บอร์ดอีอีซีไฟเขียว 2 บิ๊กโปรเจ็กต์ ไฮสปีด 3 สนามบินมาบตาพุดเฟส 3 ลงทุนกว่า 2.7 แสนล้าน คาดเดือน ก.ค. พร้อมลงนามสัญญาเอกชนผู้ชนะประมูลได้

          นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการสำนักงานนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) หรืออีอีซี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะ วันออก (กพอ.) ซึ่งมีพลเอกประ ยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ว่า ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) และโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบ ตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 คาดภายในเดือน ก.ค.นี้ จะลงนามกับเอกชนผู้ชนะการประมูลได้

          นอกจากนี้ยังรับทราบทั้ง 2 โครงการได้ผ่านความเห็นชอบการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA โดยคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และเตรียมนำเสนอ ครม.เพื่อพิจารณาต่อไป

          สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินเป็น การใช้รูปแบบการร่วมทุนกับเอก ชน (PPP) มูลค่าการลงทุนรวม 224,544.36 ล้านบาท โดยรัฐสนับสนุนส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งกลุ่มซีพีในนามกิจการร่วมค้าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง และพันธมิตร เสนอวงเงินให้รัฐร่วมลงทุน 149,956 ล้านบาท ต่ำกว่าที่ ครม.อนุมัติไว้ที่ 152,457 ล้านบาท

          ส่วนโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 นั้น ล่าสุด น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า  กนอ.ได้เสนอบอร์ดอีอีซีรับทราบผลการเจรจากับบริษัทเอกชนกลุ่มกิจการร่วมค้า กัลฟ์และพีทีทีแทงค์ ซึ่งเป็นผู้ที่ผ่านการชนะการประมูลระยะเวลา 30 ปี ในวงเงิน 45,480 ล้านบาท ในเรื่องค่าใช้จ่ายและผลตอบแทนในการร่วมลงทุน โดยได้ข้อสรุปว่า เอกชนได้ปรับลดการจ่ายเงินร่วมลงทุนอยู่ที่ 710 ล้านบาทต่อปี จากเงื่อนไขของเอกชนเดิมที่ให้จ่าย 720 ล้านบาท รวมเป็นอัตราผลตอบแทนทางการเงินและทางเศรษฐศาสตร์ของการลงทุน หรือ FIRR ที่ กนอ.จะได้รับไม่น้อยกว่า 9.21% จากเดิมอยู่ที่ 9.14