เดอะวันเอสเตทฯ ผุดคอนโดฯรับกลุ่มไต้หวันซื้ออยู่อาศัย-ปล่อยเช่า
วันที่ : 27 สิงหาคม 2562
ดีเวลลอปเปอร์กลุ่มทุนไต้หวัน ปักหมุดในไทย เดินหน้าขยายการลงทุนรับศักยภาพและการเติบโต ทางเศรษฐกิจ วางเป้าผลักดันแบรนด์ THE ONE รุกตลาด เป้า 3-5 ปี เปิด 7-8 โครงการ ล่าสุดเปิดโครงการ Ken Attitude รัตนาธิเบศร์-MRT สถานีพระนั่งเกล้า เผยนักลงทุนจากไต้หวัน สนใจเข้ามาซื้อห้องชุดเพียบ ชูจุดขาย ราคา ทำเล และดีไซน์ห้องพักแบบ 2 ชั้น
ดีเวลลอปเปอร์กลุ่มทุนไต้หวัน ปักหมุดในไทย เดินหน้าขยายการลงทุนรับศักยภาพและการเติบโต ทางเศรษฐกิจ วางเป้าผลักดันแบรนด์ THE ONE รุกตลาด เป้า 3-5 ปี เปิด 7-8 โครงการ ล่าสุดเปิดโครงการ Ken Attitude รัตนาธิเบศร์-MRT สถานีพระนั่งเกล้า เผยนักลงทุนจากไต้หวัน สนใจเข้ามาซื้อห้องชุดเพียบ ชูจุดขาย ราคา ทำเล และดีไซน์ห้องพักแบบ 2 ชั้น
นายเฉิน ซื่อ ปิง ประธานกรรมการบริษัท เดอะ วัน เอสเตท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็น กลุ่มทุนจากไต้หวัน เปิดเผยว่า บริษัท เชื่อมั่น ในศักยภาพของประเทศไทย เศรษฐกิจมีความมั่นคง รวมถึงสามารถเชื่อมไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะ เป็นประเทศลาว, เมียนมา และประเทศเวียดนาม ขณะที่โปรดักต์ที่บริษัทพัฒนาจะมุ่งให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าการซื้อและลงทุน โดยบริษัทวางเป้าหมายภายใน 3-5 ปี จะลงทุนเปิดโครงการภายใต้แบรนด์ THE ONE รวมไม่ต่ำกว่า 7-8 โครงการ มูลค่าโครงการขึ้นอยู่กับรูปแบบและขนาดที่ดินในการพัฒนาโครงการ
นอกจากนี้ บริษัทฯยังสนใจที่จะขยายตลาดไปสู่กลุ่มผู้สูงอายุที่รักสุขภาพ ซึ่งจะร่วมมือกับโรงพยาบาลชั้นนำจากประเทศไต้หวันในการพัฒนาโครงการ โดยเลือกจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และจังหวัดนครราชสีมา เนื่องจากมีศักยภาพรองรับลูกค้า เพราะรัฐบาลได้ส่งเสริมให้จ.เชียงใหม่ และเชียงราย เป็นศูนย์กลางรองรับผู้สูงอายุ ส่วนที่ จ.นครราชสีมา จะมีโครงการรถไฟความเร็วสูงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้
ล่าสุดบริษัทฯได้ร่วมกับ บริษัท พรีโม เรียลเตอร์ จำกัด เปิดตัวโครงการ Ken Attitude รัตนาธิเบศร์-MRT สถานีพระนั่งเกล้า ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมสุดหรูวิวแม่น้ำเจ้าพระยา มีจำนวน 588 ยูนิต ขนาดตั้งแต่ 27.5 ตารางเมตร(ตร.ม.) ไปจนถึงขนาด 78 ตร.ม. (ยังไม่รวมพื้นที่ชั้นลอยอีก 30 ตร.ม.) ราคาขายเริ่ม 60,000-70,000 บาทต่อ ตร.ม. หรือราคาเริ่มต้นที่ 2.99 ล้านบาท มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท โดยมีจุดเด่นใกล้รถไฟฟ้า และห้องดูเพล็กซ์จะเป็นแบบ 2 ที่สามารถเห็น แม่น้ำได้ ซึ่งจะมีจำนวนห้องประมาณ 80% ของยูนิตที่เปิดที่ ซึ่งได้รับการตอบรับ จากลูกค้า ทั้งข้าราชการในบริเวณดังกล่าว บุคลากรทางการแพทย์ นักศึกษา และพนักงานเอกชนที่สนใจซื้อ เนื่องจากในบริเวณดังกล่าวส่วนใหญ่จะเป็นขนาด 1-2 ห้องเท่านั้น ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่มีฐานรายได้ระดับ 30,000 บาทต่อเดือน ก็สามารถซื้อห้องในโครงการได้
"ตามแผนแล้วจะเปิดการขายช่วงต.ค.แต่ตอนนี้มีลูกค้าที่เป็นเพื่อนๆ ชาวไต้หวันและเพื่อนนักธุรกิจมาจองซื้อไป แล้ว 25% บนชั้นที่ 23-25 รวม 70 ยูนิต คิดเป็นยอดขาย 200 กว่าล้านบาท โดยกลุ่มลูกค้าของโครงการจะเป็นชาวต่างชาติ 49 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมาจากไต้หวันที่ซื้อเพื่อลงทุนและปล่อยเช่า และ 51 เปอร์เซ็นต์จะเป็นลูกค้าคนไทยที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยและลงทุนเช่นกัน ตัวโครงการคาดจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2565"
นายเฉิน กล่าวว่า มีแนวโน้มลูกค้าจากไต้หวันและฮ่องกง นิยมมาซื้อโครงการคอนโดมิเนียมในไทย เพื่อไว้รองรับบุตรหลานที่เข้ามาศึกษาต่อในประเทศไทย และรองรับการลงทุน ขณะที่ในจีนแล้ว ราคาบ้านค่อนข้างแพง เช่น บ้านเดี่ยวราคา 30 ล้านบาท ได้สิทธิการเช่า 70 ปี
นายเฉิน ซื่อ ปิง ประธานกรรมการบริษัท เดอะ วัน เอสเตท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็น กลุ่มทุนจากไต้หวัน เปิดเผยว่า บริษัท เชื่อมั่น ในศักยภาพของประเทศไทย เศรษฐกิจมีความมั่นคง รวมถึงสามารถเชื่อมไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะ เป็นประเทศลาว, เมียนมา และประเทศเวียดนาม ขณะที่โปรดักต์ที่บริษัทพัฒนาจะมุ่งให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าการซื้อและลงทุน โดยบริษัทวางเป้าหมายภายใน 3-5 ปี จะลงทุนเปิดโครงการภายใต้แบรนด์ THE ONE รวมไม่ต่ำกว่า 7-8 โครงการ มูลค่าโครงการขึ้นอยู่กับรูปแบบและขนาดที่ดินในการพัฒนาโครงการ
นอกจากนี้ บริษัทฯยังสนใจที่จะขยายตลาดไปสู่กลุ่มผู้สูงอายุที่รักสุขภาพ ซึ่งจะร่วมมือกับโรงพยาบาลชั้นนำจากประเทศไต้หวันในการพัฒนาโครงการ โดยเลือกจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และจังหวัดนครราชสีมา เนื่องจากมีศักยภาพรองรับลูกค้า เพราะรัฐบาลได้ส่งเสริมให้จ.เชียงใหม่ และเชียงราย เป็นศูนย์กลางรองรับผู้สูงอายุ ส่วนที่ จ.นครราชสีมา จะมีโครงการรถไฟความเร็วสูงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้
ล่าสุดบริษัทฯได้ร่วมกับ บริษัท พรีโม เรียลเตอร์ จำกัด เปิดตัวโครงการ Ken Attitude รัตนาธิเบศร์-MRT สถานีพระนั่งเกล้า ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมสุดหรูวิวแม่น้ำเจ้าพระยา มีจำนวน 588 ยูนิต ขนาดตั้งแต่ 27.5 ตารางเมตร(ตร.ม.) ไปจนถึงขนาด 78 ตร.ม. (ยังไม่รวมพื้นที่ชั้นลอยอีก 30 ตร.ม.) ราคาขายเริ่ม 60,000-70,000 บาทต่อ ตร.ม. หรือราคาเริ่มต้นที่ 2.99 ล้านบาท มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท โดยมีจุดเด่นใกล้รถไฟฟ้า และห้องดูเพล็กซ์จะเป็นแบบ 2 ที่สามารถเห็น แม่น้ำได้ ซึ่งจะมีจำนวนห้องประมาณ 80% ของยูนิตที่เปิดที่ ซึ่งได้รับการตอบรับ จากลูกค้า ทั้งข้าราชการในบริเวณดังกล่าว บุคลากรทางการแพทย์ นักศึกษา และพนักงานเอกชนที่สนใจซื้อ เนื่องจากในบริเวณดังกล่าวส่วนใหญ่จะเป็นขนาด 1-2 ห้องเท่านั้น ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่มีฐานรายได้ระดับ 30,000 บาทต่อเดือน ก็สามารถซื้อห้องในโครงการได้
"ตามแผนแล้วจะเปิดการขายช่วงต.ค.แต่ตอนนี้มีลูกค้าที่เป็นเพื่อนๆ ชาวไต้หวันและเพื่อนนักธุรกิจมาจองซื้อไป แล้ว 25% บนชั้นที่ 23-25 รวม 70 ยูนิต คิดเป็นยอดขาย 200 กว่าล้านบาท โดยกลุ่มลูกค้าของโครงการจะเป็นชาวต่างชาติ 49 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมาจากไต้หวันที่ซื้อเพื่อลงทุนและปล่อยเช่า และ 51 เปอร์เซ็นต์จะเป็นลูกค้าคนไทยที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยและลงทุนเช่นกัน ตัวโครงการคาดจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2565"
นายเฉิน กล่าวว่า มีแนวโน้มลูกค้าจากไต้หวันและฮ่องกง นิยมมาซื้อโครงการคอนโดมิเนียมในไทย เพื่อไว้รองรับบุตรหลานที่เข้ามาศึกษาต่อในประเทศไทย และรองรับการลงทุน ขณะที่ในจีนแล้ว ราคาบ้านค่อนข้างแพง เช่น บ้านเดี่ยวราคา 30 ล้านบาท ได้สิทธิการเช่า 70 ปี
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ