แสนสิริโกยรายได้1.69หมื่นล้าน โชว์ตุนแบ๊กล็อกในมือกว่า5.9หมื่นล้าน
Loading

แสนสิริโกยรายได้1.69หมื่นล้าน โชว์ตุนแบ๊กล็อกในมือกว่า5.9หมื่นล้าน

วันที่ : 13 พฤศจิกายน 2562
นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงาน การเงินและสนับสนุนธุรกิจ บริษัท แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในรอบ 9 เดือน ของปี 2562 บริษัทมีรายได้รวมกว่า 16,900 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,113 ล้านบาท นับว่ามีผลประกอบการที่น่าพอใจ โดยเฉพาะผลการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสที่ 3 ซึ่งมีรายได้รวมกว่า 6,000 ล้านบาท

            นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงาน การเงินและสนับสนุนธุรกิจ บริษัท แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในรอบ 9 เดือน ของปี 2562 บริษัทมีรายได้รวมกว่า 16,900 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,113 ล้านบาท นับว่ามีผลประกอบการที่น่าพอใจ โดยเฉพาะผลการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสที่ 3 ซึ่งมีรายได้รวมกว่า 6,000 ล้านบาท โตขึ้นจากไตรมาสก่อน 40% โดยรายได้จากการขายเติบโตขึ้นถึง 61% จากการทยอยโอนส่งมอบคอนโดมิเนียม อาทิ โครงการ 98 Wireless (ไนน์ตี้เอทไวร์เลส), ทากะ เฮาส์ และดีคอนโด หาดใหญ่ รวมถึงการโอนที่อยู่อาศัยคุณภาพให้แก่ลูกค้าตามแผนงานอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทยังมีกำไรสุทธิเฉพาะไตรมาส 3 อยู่ที่ 424 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาสก่อนถึงเกือบ 50%
            ความสำเร็จดังกล่าวมาจากกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนกลุ่มธุรกิจโดยการรุกตลาดแนวราบ ซึ่งเป็นตลาดที่มาจากเรียล ดีมานด์ ลูกค้ามีความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง แสนสิริจึงสร้างความแตกต่างด้วยกลยุทธ์การพัฒนาโครงการที่ครอบคลุมแบรนด์แนวราบ ตอบโจทย์ลูกค้าทุกเซ็กเมนต์ พร้อมสร้างความแข็งแกร่งและจุดเด่น ในแต่ละแบรนด์ที่ชัดเจน แตกต่างเหนือคู่แข่ง ส่งผลให้ผลประกอบการประสบความสำเร็จ
            "ผลงานที่สำคัญในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา แสนสิริยังได้เข้าซื้อเงินลงทุนจากผู้ถือหุ้นเดิมรายหนึ่ง ใน Standard International Holdings, LLC. หรือ SIH บริษัทแม่ของโรงแรม The Standard แบรนด์โรงแรมอเมริกัน โดยแสนสิริได้ถือหุ้น เพิ่มจาก 37.26% เป็น 60.37% ส่งผลให้ SIH เป็นบริษัทย่อยทางตรงของ Sansiri (US), Inc. และเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัท โดยปริยาย ทั้งนี้ ในระยะเวลาไม่ถึง 2 ปีเต็ม หลังจากที่แสนสิริได้เข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ Standard International ได้ประกาศแผนการขยายธุรกิจสู่ระดับนานาชาติโดยการเปิดโรงแรมแห่งใหม่ทั่วโลก พร้อมขยายสู่ 25 โรงแรมภายใน 5 ปีข้างหน้า" นายวันจักร์ กล่าว
            ไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 ถือเป็นช่วงสำคัญของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากการที่ลูกค้าจะมองหาและตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ นอกจากนี้ จากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐที่ประกาศลดค่าโอน ค่าจดจำนอง จนถึงสิ้นปี 2563 คาดว่าจะช่วยกระตุ้นความต้องการที่อยู่อาศัยให้มีความคึกคักและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้าที่กำลัง มองหาที่อยู่อาศัยในช่วงปลายปีนี้ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ บริษัทยังมีแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดในช่วงไตรมาส 4 รวมอีก 10 โครงการ รวมมูลค่า 14,800 ล้านบาท เพื่อ ตอบรับเรียล ดีมานด์ รวมถึงบริษัทยังมีพรีเซล แบ๊กล็อก อีกกว่า 59,000 ล้านบาท ที่จะรองรับการเติบโตระยะยาวเป็นระยะเวลาอีก 3 ปี
 

ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ