซ์-พังงา ลีเชอร์" ใต้เงาเศรษฐีฮ่องกง

          "ลีกาชิง" ยึดหาดท้ายเหมือง

          ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า ขณะนี้ในพื้นที่ "สนามกอล์ฟท้ายเหมืองเก่า" ขนาดกว่า 1,000 ไร่ ซึ่งเคยเป็นโครงการของบริษัท ท้ายเหมือง บีชรีสอร์ท จำกัด ของนายสมหมาย ภาษี อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ซึ่งได้มีการขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในโครงการให้กับนักลงทุนต่างชาติ เครือข่ายลูกชาย "ลีกาชิง" มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของฮ่องกง ตั้งแต่ช่วงปี 2552 โดยโครงการดังกล่าวถูกปิดทิ้งรกร้างมาเกือบ 10 ปี ล่าสุด พบว่า มีบริษัทรับเหมาก่อสร้าง เข้าไปดำเนินการปรับปรุงพื้นที่เพื่อดำเนินการก่อสร้าง

          จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ปัจจุบันที่ดินดังกล่าวถือครองโดยบริษัท พังงา พาราไดซ์ จำกัด และบริษัท พังงา ลีเชอร์ จำกัด บันทึกมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ประมาณ 2,383 ล้านบาท โดยทั้งสองบริษัทมีกลุ่มผู้ถือหุ้นเดียวกันและสัดส่วนเหมือนกัน ประกอบด้วย บริษัท ซิตี้ แชมเปี้ยน อินเวสเม้นท์ส ลิมิเต็ด ถือหุ้น 39% จดทะเบียนที่หมู่เกาะเวอร์จิน (อังกฤษ), บริษัท จีระพันธ์ เฟิร์สท โฮลดิ้ง จำกัด 30.5% และบริษัท ประเสริฐ คอนซัลแตนท์ 11 จำกัด สัดส่วน 30.5% รวมทั้งกรรมการบริษัททั้งสองก็เป็นบุคคลเดียวกัน คือ นางจีระพันธ์ กอร์ทอน, นายโรเบิร์ต ชิ ฮง ลี, นายหยิน มัน ถัง, นายเจมส์ ชาน และ น.ส.วาเลอรี ไว ชุง มัน

          ทั้งนี้ นายโรเบิร์ต ชิ ฮง ลี และเจมส์ ชาน ซึ่งมีชื่อเป็นกรรมการของพังงา พาราไดซ์ เป็นรองประธานกรรมการและ กรรมการบริหารของบริษัท Pacific Century Premium Developments Limited หรือ PCPD ซึ่งดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก มีสำนักงานใหญ่ ในฮ่องกง และเป็นบริษัทย่อยของ Pacific Century Cyber Works (PCCW) ซึ่งมีนายริชาร์ด ลี ลูกชายคนเล็กของนายลีกาชิง มหาเศรษฐีชาวฮ่องกงเป็นผู้ก่อตั้ง

          ผุดสนามกอล์ฟ-วิลล่าหรู

          นอกจากนี้จากการตรวจสอบเอกสารรายงานประจำปีของบริษัท PCPD ได้มีการระบุถึงแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยที่จังหวัดพังงาด้วย และบนเว็บไซต์บริษัท PCPD แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทว่า เมื่อ 3 ธันวาคม 2561 บริษัทร่วมทุน "ไฮเกมกอล์ฟ" ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ ในพังงา ได้ทำสัญญากับบริษัท ตราดอินเตอร์เนชั่นแนลกอล์ฟเซอร์วิส จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างสนามกอล์ฟที่ท้ายเหมือง ด้วยวงเงิน 210,080,079 บาท (ประมาณ 49.83 เหรียญฮ่องกง) เป็น การก่อสร้างสนามกอล์ฟ 18 หลุมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 530,000 ตารางเมตร รวมถึงงานจัดสวน และการบำรุงรักษาระบบสาธารณูปโภค

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่ดังกล่าวซึ่งเป็นสนามกอล์ฟเก่าที่ปิดทำการ ได้มีบริษัทเอกชนได้ยื่นขอ EIA (รายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม) ตั้งแต่ ปี 2558 ในการก่อสร้างโครงการโรงแรม วิลล่าหรู คลับเฮาส์สนามกอล์ฟ ภายใต้ การดำเนินงานของบริษัทต่าง ๆ  ที่มีบริษัท พังงา พาราไดซ์ และพังงา ลีเชอร์ เป็นผู้ถือหุ้นหลัก

          ได้แก่ บริษัท บลูริเวอร์ ลีฟวิ่ง จำกัด ได้ยื่นขอก่อสร้างโครงการ Avenue Hotel ประกอบธุรกิจโรงแรม เป็นอาคารขนาด 2 ชั้น จำนวน 14 อาคาร รวม 42 ห้อง และอาคารบริการ 1 อาคาร บนพื้นที่รวม 22-2-9.71 ไร่ บริษัท สยามริเวียร่า จำกัด ได้ยื่นขอก่อสร้างโครงการ Beach Residences เป็นอาคารสูง 2-3 ชั้น ลักษณะวิลล่าหรู จำนวน 10 อาคาร รวม 52 ห้อง และอาคารบริการต่าง ๆ อีก 6 อาคาร และบริษัท ไฮเกมกอล์ฟ จำกัด ยื่นขอก่อสร้างโครงการ Golf Vacation Club โครงการมีพื้นที่ 14-3-46.6 ไร่ ก่อสร้างเป็นอาคารโรงแรมสูง 4 ชั้น 6 อาคาร ห้องพัก 76 ห้อง พร้อมสระว่ายน้ำ และอาคารจอดรถ 6 อาคาร

          ท่าจอดเรือยอชต์ไม่ผ่าน EIA

          แหล่งข่าวในตำบลท้ายเหมืองระบุว่า ตามแผนทางกลุ่มทุนฮ่องกงต้องการสร้างมารีน่า เป็นท่าจอดเรือยอชต์ด้วย แต่จากการยื่นของอีไอเอ ไม่ได้รับการอนุมัติเนื่องจากทางสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) มีความเห็นว่าจะส่งผลกระทบต่อธรรมชาติและการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตในบริเวณดังกล่าว โดยที่ดินแปลงดังกล่าวถือว่าเป็นทำเลที่สวยงามมากเรียบชายหาดท้ายเหมือง โดยพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 1,075 ไร่ ซึ่งได้รับข้อมูลว่าในส่วนของวิลล่าหรูริมหาดนั้น จะมีการขายอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านเหรียญสหรัฐ

          "สำหรับการจัดตั้งบริษัทที่เข้ามาลงทุนก็เป็นการตั้งบริษัทนอมินีเข้ามาถือหุ้น เพื่อแปลงสัญชาติให้เป็นบริษัทไทย อย่างไรก็ตาม จะเห็นว่ากรรมการผู้มีอำนาจ เป็นชาวฮ่องกงและต่างชาติทั้งสิ้น"

          เปิดเครือข่าย "พังงา พาราไดซ์"

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของบริษัท ไฮเกมกอล์ฟ, บริษัท สยามริเวียร่า และบริษัท บลูริเวอร์ ลีฟวิ่ง จดทะเบียนตั้งแต่ปี 2552 โดยทั้ง 3 บริษัทมีโครงสร้างการถือหุ้นเหมือนกัน คือ บริษัท พังงา พาราไดซ์ จำกัด ถือหุ้น 89.1%, บริษัท พังงา ลีเชอร์ จำกัด 9.9% ส่วนอีก 1% เป็นการถือหุ้นโดยบริษัทที่แตกต่างกันไป แต่ที่เหมือนกันคือเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในหมู่เกาะเวอร์จิน (อังกฤษ)

          นอกจากนี้ กลุ่มทุนดังกล่าว ยังได้มีการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในที่ตั้งเดียวกันอีกหลายบริษัท อาทิ บริษัท ไพน์ทรี ดีเวลลอปเม้นท์ เซอร์วิสเซส จำกัด, บริษัท ไพน์ทรี เรสซิเดนส์ จำกัด, บริษัท อควา สตาร์ มารีน่า จำกัด, บริษัท เซาท์เทิร์น ลากูน จำกัด และบริษัท แกรนด์ โอเชี่ยน ล็อดจ์จิ้ง จำกัด โดยทั้งหมดจดทะเบียนตั้งอยู่เลขที่ 157/12 หมู่ที่ 9 ถนนลิ่มดุลย์ ตำบลท้ายเหมือง อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา 82120

          โปรเจ็กต์ยักษ์หมื่นล้าน

          นายจิรวิทย์ พวงจิตร นายกเทศมนตรีตำบลท้ายเหมือง จังหวัดพังงา กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตอนนี้ในอำเภอท้ายเหมืองเริ่มเป็นที่นิยมในการลงทุนด้านการท่องเที่ยวมากขึ้น จากที่ผ่านมามีแต่โรงแรมขนาดเล็ก สำหรับโครงการลงทุนทำรีสอร์ตในพื้นที่สนามกอล์ฟท้ายเมืองเก่านั้น เท่าที่ทราบเป็นของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ ครบวงจร มูลค่าโครงการรวมกว่า 10,000 ล้านบาท

          ขณะที่นายศิริพัฒ พัฒนกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา จังหวัดพังงาได้รับความสนใจจากนักธุรกิจ เข้ามาลงทุนโครงการที่พัก ทั้งรีสอร์ต และโรงแรม มากขึ้น โดยพื้นที่ที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษคือบริเวณชายฝั่งทะเล ตั้งแต่สะพานสารสิน ตำบลโคกกลอย ไปจนถึงอำเภอตะกั่วป่า ซึ่งเห็นภาพ รายใหญ่ ๆ เข้ามาจำนวนมาก ที่ดินมีการ เปลี่ยนมือเยอะ ส่วนหนึ่งมีผลจาก ความหนาแน่นของการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ขณะที่จังหวัดพังงาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความเป็นธรรมชาติ สามารถเดินทางต่อไปยังหมู่าเกาะสุรินทร์ และหมู่เกาะสิมิลันที่มีแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกได้