วัสดุก่อสร้างได้ดีตั้งรัฐบาลเปิดโผหุ้นใหญ่-เล็กน่าสอย
Loading

วัสดุก่อสร้างได้ดีตั้งรัฐบาลเปิดโผหุ้นใหญ่-เล็กน่าสอย

วันที่ : 13 มิถุนายน 2562
ส่องกลุ่มวัสดุก่อสร้างรับอานิสงส์รัฐบาลใหม่ สานต่อนโยบายลงทุน-กระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ขยายโครงการใหม่ต่อเนื่อง หนุนความต้องการ ใช้งานปูน 3 ค่าย SCC-SCCC-TPIPLขณะที่วัสดุก่อสร้าง HMPRO-GLOBAL-DCC-DRT รับทรัพย์ประชากรเชื่อมั่นใช้จ่ายปรับปรุงที่พักอาศัย
          ส่องกลุ่มวัสดุก่อสร้างรับอานิสงส์รัฐบาลใหม่ สานต่อนโยบายลงทุน-กระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ขยายโครงการใหม่ต่อเนื่อง หนุนความต้องการ ใช้งานปูน 3 ค่าย SCC-SCCC-TPIPLขณะที่วัสดุก่อสร้าง HMPRO-GLOBAL-DCC-DRT รับทรัพย์ประชากรเชื่อมั่นใช้จ่ายปรับปรุงที่พักอาศัย

          นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มวัสดุก่อสร้าง มีความน่าสนใจ จากกรณีความชัดเจนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ภายในประเทศ เชื่อว่าจะทำให้การขับเคลื่อนการลงทุนจากนี้จะมีความต่อเนื่องตามแผนการดำเนินนโยบายที่มี โดยเฉพาะโครงการสร้างพื้นฐานภายในประเทศ อีกทั้งยังมีโอกาสที่จะผลักดันนโยบายใหม่ๆ ที่มีความเกี่ยวเนื่องอื่นๆ ออกมาเพิ่มเติม

          รัฐขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

          อีกทั้งจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการลงทุนจากภาคเอกชนอีกด้วย ดังนั้นปัจจัยข้างต้นจะส่งอานิสงส์ในเชิงบวกให้กับกลุ่มวัสดุก่อสร้างอยู่บ้าง เช่น กลุ่มเหล็กโดยเฉพาะเหล็กเส้นที่นำมาใช้เป็นหนึ่งในโครงสร้างสำคัญในการก่อสร้างเส้นทางคมนาคมต่างๆ แต่เนื่องด้วยราคาเหล็กที่ตกต่ำและมีความผันผวนสูง ประกอบกับยังมองไม่เห็นแนวโน้มการฟื้นตัวของราคาเหล็ก ส่งผลให้ทางฝ่ายจึงไม่แนะนำให้ลงทุนในกลุ่มเหล็ก

          นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มปูนซีเมนต์ ที่ถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบโครงสร้างต่างๆ ซึ่งคาดว่าผู้ที่จะได้รับอานิสงส์ ได้แก่  SCC SCCC และ TPIPL เป็นต้น อย่างไรก็ดีแม้ว่าปูนเป็นอีกวัสดุที่นำมาประกอบการสร้างเส้นทางการคมนาคม แต่เมื่อเทียบกับปริมาณการใช้ในงานก่อสร้างโครงการที่พักอาศัย โครงการอาคารสำนักงาน และโครงการคอนโดมิเนียม แล้วยังเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่ามาก

          ทั้งนี้ทางฝ่ายจึงมองว่ากลุ่มวัสดุก่อสร้างโดยเฉพาะปูนซีเมนต์ จะมีทิศทางการเติบโตที่ดีตามการขยายการลงทุนของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ โดยเชื่อว่าจากความชัดเจนทางการเมืองที่เกิดขึ้น และแนวโน้มการสานต่อการลงทุนและขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ โดยเฉพาะนโยบายการลดภาษีสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อที่พักอาศัย มองว่าจะช่วยเร่งระบาย สต๊อกบ้านที่มีอยู่ได้ แม้ว่าปัจจุบันซัพพลายจะค่อนข้างสูง แต่ว่าความต้องการที่พักอาศัยโดยเฉพาะเกาะแนวรั้วรถไฟฟ้ายังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

          กลุ่มค้าปลีกวัสดุเข้าตา

          นายมงคล ระบุว่า หากการลงทุนโครงการต่างๆ ทั้งจากภาครัฐและเอกชนเกิดขึ้นจริง จะทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศมีการฟื้นตัวที่ดีและช่วยสร้างความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายของประชาชนภายในประเทศที่มากขึ้น ทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องในการปรับปรุงที่พักอาศัย ได้รับผลดี ทั้ง DCC และ DRT และกลุ่มวัสดุและสุขภัณฑ์ SCG และ COTTO รวมถึงกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งที่พักอาศัย HMPRO และ GLOBAL ทางฝ่ายประเมินว่าในกลุ่มนี้มีแนวโน้มการเติบโตที่ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นๆ ทั้งการปรับรูปแบบการขายเพื่อให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภค และการพัฒนาสินค้าที่เป็น High Value Added ที่มากขึ้น เป็นต้น

          "หากจะถามว่าเมื่อความชัดเจนทางการเมืองในประเทศเกิดขึ้นแล้ว กลุ่มไหนจะได้รับอานิสงส์บ้าง แน่นอนว่าตลาดคงต้องไปจับตากลุ่มที่เกี่ยวเนื่องภาคการบริโภคและกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง แต่เราเองก็มองเห็นอานิสงส์กลายๆ ยังส่งไปถึงกลุ่มวัสดุก่อสร้างอีกด้วย โดยเฉพาะปูนซีเมนต์และเหล็กแม้ว่าไม่เกี่ยวกับการลงทุนภาครัฐนัก แต่หลักๆ จากการลงทุนของ ผู้ประกอบการอสังหาขยายโครงการที่พักอาศัย คอนโด ทำให้มีความต้องการใช้ปูนเพิ่มขึ้น รวมถึงอีกกลุ่มที่ต้องจับตา HMPRO GLOBAL DCC และ DRT เป็นต้น" นายมงคลกล่าว