คอลัมน์ ผ่ามุมคิด: พัทยา ไข่แดงอีอีซี
Loading

คอลัมน์ ผ่ามุมคิด: พัทยา ไข่แดงอีอีซี

วันที่ : 15 ธันวาคม 2562
แม้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ปี 2563 จะมีปัจจัยบวกจากรัฐบาลยิงยาวหลายมาตรการกระตุ้น ทั้งลดค่าธรรมเนียมการโอน-จดจำนอง มาจนถึงโครงการบ้านดีมีดาวน์ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำแต่อย่างไรก็ตาม ด้วยภาวะเศรษฐกิจโลกและหนี้ครัวเรือนยังกดกำลังซื้อคนไท
    แม้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ปี 2563 จะมีปัจจัยบวกจากรัฐบาลยิงยาวหลายมาตรการกระตุ้น ทั้งลดค่าธรรมเนียมการโอน-จดจำนอง มาจนถึงโครงการบ้านดีมีดาวน์ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำแต่อย่างไรก็ตาม ด้วยภาวะเศรษฐกิจโลกและหนี้ครัวเรือนยังกดกำลังซื้อคนไทย ส่งผลให้ผู้บริโภค ระมัดระวังการก่อหนี้ใหม่ โดยเฉพาะ "บ้าน" หนี้ก้อนใหญ่ผ่อนจ่ายระยะยาว นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ เพื่อการลงทุนของไทย ชี้ปีหน้าตลาดจะพลิก รัฐต้องจุดพลุมาตรการใหม่ตั้งแต่ต้นปี มองบรรยากาศไม่สดใส กลยุทธ์ต้องเปลี่ยน เชื่อพื้นที่พัทยา เมืองท่องเที่ยวผนวกอีอีซีมาแรง ลุยลงทุนรับดีมานด์ไทย-เทศ ต่อเนื่อง
    เรียกร้องนโยบายรัฐ
    สถานการณ์ตลาดอสังหาฯในช่วงปี 2563 ยังคงไม่สดใส จากกำลังซื้อของคนในประเทศ และกำลังซื้อคนต่างชาติลดลง โดยเฉพาะชาวจีน ซึ่งเคยเป็นกลุ่มผู้ซื้อหลักจากปัญหาใหญ่ สงครามการค้าโลก ทำให้เกิดภาพชะลอการลงทุนในอสังหาฯนอกประเทศ เรามองว่ามาตรการกระตุ้นของรัฐที่ออกมาหลายมาตรการขณะนี้อาจยังไม่เพียงพอ ตรงจุด ในการดึงดูดกำลังซื้อ ซึ่งหากตลาดยังไม่ตอบรับเท่าที่ควร จะมีผลต่อภาวะตลาดในช่วงปีหน้าแน่นอน ฉะนั้นนโยบายรัฐมีส่วนสำคัญมากในการสนับสนุนตลาด และหากจะมีมาตรการใดๆเพิ่มเติมออกมาอีก มองว่าควรออกมาตั้งแต่ช่วงครึ่งปีแรกเลย  ไม่งั้นตลาดจะซบยาว คนทำ คนซื้อ เสียกำลังใจ เพราะคาดภาพรวมเศรษฐกิจโลก จะยังคงชะลอตัวไปอีกสักพัก โดยเฉพาะขาหลักจากเศรษฐกิจจีนที่ยังไม่เห็นแนวโน้มดีขึ้น ขณะที่ฮ่องกงยังน่าเป็นห่วงถึงวิกฤติในประเทศที่อาจจะรุนแรงขึ้นอีก
    "ทราบว่า สมาคมอสังหาฯ มีการเข้าไปหารือกับกระทรวงการคลังเรื่อยๆ จนกว่าจะมีมาตรการอะไรที่ตรงจุดจริงๆ เพราะขณะนี้คนซื้อจิตตก ถ้าภาครัฐชัดเจน จะเป็นจังหวะที่เหมาะในการซื้อ และขาย"
    ตลาดซบ กลยุทธ์ต้องเปลี่ยน
    นายชนินทร์ กล่าวว่า ในภาวะที่ตลาดไม่สดใส กลยุทธ์การทำตลาดเป็นสิ่งที่ดีเวลอปเปอร์ต้องให้ความสำคัญมากที่สุด เพราะดีมานด์มีวงจำกัด ต้องกลับมาดูหลังบ้าน เช่น การวางแผนถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ มองและศึกษาตลาดให้ลึกขึ้น เพิ่มช่องทางขายกลุ่มลูกค้าต่างชาติ รวมถึงการหาเซ็กเมนต์ใหม่ๆ แทนที่จะเน้นเพียงไฮเอนด์ ลักชัวรี อาจต้องลงมาเจาะในกลุ่มราคา+,- 3 ล้านบาท มากขึ้น เพราะเป็นตลาดที่ใหญ่ โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยในโซน กรุงเทพฯ เนื่องจากขณะนี้ตลาดบนมีซัพพลายค่อนข้างหนาแน่น ขณะที่กลุ่มซื้อเพื่อลงทุน ตลาดบนยังมีความต้องการอยู่เฉพาะกลุ่ม สามารถลงไปเล่นได้ต่อเนื่อง
"การตลาดแบบเดิมๆ รอลูกค้าเดินมาหาอย่างเดียว คงใช้ไม่ได้อีกต่อไป ต้องมีทางเลือกเสริมอื่นๆให้กับลูกค้า เช่น โมเดลโครงการแบบใหม่ๆ เป็นต้น"
เจาะไข่อีอีซี
    สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2563 ของบริษัทยังเน้นการพัฒนาโครงการเพื่อการลงทุนในรูปแบบไลฟ์สไตล์ อินเวสเมนต์มากขึ้น โฟกัสทำเลพัทยาเป็นหลัก รองรับการเป็นศูนย์กลางภาคตะวันออก เป็นพื้นที่ที่มีกำลังซื้อหลากหลายจากนักท่องเที่ยวคนไทย และชาวต่างชาติ โดยมีแม่เหล็กสำคัญ อย่างโครงการพัฒนาพื้นที่อีอีซี  ที่จะส่งผลให้การลงทุนหลั่งไหลเข้ามา ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ ต่างประเทศ และภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง
"คาดพัทยาจะเติบโตสูงใน 5 ปีข้างหน้า จากแผนพัฒนาอีอีซี ภาครัฐลงทุน รถไฟฟ้าความเร็วสูงที่เชื่อมต่อ 3 สนามบิน (ดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินอู่ตะเภา) ทั้งยังมีโครงการขยายสนามบินอู่ตะเภา หรือมอเตอร์เวย์ส่วนต่อขยายไประยอง อู่ตะเภา มาบตาพุด ส่งผลเทรนด์การอยู่อาศัยเปลี่ยนไปมาก ราคาที่ดินก็จะวิ่งสูง"
บูมโปรเจ็กต์รมทะเล
    จากปัจจัยดังกล่าว คาดอนาคตตลาดที่อยู่อาศัยในโซนพัทยาจะถูกยกระดับไปสู่ 4 หรือ 5 ดาวมากขึ้น เปรียบเทียบคล้ายหัวหิน ทั้งในกลุ่มโครงการเพื่ออยู่อาศัย และเพื่อการลงทุน จากการเดินทางที่สะดวกรวดเร็วขึ้น ซึ่งอาจเปลี่ยนภาพที่เดิมคนทำงานใน กทม. ไปซื้อบ้านอยู่อาศัยโซนสมุทรปราการ สมุทรสาคร แต่อีกไม่นานคนมีเงินจะไปซื้อบ้านอยู่ติดริมถนน และนั่งรถไฟความเร็วสูงเข้าเมืองเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ส่วนที่น่าสนใจ คือ  ราคาที่ดินติดริมทะเลปัจจุบัน มีราคาเพียงไร่ละ 100-120 ล้านบาท หรือเฉลี่ยตารางวาละ 2 แสนบาทเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากไพรม์โลเกชันใน กทม. ที่พุ่งไปถึงตารางวาละ 2-3 ล้านบาท ทำให้ยังมีโอกาสในการพัฒนาโปรเจ็กต์ริมทะเลได้อย่างคุ้มค่า น่าสนใจ เพราะฉะนั้นเหมาะกับการซื้อเป็นสินทรัพย์ และลงทุน เพราะที่ดินยังมีช่องว่าง ราคาปรับสูงขึ้นไปอีกได้  พบผู้ประกอบการรายใหญ่เริ่มขยับเข้ามาลงทุนในพื้นที่มากขึ้น โดยเฉพาะในโซนนาจอมเทียน
    ทั้งนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการมิกซ์ยูส (คอนโดฯ,โรงแรม)  1 โครงการ  บนทำเลติดทะเลนาจอมเทียน มูลค่า 4.5 พันล้านบาท ส่วน กทม. เน้นทำเลซีบีดีอย่าง อโศก พร้อมพงษ์ และทองหล่อ เป็นต้น
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ