รอแยลเฮ้าส์ส่งแบบรับกำลังซื้อคนรุ่นใหม่พร้อมลุยอสังหาเพื่อขาย

          รอแยลเฮ้าส์ รุกตลาดรับสร้างบ้านบุกหนักต่างจังหวัดรับกำลังซื้อ พร้อมส่ง 8 แบบบ้านใหม่เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ตั้งเป้ารายได้ 1,000 ล้าน

          นายโกศล โควิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รอแยลเฮ้าส์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านยังเติบโตดีทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัดเพราะเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ โดยในปีนี้บริษัทจะเร่งสร้างแบรนด์พร้อมขยายฐานลูกค้าต่างจังหวัดรองรับกำลังซื้อมากขึ้น

          ทั้งนี้ จะเน้นผ่าน 5 สาขา ได้แก่ ชลบุรี สระบุรี นครปฐม นครราชสีมา และอุบลราชธานี เพราะที่ผ่านมาตลาดจะอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก ขณะที่ตลาดต่างจังหวัดกำลังซื้อมีการเติบโตต่อเนื่อง จากความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการสร้างบ้านกับบริษัทที่มีมาตรฐานและมีเป้าหมายที่ชัดเจน มีที่ดินพร้อมที่ปลูกสร้าง โดยตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ 1,000 ล้านบาท

          สำหรับปีที่ผ่านมาบริษัทสามารถทำรายได้ราว 1,100 ล้านบาท ทะลุเป้าซึ่งวางไว้ที่ 1,000 ล้านบาท ส่วนปีนี้ตั้งงบที่ 15 ล้านบาท เพื่อดำเนินกิจกรรมทางการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมทั้งได้ออกแบบบ้านใหม่อีก 8 แบบ ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 220 ตารางเมตรขึ้นไป ราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งในไตรมาสแรกจะส่ง 4 แบบบ้านเพื่อเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ก่อน โดยมีการเปิดตัวแล้ว 2 แบบสไตล์ญี่ปุ่น ไตรมาสแรกวางเป้ารายได้ไว้ที่ 250 ล้านบาท

          ด้านแผนการพัฒนาโครงการเพื่อขายโดยบริษัท รอแยลเฮ้าส์ อีเลฟเว่น ซึ่งเป็นบริษัทในเครือนั้น บริษัทยังคงมีแผนพัฒนาทั้งอสังหาฯ ทั้งแนวราบและสูง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับที่ดินที่ได้มาและความเหมาะสมในแต่ละช่วงเวลาเพื่อให้พัฒนาสินค้าได้ในราคาที่กลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์เข้าถึงได้

          ปัจจุบันมีที่ดินของครอบครัวราว 10 แปลงทั้ง กทม.และต่างจังหวัด เช่น นครอินทร์ ภูเก็ต เชียงใหม่ มีนบุรี ลาดพร้าว ฯลฯ ที่มีศักยภาพและพร้อมพัฒนาตามโมเดลนี้ รวมทั้งการหาซื้อที่ดินใหม่ด้วย ซึ่งอาจเห็นโครงการใหม่ในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า โดยขอรอดูสถานการณ์ในช่วง 2-3 เดือนนี้ก่อน

          สำหรับความคืบหน้าโครงการโคคูน พระราม 9 ตั้งอยู่บนที่ดินกว่า 1 ไร่ บนถนนพระราม 9 ซอย 59 มูลค่าประมาณ 305 ล้านบาท เป็นอาคาร 8 ชั้น 1 อาคาร 146 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 7 หมื่นบาท/ตารางเมตร (ตร.ม.) ซึ่งเปิดตัวเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 80% ที่เหลืออีก 20% จะจัดอีเวนต์ในเดือน พ.ค.นี้ โดยอาจปรับราคาขึ้นอีก 5-10% ขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอ คาดว่าโครงการเริ่มก่อสร้างในช่วงไตรมาส 2 ปี 2562 และจะแล้วเสร็จราวเดือน ก.ย. 2563

          "มาตรการคุมสินเชื่อของแบงก์ชาติที่จะใช้บังคับในวันที่ 1 เม.ย.ปีนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อลูกค้าของบริษัทนักเพราะเป็นการซื้อเป็นบ้านหลังแรกถึง 40-50% และกว่า 60% ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง 40% ซื้อเพื่อลงทุน ซึ่งบริษัทได้มีการแจ้งไปยังลูกค้าเพื่อเตรียมความพร้อม ส่วนลูกค้าต่างชาติมีไม่ถึง 10% อีกทั้งราคาอสังหาฯ ไม่แพง ทำให้บริษัทมีความมั่นใจว่าเป็นลูกค้าจริงพร้อมโอน" นายโกศล กล่าว

          อย่างไรก็ดี ธุรกิจอสังหาฯ เพื่อขายถือเป็นการต่อยอดโอกาสและความท้าทายในการตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภค นอกเหนือจากการรับสร้างบ้านที่มีข้อจำกัดเพียงปีละประมาณ 150 หลัง