คอลัมน์ สถานีอีอีซี: ผังเมืองอีอีซีปลดล็อกลงทุน พัทยา
Loading

คอลัมน์ สถานีอีอีซี: ผังเมืองอีอีซีปลดล็อกลงทุน พัทยา

วันที่ : 11 พฤศจิกายน 2562
หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากทั้งชาวไทยและต่างชาติ คงมีชื่อเมืองพัทยาอย่างแน่นอน ทำให้ทำเลแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ได้สร้างเม็ดเงินทางเศรษฐกิจที่สำคัญ จากกำลังซื้อที่มีโครงสร้างผสมผสานทั้งจากนักท่องเที่ยวที่เป็นคนไทย
          หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากทั้งชาวไทยและต่างชาติ คงมีชื่อเมืองพัทยาอย่างแน่นอน ทำให้ทำเลแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ได้สร้างเม็ดเงินทางเศรษฐกิจที่สำคัญ จากกำลังซื้อที่มีโครงสร้างผสมผสานทั้งจากนักท่องเที่ยวที่เป็นคนไทย และความหลากหลายของชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองพัทยา ที่ไม่ได้พึ่งพานักท่องเที่ยวจากชาติใดชาติหนึ่งเท่านั้น ขณะเดียวกันยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สามารถท่องเที่ยวได้ตลอด ตอบโจทย์ได้ครอบคลุมทุกอายุ

          จากปัจจัยข้างต้นทำให้ภาคการท่องเที่ยวในเมืองพัทยาค่อนข้างคึกคักเป็นอย่างมาก และยิ่งหากโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่ภาครัฐกำลังขับเคลื่อนเกิดขึ้นด้วยการทุ่มเม็ดเงินมหาศาลลงทุนโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ อาทิ เช่น โครงการมอเตอร์เวย์สายใหม่, โครงการขยายสนามบินอู่ตะเภา, โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน คือ สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งนอกจากจะช่วยให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังเมืองพัทยาได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นแล้ว ยังส่งผลดีต่อภาคธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้มีความน่าสนใจและได้รับอานิสงส์มากยิ่งขึ้นด้วย

          ออเนอร์ กรุ๊ป (Honour Group) หนึ่งในผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในเมืองพัทยา และเป็นเจ้าของโรงแรมเดอะไซมีส พัทยา (The Siamese Hotel ), โรงแรมที พัทยา (T Pattaya Hotel), โรงแรมเอ็กซ์คิว พัทยา (XQ Pattaya Hotel) และโรงแรมสวีท เซนส์ จอมเทียน (Sweet Sense Jomtien Hotel) ก็เตรียมจะลุยโครงการใหม่ในพื้นที่เมืองพัทยาและจังหวัดที่ตั้งอยู่ในอีอีซีเช่นเดียวกัน

          ออเนอร์ลุยลงทุนพื้นที่อีอีซี

          นางสาวธิดา เชิดสุริยา ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทออเนอร์ เอสเตท จำกัด กล่าวว่า โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จะเป็นผลดี เนื่องจากเป็นการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ด้านสาธารณูปโภค และเป็นนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ทำให้เกื้อหนุนเกิดโครงการที่อยู่อาศัยและการพักผ่อน ท่องเที่ยว หรือคนที่มาทำงานก็ต้องการเช่าและซื้อที่พักอาศัย โดยลักษณะของคนที่ซื้อคอนโดฯ มีทั้งซื้อเพื่อการลงทุนและอยู่ด้วยตนเอง แต่การซื้อลงทุนน่าจะเยอะกว่า รวมถึงยังต้องการท่องเที่ยวที่ส่งผลให้เกิดการเข้าพักในโรงแรมเช่นเดียวกัน

          ในช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าผังเมืองเดิมพัทยามีปัญหา การพัฒนาเหมือนมีกับดัก พื้นที่นี้ห้ามทำโรงงาน หรือทำอะไรก็จำกัด จะสร้างตึกสูงหรือโรงแรมขนาดใหญ่ ก็ไม่เอื้อต่อการลงทุน จะเห็นได้ว่ามีข้อห้ามค่อนข้างเยอะ ผังเมืองที่ไม่รองรับการลงทุนขนาดใหญ่ จึงต้องทำผังเมืองอีอีซีใหม่ ตอนนี้ก็อยู่ในขั้นตอนแทบจะสุดท้ายแล้ว โดยผังเมืองใหม่ดังกล่าวก็นับว่าเอื้อต่อการลงทุนจริงๆ และเมื่อผังเมืองอีอีซีออก ทางกรมโยธาจะทำใหม่เพื่อลงลึกในรายละเอียดมากขึ้น หรือเรียกว่าผังเมืองท้องถิ่น แม้บางอย่างจะมีล่าช้าไปบ้างแต่ก็ไม่ได้หยุด ทุกอย่างยังเดินหน้าตลอด

          “เมื่อไหร่รถไฟความเร็วสูง ท่าเรือ สนามบิน แล้วเสร็จ รวมถึงการที่ระยองกำลังจะพัฒนาไปสู่โรงงาน 4.0 ที่แท้จริง เป็นเหมือนแหล่งสมองของประเทศไทย แน่นอนว่าแหล่งอุตสาหกรรมจะอยู่รอบๆ และหากมีนวัตกรรมจะมีแรงงานชั้นสูงไม่เหมือนในอดีตอีกต่อไป นโยบายของบริษัทจะเกาะพื้นที่อีอีซี มองว่าระยองก็น่าสนใจ เนื่องจากมีรายได้ต่อหัวก็สูงมาก หรืออยู่ที่ประมาณกว่า 4 หมื่นต่อคนต่อเดือน และหากนำเอาทั้ง 3 จังหวัดมารวมกันก็จะพบว่ารายได้ต่อหัวเทียบเท่าเซินเจิ้นจู่ไห่ ของจีน นับว่าเป็นจุดที่สำคัญมากของประเทศไทย และพัทยาเองเป็นศูนย์กลางแห่งหนึ่ง ก็มั่นใจว่าเป็นอีกหนึ่งยุทธศาสตร์ที่ของบริษัทจะเกาะไปกับอีอีซีอย่างแน่นอน”

          อสังหาฯ พัทยายังไม่ซบ

          นางสาวธิดา กล่าวว่า หากย้อนกลับไปในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์เมืองพัทยามีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม นับตั้งแต่ช่วงเฟื่องฟูของนักท่องเที่ยวรัสเซียก็นิยมซื้อกันมาตอด และแม้ว่าจะมีวิกฤติจากรัสเซีย ก็ยังมีจีนเข้ามาแทน ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่ทำคอนโดมิเนียมมีอนาคตที่ดีมาตลอด ขณะเดียวกันเมื่อจีนมีแรงกระทบกับค่าเงินหยวนที่อ่อน และนโยบายการซื้อคอนโดมิเนียมของจีนที่ค่อนข้างเข้มงวด แต่ภาครัฐส่งเสริมให้มีการลงทุนทั้งไทยและต่างชาติที่ไม่ใช่จีนเข้ามาสนใจมากขึ้น อาทิ เกาหลี และรัสเซีย อาจจะกลับมา รวมถึงต่างชาติจากตะวันตก รวมถึงเอเชีย ก็มามองพัทยากันมาก เรียกได้ว่าเมื่อเกิดปัจจัยลบกับอสังหาฯ เมืองพัทยา ก็มักจะมีปัจจัยด้านอื่นเข้ามาหนุนเสมอ

          สำหรับการขยายตัวของโครงการแนวดิ่งจะค่อนข้างไปได้ดีมากกว่าในเมืองพัทยา เนื่องจากพื้นที่จำกัดและหายาก โดยการเติบโตอสังหาริมทรัพย์ยังเติบโตได้ดี แค่นับการอนุญาตก่อสร้างที่ผ่านมาก็มีจำนวนมาก ไม่มีผู้ประกอบการที่ไหนแย่และไปไม่รอด ส่วนมากเป็นการก่อสร้างผิดมากกว่า ไม่ใช่อยู่ทำเลดีแล้วไปไม่รอด โดยค่านิยมรุ่นหลังอย่างช่วงอายุ 30-40 ปีก็นิยมจะมีคอนโดฯ ติดมือกัน

          พร้อมกันนี้ บริษัทได้ทุ่มเงินลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท พัฒนาโครงการวันส์ พัทยา (ONCE PATTAYA ) คอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองพัทยาสาย 3 (พัทยาเหนือ) ใกล้ห้าง Terminal 21 Pattaya โดยพัฒนาภายใต้ชื่อ บริษัท ออเนอร์ วันส์ จำกัด มีทุนจดทะเบียน 152 ล้านบาท ตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่แบบเหนือระดับกับโครงการมิกซ์ยูส ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Lifestyle Mixed Use” ที่ครบวงจรที่สุดในพัทยา มีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 28.00-59.80 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มที่ 2.85-22 ล้านบาท กำหนดเงินดาวน์ 20% สำหรับลูกค้าคนไทย ส่วนลูกค้าชาวต่างชาติกำหนดเงินดาวน์ 50% โดยเริ่มการก่อสร้างไตรมาสที่ 4 ปี 2562 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 2 ปี 2565 มีประเภทห้องให้เลือก 4 แบบ ด้วยการออกแบบฟังก์ชันใช้สอยพื้นที่ได้อย่างเต็มที่ รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางที่สวยงาม รองรับการอยู่อาศัยทั้งระยะสั้นและระยะยาว

          ทั้งนี้ ที่ตั้งโครงการเรียกได้ว่าเป็นทำเลไข่แดงของพัทยา บนถนนเฉลิมพระเกียรติ พัทยาสาย 3 โซนพัทยาเหนือ แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย ทั้งในด้านอุปโภคและบริโภค อีกทั้งยังเป็นย่านของนักท่องเที่ยวจากชาวต่างชาติได้แวะเวียนมาเที่ยวอยู่ตลอดเวลา ทั้งช่วงไฮซีซั่นและโลว์ซีซั่น โดยโครงการได้รับการดูแลทั้งในเรื่องของการดีไซน์และออกแบบจากสถาปนิกมืออาชีพ เพื่อให้ได้มาตรฐานและสมบูรณ์แบบที่สุด โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติที่ซื้ออยู่อาศัยหรือเป็นบ้านหลังที่สอง รวมทั้งกลุ่มนักลงทุน โดยเฉพาะจากคนไทยที่หันมาลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมในพัทยา ซึ่งทางบริษัทก็พร้อมที่จะรับบริหารปล่อยเช่า สร้างผลตอบแทนจากการลงทุน (Yield) ให้กับลูกค้า

          บริษัทยังมีแผนงานจะทำการเปิดตัวคอนแบรนด์โมชั่น  คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนกว่า 200 ห้อง อยู่เลียบทางรถไฟ หากมีรถไฟความเร็วสูงเข้ามาก็จะดีกว่าเดิมมาก รวมถึงยังมีที่ดินพร้อมสร้างที่พักอาศัยหรือโครงการโมชั่นเซ็นทรัลพัทยา อาจจะออกแบบพื้นที่ออกกำลังกายขนาดใหญ่ เพราะพื้นที่หน้ากว้างมาก เบื้องต้นอาจจะขายห้อง 1 ล้านกว่าบาท จับกลุ่มคนที่รักการออกกำลังกาย เพราะมีข้อดีคือยาวสองร้อยเมตร เป็นจุดขายของการขายคอนโดฯ มีสระว่ายน้ำยาว 50 เมตร โดยกลางเมืองที่ออกกำลังกายขนาดใหญ่ไม่ค่อยมี และยังมีที่ดินในจอมเทียน อยากทำโรงแรมรับประชุมสัมมนา เพราะการลงทุนด้านไมซ์ก็นับว่าสอดคล้องกับตลาด ภายในปีหน้าโครงการเหล่านี้คงจบหมด ไม่ว่าจะเป็นความคิด การออกแบบ เงินลงทุน ก็จะไปต่อ และจะออกสู่ระยอง

          พร้อมสยายปีกสู่ระยอง

          นางสาวธิดา กล่าวอีกว่า ในปีหน้ามีอีกหลายโครงการในเมืองพัทยาที่กำลังเร่งรีบดำเนินงาน เพื่อเตรียมวางแผนลงทุนในจังหวัดระยอง เบื้องต้นคาดการณ์ว่าน่าจะเป็นทั้งแนวราบและแนวดิ่ง โดยตลาดน่าจะใกล้เคียงกรุงเทพฯ และพัทยา แต่จะเป็นคนที่ทำงานจริงจังมากกว่าการท่องเที่ยว การพัฒนาก็ต้องรองรับคนทำงาน ในปีหน้าน่าจะเริ่มไปดูทำเลจริงจัง เพื่อตัดสินใจ

          “มองว่ามีมาบตาพุดกับตัวเมืองที่น่าสนใจ โดยมาบตาพุดจะรองรับคนในอุตสาหกรรมตรงๆ แต่ในเมืองได้ข้าราชการ กึ่งทำงาน และคนในท้องถิ่น โดยในเขตเมืองระยองต่างหากที่ราบยาก แต่อาจทำเป็นคอนโดฯ จำนวน 8 ชั้น แต่ตอบโจทย์คนทำงานอย่างแท้จริง ขณะที่มาบตามุดก็น่าสนใจสามารถไปทางอำเภอวังจันทร์ และอำเภอปลวก”

          ส่วนหลังจากนี้มองว่าเรื่องของระดับราคาภาพรวมก็ต้องมีขึ้นบ้าง แต่ต้องดูโปรดักต์ และทำเลว่าตอบโจทย์หรือไม่ อย่างในเมืองแถวสุขุมวิทเองก็น่าจะมีสัก 30-40 ล้านบาทต่อไร่ ในตัวเมืองระยองค่อนข้างพัฒนาเยอะ ส่วนมาบตาพุดอยู่ในหลัก 10 กว่าล้านบาทต่อไร่ คาดการณ์ว่าไตรมาส 2 และ 3 ก็น่าจะเริ่มเห็นความชัดเจน ตอนนี้พัทยาก็ขยายยาก ต้องบอกว่าบริษัทโชคดีที่ได้มีการสะสมที่ดินมานาน แต่ตอนนี้หากซื้อมาทำก็คงจะยาก

          “ตอนนี้ก็ยังมีโครงการคอนโดฯ ที่ไปได้ เนื่องจากคนรุ่นใหม่ก็ต้องการที่พักอาศัย ทั้งลงทุนและอาศัยเอง ในทุกสถานการณ์ก็ต้องมีดีมานด์ แต่ต้องแย่งกันหน่อย คงขึ้นอยู่กับว่าใครมีของดี โดยบริษัทเองมีทำเลดี และการเข้าออก การออกแบบที่ใช้แบรนด์สิงคโปร์ออกแบบ และของบริษัทเป็นมิกซ์ยูสที่สมบูรณ์แบบ เป็นโครงการที่อยู่ก็ได้ อาศัยก็ได้ ทำงานก็ได้ บางแห่งคอนโดฯ เหงา ของเราเข้าทางโรงแรมได้ หรือจะหาร้านอาหารก็ง่าย” นางสาวธิดากล่าวปิดท้าย.

          "ในช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าผังเมืองเดิมพัทยามีปัญหา การพัฒนาเหมือนมีกับดัก พื้นที่นี้ห้ามทำโรงงาน หรือทำอะไรก็จำกัด จะสร้างตึกสูงหรือโรงแรมขนาดใหญ่ ก็ไม่เอื้อต่อการลงทุน จะเห็นได้ว่ามีข้อห้ามค่อนข้างเยอะ ผังเมืองที่ไม่รองรับการลงทุนขนาดใหญ่ จึงต้องทำผังเมืองอีอีซีใหม่ ตอนนี้ก็อยู่ในขั้นตอนแทบจะสุดท้ายแล้ว โดยผังเมืองใหม่ดังกล่าวก็นับว่าเอื้อต่อการลงทุนจริงๆ และเมื่อผังเมืองอีอีซีออก ทางกรมโยธาจะทำใหม่เพื่อลงลึกในรายละเอียดมากขึ้น หรือเรียกว่าผังเมืองท้องถิ่น แม้บางอย่างจะมีล่าช้าไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้หยุด ทุกอย่างยังเดินหน้าตลอด"
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ