เปิดพอร์ตโรงแรมกลุ่มเพอร์เฟค 7 แห่งทำรายได้เติบโตต่อเนื่อง
Loading

เปิดพอร์ตโรงแรมกลุ่มเพอร์เฟค 7 แห่งทำรายได้เติบโตต่อเนื่อง

วันที่ : 1 กรกฎาคม 2562
กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เผยธุรกิจโรงแรมสดใส ท่องเที่ยวเติบโต ส่งผลให้รายได้จากธุรกิจโรงแรมของกลุ่มบริษัทปีนี้คาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 4,200 ล้าน คิดเป็น 20% ของรายได้รวมจากพอร์ตโรงแรมทั้ง 7 แห่ง รวม 2,077 ห้องพัก เผยแผนใน 2 ปีหน้าตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจโรงแรมเพิ่มเป็น 5,300 ล้าน
           กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เผยธุรกิจโรงแรมสดใส ท่องเที่ยวเติบโต ส่งผลให้รายได้จากธุรกิจโรงแรมของกลุ่มบริษัทปีนี้คาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 4,200 ล้าน คิดเป็น 20% ของรายได้รวมจากพอร์ตโรงแรมทั้ง 7 แห่ง รวม 2,077 ห้องพัก เผยแผนใน 2 ปีหน้าตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจโรงแรมเพิ่มเป็น 5,300 ล้าน

          นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการดำเนินธุรกิจโรงแรมของกลุ่มบริษัทว่าแนวโน้มในปีนี้คาดว่าธุรกิจโรงแรมของบริษัทจะมีผลประกอบการเติบโตอย่างโดดเด่นส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยที่ยังคงเติบโตมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยยังคงมีศักยภาพและโอกาสทางการท่องเที่ยว ทั้งความหลากหลายของทรัพยากรท่องเที่ยว และด้านที่ตั้งซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ธุรกิจโรงแรมของกลุ่มบริษัทในปีนี้ คาดจะมีรายได้ 4,200 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 44% จากปีที่ผ่านมา โดยจะเป็นรายได้จากโรงแรมในประเทศ

          ทั้งนี้ ภายใต้บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) จำนวน 3,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1,739 ล้านบาทในปีก่อน และอีก 1,200 ล้านบาท มาจากโรงแรมต่างประเทศ ซึ่งปีที่ผ่านมาทำได้ 1,175 ล้านบาท โดยรายได้จากธุรกิจโรงแรมจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 20% ของรายได้รวมของบริษัทเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็น 14.8% กลุ่มบริษัทยังตั้งเป้าจะเพิ่มรายได้จากธุรกิจโรงแรมในปี 2564 เป็น 5,300 ล้านบาท โดยคาดว่ารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติจะมีการขยายตัวต่อเนื่องซึ่งลูกค้าโรงแรมของกลุ่มบริษัท 5 อันดับแรกเป็นชาวต่างประเทศได้แก่ จีนซึ่งเป็นกลุ่มท่องเที่ยว รองลงมาเป็นญี่ปุ่นซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มธุรกิจ จากสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นกลุ่มประชุม จากอินเดียที่นิยมมาจัดงานแต่งงาน และชาวเกาหลี ซึ่งเป็นทั้งกลุ่มธุรกิจและท่องเที่ยวในสัดส่วนเท่าๆ กัน

          “ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมานี้ ธุรกิจโรงแรมของกลุ่มบริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดี โดยเฉพาะโรงแรมในกรุงเทพฯ ที่มีการเปิดตัวโรงแรมแห่งใหม่ ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพ สุขุมวิท มีการเปิดรูฟท็อปบาร์ มีอัตราการเข้าพักที่เพิ่มขึ้น และมีรายได้เฉลี่ยต่อห้องเพิ่มขึ้นบวกกับการปรับกลยุทธ์มาขยายฐานลูกค้ากลุ่มไมซ์ หรือกลุ่มธุรกิจและการประชุมมากขึ้น ซึ่งโรงแรมของเรามีความพร้อมสำหรับการจัดประชุมอยู่แล้ว ทั้งในด้านทำเลที่ตั้งและสถานที่จัดประชุม ทำให้สัดส่วนระหว่างลูกค้ากลุ่มธุรกิจและกลุ่มท่องเที่ยว เพิ่มเป็น 55:45 ช่วยเพิ่มรายได้ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่มให้กับโรงแรม โดยนักเดินทางกลุ่มไมซ์ยังมีแนวโน้มการเติบโตได้อีกมาก”

          นายชายนิด กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันกลุ่มบริษัทมีโรงแรมทั้งหมด 7 แห่ง รวม 2,077 ห้องพัก บริหารงานโดยกลุ่มแมริออท และไฮแอท เป็นโรงแรมในประเทศ 5 แห่ง รวม 1,655ห้องพัก ได้แก่ เดอะ เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท, รอยัลออคิด เชอราตัน, ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพ สุขุมวิท, เชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา และเชอราตัน หัวหิน ปราณบุรี วิลล่า ส่วนโรงแรมต่างประเทศ มี 2 แห่ง รวม 422 ห้องพัก คือ เชอราตัน ฮอกไกโด คิโรโระ รีสอร์ท และ เดอะ คิโรโระ อะ ทรีบิวต์ พอร์ตโฟลิโอ ฮอกไกโด นอกจากนี้ ยังเดินหน้าสร้างโรงแรมแห่งใหม่บริเวณหาดแม่พิมพ์จังหวัดระยองในแบบมิกซ์ยูสประกอบด้วยโรงแรมขนาด 201 ห้องพักคอนโดมิเนียม และ พูลวิลล่า
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ