รถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย- มีนบุรี อีกหนึ่งความหวังของคนชานเมืองและผู้ประกอบการธุรกิจ ที่กำลังโหมตอกเข็มก่อสร้างตั้งแต่ถนนติวานนท์ เลี้ยวเข้าถนนแจ้งวัฒนะและรามอินทรา
            แม้จะเป็นรถไฟฟ้ารางเบาหรือ โมโนเรล และเป็นเส้นทางที่เชื่อมพื้นที่จังหวัดนนทบุรีอยู่โซนตะวันตกของกรุงเทพฯไปยังโซนตะวันออก
            ไม่ผ่านพื้นที่เมืองชั้นใน แต่มีจุดตัด กับรถไฟฟ้าหลักหลายสาย ทำให้การเดินทางจากชานเมืองเข้าไปยังในเมือง สะดวกมากขึ้น ส่งผลให้โครงการ ที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นในแนวเส้นทาง ไม่น้อยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
            จากข้อมูลของ "สุรเชษฐ กองชีพ" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ จำกัด โบรกเกอร์ชื่อดัง ระบุว่า โครงการที่อยู่อาศัยในแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพูเริ่มมีออกสู่ตลาดมากขึ้น หลังการก่อสร้างโครงการมีความ คืบหน้าชัดเจนนับจากเริ่มก่อสร้าง โดยเฉพาะพื้นที่แนวถนนรามอินทรา ซึ่งที่ผ่านมาก็มีโครงการอยู่อาศัยเข้าไปลงทุนอยู่แล้ว
            สำหรับ โครงการคอนโดมิเนียมมีราคาไม่แพงจำนวนมากที่เปิดขายในพื้นที่นี้ในช่วงก่อนหน้านี้หลายปี มีเปิดขายในพื้นที่มีประมาณ 3,598 ยูนิต ในจำนวนนี้ประมาณ 50% มีราคาขายต่อยูนิตต่ำกว่า 2 ล้านบาท ส่วนยูนิตที่มีราคาขายต่ำกว่า 3 ล้านบาท จะมีประมาณ 80%
            ขณะที่ บ้านจัดสรร ส่วนใหญ่มีราคาขายอยู่ที่ยูนิตละ 3-5 ล้านบาท ซึ่ง คิดเป็น 41% ของจำนวนบ้านจัดสรรทั้งหมดที่เปิดขายอยู่ในพื้นที่ จำนวน 2,787 ยูนิต และส่วนใหญ่เป็นทาวน์เฮาส์ มากถึง 50% และมีราคาขายต่ำกว่า 5 ล้าน บาทต่อยูนิต ขณะที่บ้านเดี่ยวจะเริ่มที่ ประมาณ 5 ล้านบาทต่อยูนิตขึ้นไป
            สำหรับอัตราการขายเฉลี่ยของ คอนโดมิเนียมในพื้นที่ค่อนข้างสูงอยู่ที่ 89% อาจจะเป็นเพราะในช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมา มีโครงการเปิดขายใหม่ไม่มากนัก
            ซึ่งคอนโดมิเนียมที่ผ่านมามีเปิดขายเมื่อปี 2560 ในพื้นที่ถนนติวานนท์ ส่วนรามอินทรายังไม่มากนัก ในช่วงปี 2562 มีเพียง 1 โครงการขนาดใหญ่ที่เปิดขาย
            ส่วนโครงการบ้านจัดสรรมีอัตราการขายค่อนข้างสูงเฉลี่ยอยู่ที่ 65% เพราะพื้นที่เป็นพื้นที่ยอดนิยมในการเปิดขายโครงการบ้านจัดสรรมาต่อเนื่องมากกว่า 20 ปี
            และมีถนนตัดใหม่เกิดขึ้น รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ที่เพิ่มขึ้น เช่น ศูนย์การค้า หรือตลาดสดสมัยใหม่
            จึงเป็นพื้นที่ยอดนิยมของ ผู้ประกอบการและกลุ่มผู้ซื้อต้องการที่อยู่อาศัย คาดว่าในอนาคตพื้นที่นี้ จะเป็น 1 ในพื้นที่ที่มีโครงการที่อยู่ อาศัยหนาแน่นมากขึ้นอีกหลังรถไฟฟ้า เปิดบริการปลายปี 2564 เป็นความ เคลื่อนไหวที่เริ่มเห็นชัดของทำเล สายสีชมพู  และคงต้องลุ้นท่ามกลาง ตลาดที่ไม่ค่อยเอื้อมากนัก จะมีซัพพลายใหม่เข้ามาเติมอีกมากน้อย แค่ไหน