แค่2นาทีพาเข้าออก28หลุมจอด ซีเมนส์จัดให้ก.พ.เห็นขบวนแรก

          นายเอนก ธีระวิวัฒน์ชัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยความคืบหน้าโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะ (เฟส) ที่ 2 วงเงิน 62,580 ล้านบาทว่า ขณะนี้ภาพรวมการก่อสร้างทั้งโครงการมีความคืบหน้าประมาณ 60% งานโครงสร้างเสร็จทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงงานสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน และการติดตั้งงานระบบภายในอาคาร อาทิ การติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า ระบบตรวจจับวัตถุระเบิด และการติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) หรือรถไฟฟ้าไร้คนขับ

          นายเอนก กล่าวต่อว่า งาน CC1/1 ซึ่งประกอบด้วย งานอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 หรืออาคารแซทเทิล ไลท์ (SAT1) ชั้น B2, B1 และชั้น G ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานโครงสร้างและงานระบบหลัก) ที่ บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เป็นผู้รับเหมาเสร็จแล้ว 100% ส่วนงาน CC1/2 งาน SAT1 ชั้น 2-4 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (CC1/2) ซึ่งกลุ่มกิจการร่วมค้า PCS ที่ประกอบด้วย บมจ.เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง และบริษัท ไชน่า สเตท คอนสตรัคชั่น เอนยิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับเหมา คืบหน้าประมาณ 60-70%

          นายเอนก กล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้างานระบบ APM นั้น เวลานี้กำลังติดตั้งระบบรางคืบหน้ากว่า 60% คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ม.ค.63 ขณะที่ตัวรถอยู่ระหว่างผลิต เป็นรถของบริษัท ซีเมนส์ รุ่น Airval ขบวนแรกน่าจะมาถึงเมืองไทยประมาณเดือน ก.พ.มี.ค. 63 จากนั้นจะทยอยมา จนครบ 6 ขบวน โดย 1 ขบวน จะมี 2 ตู้ รวมเป็น 12 ตู้ ใช้ความเร็วสูงสุด 80 กิโลเมตร(กม.)/ชั่วโมง(ชม.) รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 210 คนต่อขบวน หรือประมาณ 6,000 คนต่อชั่วโมง โดยจะวิ่งใต้ดินให้บริการรับส่งผู้โดยสารระหว่างอาคารผู้โดยสารหลังปัจจุบัน กับ SAT 1 ระยะทางเกือบ 1 กม. ใช้เวลาไม่เกิน 2 นาทีต่อเที่ยว

          นายเอนก กล่าวอีกว่า ภาพรวมการก่อสร้างถือว่าล่าช้ากว่าแผนเล็กน้อย แต่จะเร่งรัดดำเนินการเพื่อให้แล้วเสร็จตามกรอบเวลาเดิมประมาณเดือน เม.ย.63 จากนั้นจะทดสอบความเสถียรของระบบทั้งหมด คาดว่าจะเปิดบริการได้ประมาณเดือน พ.ย.63 ซึ่ง SAT1 มีทั้งหมด 28 หลุมจอด รองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ A380 ได้พร้อมกัน 8 ลำ และอื่น ๆ อีก 20 ลำ ในเวลาเดียวกัน ทั้งนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสาร ของ ทสภ. จากปัจจุบัน 45 ล้านคน เป็น 60 ล้านคนต่อปี และรองรับเที่ยวบินได้เพิ่มขึ้นจาก 60-63 เที่ยวบินต่อชม. เป็น 68 เที่ยวบินต่อชม.