บาทแข็งต่างชาติเบรกซื้ออสังหาฯทรุด40% - คอนโด 5 ล้านอัพ อ่วม
Loading

บาทแข็งต่างชาติเบรกซื้ออสังหาฯทรุด40% - คอนโด 5 ล้านอัพ อ่วม

วันที่ : 14 มกราคม 2563
นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ค่าเงินบาทแข็งค่ามากที่สุดในรอบกว่า 6 ปี โดยแตะที่ระดับต่ำกว่า 30 บาทต่อดอลลาร์ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา และอ่อนลงมาอยู่ที่ 30 บาทต่อดอลลาร์นั้น มีผลกระทบกับธุรกิจอสังหาฯจากเดิม จากปกติปัจจัยภายนอกประเทศก็แย่อยู่แล้ว ยิ่งเจอค่าเงินแข็งขึ้น จากเดิมที่ลูกค้าเคยซื้อราคา 100 บาทกลายเป็น120 บาท ดังนั้นจึงมีผลกระทบต่อตลาดผู้ซื้อต่างชาติ พอสมควร

        ฮาบิแทท กรุ๊ป เผยบาทแข็ง ฉุดตลาดอสังหาฯขายต่างชาติ หด 40-50% คอนโดราคา 5 ล้านอัพชะลอตัว "นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร" ย้ำบาทแข็ง มีผลต่อการตัดสินใจซื้ออสังหาฯของต่างชาติ ขณะคอลลิเออร์สฯ ชี้ค่าเงินแข็งฉุดเศรษฐกิจ ส่อลามสู่ปัญหาเลย์ออฟ สะเทือนกำลังซื้ออสังหาฯทั้งระบบ เหตุคนตุนเงินสด แทนลงทุนคอนโด ค่าเงินบาทที่แข็งอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ต่อเนื่องถึงปี 2563 นอกจากจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการส่งออก และการท่องเที่ยวไทยแล้ว ยังเป็นการซ้ำเติม ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่อยู่ในอาการ น่าเป็นห่วง จากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ยัง ไม่ฟื้นตัว ทำให้กำลังซื้อตลาดในประเทศอ่อนแรง เนื่องจากค่าเงินบาทแข็งค่า ทำให้ชาวต่างชาติที่คิดจะซื้ออสังหาฯไทยต้องคิดหนัก เพราะต้องจ่ายแพงขึ้น
        นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ค่าเงินบาทแข็งค่ามากที่สุดในรอบกว่า 6 ปี โดยแตะที่ระดับต่ำกว่า 30 บาทต่อดอลลาร์ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา และอ่อนลงมาอยู่ที่ 30 บาทต่อดอลลาร์นั้น มีผลกระทบกับธุรกิจอสังหาฯจากเดิม จากปกติปัจจัยภายนอกประเทศก็แย่อยู่แล้ว ยิ่งเจอค่าเงินแข็งขึ้น จากเดิมที่ลูกค้าเคยซื้อราคา 100 บาทกลายเป็น120 บาท ดังนั้นจึงมีผลกระทบต่อตลาดผู้ซื้อต่างชาติ พอสมควร
        "บาทแข็งอสังหาฯปีนี้คงเหนื่อยเหมือนเดิม จากเดิมช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ต่างชาติเข้ามาซื้ออสังหาฯไทย เยอะมาก แต่พอช่วงค่าเงินบาทแข็งขึ้นมาอยู่ที่ 30 บาท ต่อดอลลาร์ ตลาดหัวตัว 40-50% และวันนี้ ยังลงไปอีกตลาดต่างชาติที่ซื้อคอนโดมิเนียมราคา5ล้านบาทขึ้นไปชะลอตัวไปเยอะ ส่วนตลาดระดับราคา 1-2 ล้านบาทพอไปได้"
        นายชนินทร์ ยังกล่าวว่า แนวทางการรับมือบาทแข็ง ที่ผ่านมาได้ลดความเสี่ยง ด้วยการขยายฐานลูกค้าใหม่มากขึ้น ยกตัวอย่าง หากลูกค้าจีนได้รับผลกระทบจากค่าเงินแข็ง อาจต้องปรับตัวด้วยการหาลูกค้าใหม่ไม่ว่าจะเป็นไต้หวัน สิงคโปร์ ฮ่องกง หรือตลาดคนไทยที่มีกำลังซื้อ และหาช่องทางใหม่ หาพันธมิตรเพิ่มขึ้นในการหาลูกค้าใหม่เข้ามาช่วยขายสินค้า เพราะอยู่แบบเดิมไม่ได้แล้ว ทั้งช่องขาย ทีมขาย สินค้า กลยุทธ์การทำตลาดและการขายต่างๆ รวมทั้ง การปรับโปรดักท์เซ็กเมนต์ใหม่ เป็นต้น
        นายวสันต์ เคียงศิริ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าสำหรับธุรกิจอสังหาฯ ในฟากของการสร้างที่อยู่อาศัย อาจไม่เกี่ยวข้องโดยตรงมากนัก เพราะการผลิตส่วนใหญ่จะใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แต่จะกระทบต่อยอดขาย อสังหาฯให้กับผู้ซื้อชาวต่างชาติ โดยเฉพาะ คนจีนซึ่งเป็นตลาดหลัก จากเดิมค่าเงินบาท32บาทต่อดอลลาร์ ปัจจุบัน 30 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นมา 10% (ราคาอสังหาฯ แพงขึ้น 10%)
        นายวสันต์ ยังกล่าวว่า ภาพรวมในปี 2563 เปิดมามีสถานการณ์ให้ตื่นเต้น เยอะตั้งแต่ต้นปี ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิดได้แต่หวังว่า ทุกอย่างจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ไม่ขยายผลกระทบในวงกว้างในเรื่องความขัดแย้ง โดยประเทศไทยมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเสถียรภาพทาง การเงินต่างๆ อาทิ การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดต่อเนื่อง หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) อยู่ประมาณ 40%
ขณะที่ เงินเฟ้อทั่วไปอยู่ในระดับ 0.8% จะมีแต่ปัญหากฎระเบียบต่างๆที่ออกมาไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ ซึ่งผู้ที่ดูแลควรพิจารณาถึงความเหมาะสมและผลดีและผลเสียที่เกิดขึ้น
        ด้านนายภัทรชัย ทวีวงศ์รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า อัตราการขายของโครงการคอนโดในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2562 ถือว่าต่ำที่สุดอยู่ที่ประมาณ 40% หลังจากเริ่มมีการใช้มาตรการควบคุมสินเชื่อ ที่อยู่อาศัย (แอลทีวี) อย่างเป็นทางการ และตลาดเริ่มมีการปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสต่อๆ มา แต่เมื่อเทียบกับในช่วงปีก่อนหน้านี้ ถือว่าต่ำกว่าในทุกๆ ไตรมาส ซึ่งการชะลอตัว ของกำลังซื้อชาวไทยและชาวต่างชาติในช่วงปีที่ผ่านมา
        โดยเฉพาะกำลังซื้อต่างชาติ เป็นหนึ่งในปัจจัยลบที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า มาจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างมาก ทำให้นักลงทุนต่างชาติ กลับพิจารณาถึงความคุ้มค่าในการลงทุน และหากค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ในปี 2563 ย่อมส่งผลกระทบต่ออัตราเติบโตทางเศรษฐกิจ และอาจส่งผลให้เกิดการเลิกจ้างแรงงานต่างๆมากขึ้น
        "ปัจจัยเหล่านี้กระทบกำลังซื้อใน ภาคอสังหาฯแน่นอน หากภาพรวมเศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะชะลอตัว ผู้บริโภคจะเลือกเก็บเงินสด แทนการลงทุน หรือซื้อคอนโด เหมือนในอดีต"
        อัตราการขายของโครงการคอนโดในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2562 ถือว่าต่ำที่สุดอยู่ที่ประมาณ 40% หลังจากเริ่มใช้มาตรการแอลทีวี และตลาดเริ่มปรับตัวดีขึ้นแต่เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าถือว่าต่ำกว่าทุกไตรมาส
 

ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ