ตลาดอสังหาริมทรัพย์ผันผวน ความต้องการซื้อบ้านไม่ลด แต่ความสามารถในการซื้อลดลง ครึ่งปีแรกเปิดโครงการใหม่ลดลง 35% ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ขณะนี้สต็อกบ้านสร้างก่อนขายน้อยลง ยันตลาดยังไม่ตกต่ำเหมือนวิกฤตปี 2540 ยังขายดีในบางทำเล ช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ การซื้อ-ขายแค่ชะลอตัว ถือเป็นเรื่องปกติ

          นายวสันต์ เคียงศิริ นายกสมาคมบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า บ้านแนวราบมีความผันผวนทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรก ผู้บริโภคกลุ่มแรกที่มีความพร้อม 6 เดือนแรกพบว่า ความต้องการซื้อบ้านไม่ลด แต่ความสามารถในการซื้อลดลง ครึ่งปีแรกเปิดโครงการใหม่ลดลง 35% ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ในอดีตแต่ละโครงการขายได้เดือนละ 10 หลังภายในระยะเวลา 8 เดือน ขณะนี้สต็อกบ้านจาก 6-8 เดือน เหลือแค่ 3 เดือน เพราะสร้างบ้านก่อนขายเป็นไปได้ยากแล้ว เพราะต้องลงทุนสร้างก่อนขาย แต่ยังไม่ทราบว่าจะมีคนซื้อหรือไม่

          "LTV ไม่มีผลกระทบต่อเรียลดีมานด์ ดาวน์หลังแรกไม่ต่ำกว่า 5 % ซื้อหลังที่ 2 ดาวน์ 10% เป็นเรื่องปกติ หากซื้อบ้านหลังใหญ่ ไม่ต้องกังวล LTV คนขายพร้อมขายธนาคารพร้อมปล่อยสินเชื่อ แต่คนซื้อต้องวางแผนนานขึ้น" นายวสันต์ กล่าว

          นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ไม่มีธุรกิจใดดีต่อเนื่องติดต่อกัน 5 ปี เป็นเพียงการปรับฐาน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ไม่ได้ตกต่ำเหมือนวิกฤตช่วงปี 2540 ท่ามกลางการขายได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็ยังมีบางจังหวัดในภูมิภาคขายดี เช่น ภูเก็ต บ้านราคาหลังละ 30 ล้าน พบเพียง 2 เดือนขายหมด เช่นเดียวกับกลุ่มบ้านหลังเล็ก บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ ขายได้ดีในบางทำเล ขณะที่ตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ แม้แต่ละปีราคาขายบวกขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% แต่คนมีเงินก็ยังเลือกที่จะลงทุน เพราะผลตอบแทนสูงกว่านำเงินไปฝากแบงก์ ยิ่งทำเลดี หาผู้เช่าไม่ยาก โดยเฉพาะทำเล 3 จังหวัดอีอีซี ค่าเงินบาทแข็งมา 20% แต่ยังมีต่างชาติมาลงทุน ที่น่าสนใจก็คือวิกฤตฮ่องกง-จีน คนย้ายถิ่นกันมาก ซึ่งประเทศไทยก็เป็น 1 ในเป้าหมายปลายทาง โดยรวมตลาดอยู่ในภาวะแค่ร้อนๆ หนาวๆ ไม่ได้เป็นโรคร้ายแต่อย่างใด

          นางอาภา อรรถบูรณ์วงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ปีนี้ภาวะเศรษฐกิจไทยผันผวน เป็นผลโดยตรงต่อตลาดคอนโดมิเนียม การขายหลังเก่า ซื้อหลังใหม่ในช่วงเศรษฐกิจดีเป็นเรื่องง่าย แต่เมื่อเศรษฐกิจตกต่ำ การซื้อ-ขาย ชะลอตัว ถือเป็นเรื่องปกติ ส่วนตัวยังเชื่อมั่นพื้นฐานเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง แม้ถูกแรงเหวี่ยงจากเศรษฐกิจโลก กระทบเป็นระลอกมายังตลาดในช่วงไตรมาส 2 แต่โดยรวม 6 เดือนลดลงเล็กน้อย ขณะนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาของผู้ประกอบการรายใหม่ เหลือเพียงรายเก่าที่จำเป็นต้องเดินต่อ แต่ทำในอัตราที่ลดลง จากเดิมเปิด 20 โครงการต่อปี อาจเลือกเฉพาะโครงการที่ขายได้แน่นอน โดยเฉพาะบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ที่วงล้อหยุดไม่ได้ เพียงแต่หมุนช้าลง

          "หากให้เปรียบเทียบครึ่งปีแรกกับครึ่งปีหลัง คิดว่าครึ่งปีหลังหลังน่าจะดีกว่า เพราะมีรัฐบาลแล้ว ขณะเดียวกัน นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเฟสแรกออกมาแล้ว คาดว่าไม่นานคงมาแตะเรื่องที่อยู่อาศัย เพราะภาคอสังหาฯ เปรียบเป็นยาแก้เศรษฐกิจให้หายป่วยมาได้ทุกครั้ง หากมียาเม็ดนี้มาในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันของอสังหาฯ คาดจะช่วยเพิ่มจีดีพีได้อย่างมาก” นางอาภา กล่าว