"คอลลิเออร์ส" เผย คอนโดรอบสถานีรถไฟฟ้าปุณณวิถีฮอต "แอล.พี.เอ็น.-เสนา-แสนสิริ-พฤกษา- เอ็ม บี เค เรียลเอสเตท"แห่พัฒนาโครงการหวังดึงกลุ่มเรียลดีมานด์ หนีจากโซนซีบีดี ราคาแพงเกินกำลังซื้อ-เช่า

          นายภัทรชัย ทวีวงศ์ รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมบริเวณรอบสถานีรถไฟฟ้า ปุณณวิถีช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากที่อยู่อาศัยกลางเมือง (ซีบีดี) มีราคาสูง ปัจจุบันมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่กว่า10,700 ยูนิต ด้วยมูลค่ารวม กว่า80,000 ล้านบาท ขณะที่คอนโดย่านนี้ปรับตัว ขึ้นกว่า 70% หรือเฉลี่ยปีละ 7 % ค่อนข้างสูง ทำให้ราคาที่ดินที่เคยขายอยู่ที่ตารางวาละ 2.5แสนบาท ปัจจุบันพบว่า ราคาขายสูงกว่า ตารางวาละ 1 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตัว

          ส่วนหนึ่งเกิดจากการเข้ามาพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ของ ทรู ดิจิทัล พาร์ค พัฒนาโดย บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ผสมผสานพื้นที่สำหรับอยู่อาศัย ทำงาน และการพักผ่อน ริมถนนสุขุมวิท ติดรถไฟฟ้าปุณณวิถี บนพื้นที่ 43 ไร่ มูลค่าโครงการ 3หมื่นล้านบาทที่เป็นเหมือนแม่เหล็กผลักดันให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์และราคาที่ดินในพื้นที่ย่านนี้เติบโต

          ล่าสุดทั้ง คอนโดโลว์ไรส์ ลุมพินี วิลล์ สุขุมวิท 101/1-ปุณณวิถี ของ แอล.พี.เอ็น.,  ปีติ สุขุมวิท 101 ของ เสนา ดีเวลลอปเมนท์, เดอะไลน์ ของแสนสิริ , เดอะไพรเวซี่ สุขุมวิท 101ของ พฤกษา เรียลเอสเตท รวมถึง ควินน์ คอนโด สุขุมวิท 101ของ เอ็ม บี เค เรียลเอสเตท เข้ามาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมบนทำเล ย่านนี้ เพื่อรองรับกลุ่มเรียลดีมานด์ที่ต้องการ ที่อยู่อาศัยในราคาจับต้องได้และเดินทางสะดวก

          จากข้อมูลของฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส ระบุว่า ปัจจุบันคอนโดบริเวณรอบสถานีรถไฟฟ้าปุณณวิถี มีโครงการคอนโดที่อยู่ระหว่างการขาย7 โครงการ จำนวน 3,118 ยูนิต มูลค่ารวม 16,445 ล้านบาท ขายไปแล้ว 2,047 ยูนิต หรือคิดเป็น 66% ของอุปทานที่อยู่ ระหว่างการขายทั้งหมด เหลือขาย 1,071 ยูนิต หรือคิดเป็น 34% จากอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด 7 โครงการ มีจำนวน 3,118 ยูนิต

          นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานการเงินและพัฒนาธุรกิจใหม่ บริษัท แสนสิริ จำกัด กล่าวว่า ด้วยศักยภาพของทำเลใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีปุณณวิถี และทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทำให้โครงการเดอะไลน์ สุขุมวิท 101 มียอดขายกว่า 65% คิดเป็นมูลค่ากว่า3,000 ล้านบาท โดยอุปทานในพื้นที่สุขุมวิท 101 อยู่ที่ 8,517 ยูนิต และอัตราดูดซับอยู่ที่ 7,531 ยูนิตหรือคิดเป็น 88% ของอุปทานกลุ่มลูกค้าในโซนนี้ถือได้ว่าเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ซื้อเพื่อการอยู่อาศัยเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการขยายตัว ของแหล่งงานเพิ่มมากขึ้นในบริเวณดังกล่าว ทั้งอาคารสำนักงานหลายแห่งที่สร้างเสร็จและ เปิดตัวไปในช่วง 1-3 ปี รวมถึงการเปิดตัวของแหล่งไลฟ์สไตล์ใหม่ในบริเวณนี้