กทม. ยืนยันยังเดินหน้าเจรจาสัมปทานสายสีเขียวแลกค่าโดยสารกับ BTS อย่าง ต่อเนื่อง แม้ กมธ.ส.ส.ไม่แนะนำต่อ ได้ข้อสรุปเดือนกันยายน ฟาก BTS เตรียมเปิดเดินรถ ตามกำหนดเวลา ลั่นปีนี้รับค่าจ้าง 1.5 พันล้านบาท นักวิเคราะห์เชื่อได้ต่อสัมปทาน ดันมูลค่า เพิ่ม 4 บาท หนุนราคาแตะ 16 บาท คาดปันผล 0.61 บาทรอมอเตอร์เวย์2สาย และสนามบินอู่ตะเภา

          นายกิตติกานต์ จอมดวงจารุวรพลกุล ผู้อำนวยการกองระบบเทคโนโลยีจราจร สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กรุงเทพมหานครฯ (กทม.) ระบุ ในส่วนของคณะทำงานตาม ม.44 ที่ได้รับมอบหมายจาก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานคณะกรรมการเจรจาร่วมระหว่างทางกรุงเทพฯ กับบริษัทบีทีเอส กรุ๊ปโฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS กรณีการขยายอายุสัญญาสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไปอีก 30 ปีนับตั้งแต่ปี 2573 เพื่อควบคุมอัตราค่าโดยสารตลอดเส้นทางไม่ให้เกิน 65 บาท จะยังคงเดินหน้าเจรจาเพื่อหาข้อสรุปให้ได้ภายในเดือนกันยายนนี้ ตามกรอบเวลาที่รัฐบาลกำหนดให้

          "อยู่ระหว่างเร่งสรุปผลจากรายงานการประชุมทั้งหมด เพื่อนำเสนอต่อประธานคณะทำงานตามลำดับชั้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปพร้อมแถลงอย่างเป็นทางการภายในกรอบระยะเวลาที่รัฐบาลกำหนดมา เพราะตลอดการเจรจา คณะทำงานอย่างเข้มข้น มีตัวแทนจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิจารณาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากตัวแปรทุกด้าน เราทำงานกันรัดกุมและรอบคอบมากพอสมควร การศึกษาทุกด้านดำเนินบนกรอบนโยบายที่ได้รับมอบหมายอย่างชัดเจน"

          ก่อนหน้านี้คณะกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎรมีความเห็นไม่ต่อสัมปทานออกไป เนื่องจากมองว่าควรรอให้สัมปทานใกล้หมด จะได้เปรียบกว่า

          ด้าน นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการบริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ปโฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ได้เคยระบุว่า อยู่ระหว่างรอผลสรุป แต่พร้อมเจรจา และยังคงเดินหน้าเตรียมความพร้อมเปิดให้บริการช่วงต่อขยายจากห้าแยกลาดพร้าว - แยกเกษตรภายในเดือนธันวาคม 2562 และจะสามารถเปิดให้บริการเดินรถตลอดสายถึงคูคต จำนวน 16 สถานีได้ภายในเดือนธันวาคม 2564 ตามกรอบเวลา ซึ่ง BTS จะรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้น 10% จากปัจจุบันขบวนละ 1,490 คน เป็น 1,573 คน โดยยังคงรักษาอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิไว้ที่ 25-30% ตามแผนการดำเนินงานระยะ 5 ปี

          "ทางบริษัทอยู่ระหว่างรอท่าทีที่ชัดเจนจากทางรัฐบาล โดยเราก็จะยังคงให้บริการประชาชนตามปกติ ในฐานะผู้รับจ้างเดินรถ หากสุดท้ายแล้วการต่ออายุสัมปทาน 30 ปี ไม่ได้รับความเห็นชอบจากภาครัฐ ก็จะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงาน เพราะปัจจุบันมีสัญญาเดินรถอยู่แล้วจึงต้องปฏิบัติตามสัญญาในการรับจัดการเดินรถส่วนต่อขยายทั้งหมด โดยปีนี้จะเป็นปีแรกที่เราได้รับค่าจ้างเต็มปีวงเงิน 1,500 ล้านบาท"

          ต่อสัญญา เพิ่มมูลค่า 4 บ.

          บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ แม้ราคาหุ้น BTS ที่ซื้อ-ขาย ณ ปัจจุบันจะเร่งตัวขึ้น 41% เมื่อเทียบกับต้นปี 2562 (YTD) และดีกว่า "กลุ่มขนส่ง" ที่ปรับขึ้น 12% แต่ยังไม่สะท้อน "โอกาสในอนาคต" ของ BTS ที่มีแนวโน้มได้ต่ออายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว

          ปัจจุบันฝ่ายวิเคราะห์ประเมินราคาเหมาะสมของ BTS ที่ 12 บาท และคาดจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.61 บาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 4.5% หากได้ต่ออายุสัมปทานจะเพิ่มมูลค่า 4 บาทต่อหุ้น (ราคาเหมาะสมจะถูกปรับขึ้นเป็น 16 บาท) เบื้องต้นฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์ว่ากรุงเทพฯ กับ BTS น่าจะได้ข้อสรุปกรณีดังกล่าวภายในเดือนกันยายน 2562 นี้ ก่อนจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาตามขั้นตอน

          ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์กำไรปกติของ BTS งวดปี 2562/2563 ที่ 3,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.3% เมื่อเทีบยกับปี 2561/2562 (YoY) และหากรวมรายการพิเศษ (การขายหุ้น Bayswater ให้ CPN) หลังหักภาษี (3 พันล้านบาท) BTS จะมีกำไรปกติถึง 6,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125% YoY และคาดการณ์กำไรปกติจะขยายตัวต่อเนื่องอีก 6.6% YoY ในปี 2563/2564 จากการขยายตัวของทั้งธุรกิจรถไฟฟ้า และธุรกิจสื่อโฆษณา

          นอกจากนี้ BTS ยังมีปัจจัยบวกที่เป็น Upside ต่อราคาและกำไรในอนาคตที่ยังไม่รวมในประมาณการดังกล่าว อาทิ 1.โครงการมอเตอร์เวย์ 2 สายคือ สายบางปะอิน-นครราชสีมา และบางใหญ่-กาญจนบุรี และ 2.การประมูลโครงการสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งคาดว่าจะประกาศผลได้ภายในไตรมาส 4/2562