สินเชื่อบ้าน5เดือนโต15% ผู้ว่าฯธปท.ชี้LTVไม่กระทบ
Loading

สินเชื่อบ้าน5เดือนโต15% ผู้ว่าฯธปท.ชี้LTVไม่กระทบ

วันที่ : 11 กรกฎาคม 2562
ผู้ว่าฯ ธปท. ชี้สินเชื่อบ้าน 5 เดือนยังโต 15% ยันเจตนามาตรการ LTV ไม่กระทบผู้ซื้อบ้านหลังแรก ย้ำช่วยให้คนที่ต้องการซื้อจริงซื้อได้ในราคาไม่สูงเกินควร
          ผู้ว่าฯ ธปท. ชี้สินเชื่อบ้าน 5 เดือนยังโต 15% ยันเจตนามาตรการ LTV ไม่กระทบผู้ซื้อบ้านหลังแรก ย้ำช่วยให้คนที่ต้องการซื้อจริงซื้อได้ในราคาไม่สูงเกินควร

          นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยืนยันว่า การออกมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ที่เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ เม.ย.2562 ที่ผ่านมานั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะทำให้คนที่ต้องการซื้อบ้านหลังแรกได้รับผลกระทบ ในทางกลับกัน มาตรการที่ออกมาต้องการช่วยคนที่อยากมีบ้านหลังแรก เพราะราคาบ้านของเดิมที่มีอุปสงค์ (demand) เทียม ทำให้ราคาบ้านโดยเฉพาะคอนโดมีเนียมเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้คนที่มีความต้องการจะซื้อจริง ๆ ไม่สามารถซื้อได้ หรือซื้อไปในราคาที่สูงเกินควร

          "มาตรการนี้เป็นมาตรการที่ค่อนข้างเบามากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ คือ การเพิ่มเงินดาวน์ สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยที่ไม่ใช่บ้านหลังแรก บ้านหลังแรกไม่ได้รับผลกระทบ ยืนยันอีกครั้งว่าเจตนาของเราไม่ต้องการให้คนที่ต้องการซื้อบ้านหลังแรกได้รับผลกระทบ ความจริงมาตรการที่ออกมานั้นช่วยคนที่อยากมีบ้านเป็นครั้งแรกด้วย" นายวิรไท กล่าว

          นายวิรไท กล่าวว่า มาตรการ LTV ช่วยให้ตลาดมีความสมดุลมากขึ้น เป็นตลาดที่สะท้อนความต้องการที่แท้จริงมากขึ้น และช่วยคนที่อยากจะซื้อบ้านหลังแรกให้สามารถซื้อได้ในราคาที่เหมาะสมขึ้น

          ทั้งนี้ หากธปท.ไม่นำมาตรการดังกล่าวออกมาบังคับใช้ อาจจะเกิดปัญหาฟองสบู่แตกในภาคอสังหาริมทรัพย์ และจะส่งผลกระทบต่อทุกคนตามมา ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่กู้ หรือไม่ได้กู้ รวมทั้งสร้างผลข้างเคียงอีกมาก เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกันทางธุรกิจ เป็นสินทรัพย์ที่เป็นเงินออมก้อนสำคัญ อย่าคิดว่าราคาจะตกไม่ได้

          อย่างไรก็ดี สำหรับยอดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ในเดือนเม.ย.2562 ปรับลดลงบ้าง แต่ส่วนสำคัญเป็นเพราะมีการเร่งกู้ในเดือนม.ค.-มี.ค. ก่อนที่มาตรการ LTV จะเริ่มมีผลในวันที่ 1 เม.ย.2562 ซึ่งหากพิจารณาในภาพรวมช่วง 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค.) จะพบว่าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยทั้งประเทศ ยังเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

          "ตลาดที่อยู่อาศัยไม่ได้ลดลง สินเชื่อที่อยู่อาศัยยังโต 15% ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ แต่ถ้าดูข้อมูลเดือน เม.ย. - พ.ค. บ้านหลังแรกและบ้านแนวราบโดยรวมไม่ได้ถูกผลกระทบ คอนโดมิเนียมที่เป็นสัญญาที่ 2 ที่ 3 ขึ้นไป เห็นว่ายอดขายลดลง จากข้อมูลผลเป็นไปตามที่คาดไว้ ที่สำคัญคือถ้าดูเงินเดือนของคนที่กู้สัญญาที่ 3 ช่วงที่มีการเก็งกำไร รายได้ของคนกู้สัญญาที่ 3 ลดลงมากจากเดิมรายได้เคยอยู่ที่ 2.5 แสนบาท ลดลงเหลือ 1.4 แสนบาท วันนี้รายได้ของคนที่เข้ามาซื้อหรือขอกู้สัญญาที่ 3 เริ่มขยับสูงขึ้น สะท้อนว่า ถ้าคุณจะเก็งกำไรคุณต้องมีรายได้มากพอที่จะรับความเสี่ยง โดยรวมผลเป็นไปตามที่คาด" นายวิรไท กล่าว

          อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อาจยังเร็วเกินไปที่จะประเมิน เพราะมาตรการ LTV เพิ่งมีผลบังคับใช้เพียง 2 เดือน และมีผลของการเร่งกู้ในช่วง 3 เดือนแรกก่อนที่มาตรการจะมีผลบังคับใช้ด้วย


 
ข่าวนโยบายการเงิน-การคลัง อื่นๆ